อสังหาฯผวาโควิดระบาดหวั่นก่อสร้างสะดุด

จากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดและพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ขณะเดียวกันยอดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามยอดการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น โดยจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าจากยอดการเสียชีวิต 128 ราย ติดเชื้อใหม่ 17,775 ราย(ข้อมูล ณ วันที่ 17 เมษายน 2565)

นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) บริษัทบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในเครือแอล.พี.เอ็น.   กล่าวว่า การระบาดของโควิดสายพันธุ์ “โอมิครอน” ทำให้มีพนักงานที่ติดโควิดเพิ่มขึ้นจากเดิมทั้งในฝั่งงานออฟฟิศ งานบริการและแรงงานก่อสร้าง  เนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนติดง่ายโดยเฉพาะคนในครอบครัว แต่ความรุนน้อย

ดังนั้นทางบริษัทได้จัดพื้นที่ในโซนรังสิตสำหรับรองรับแรงงานที่ป่วยเพื่อรักษาตัวให้หายก่อที่กลับเข้ามาทำงาน ซึ่งต้องยอมรับว่า อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานเกิดความล่าช้าไปบ้างเพราะหยุดงาน   แต่เชื่อว่า หลังจากเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity)สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย  
 

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านกล่าวว่า ในแง่มาตรการป้องกันแรงงานไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด ได้ดำเนินการกันอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าการระบาดของ “โอมิครอน” ติดง่ายและบางคนไม่รู้ว่าติดมาจากไหนระหว่างที่ไปจับจ่ายใช้สอยแม้จะใส่หน้ากากสองชั้นหรือฉีดวัคซีนครบ2-3เข็มแล้วก็ตามก็ยังติดได้

ในแง่การระมัดระวังตัวคงต้อดำเนินการเหมือนเดิมแต่ส่วนที่ต้องเพิ่มเติมคือการตรวจ ATKให้มีความถี่มากขึ้น เพื่อคัดกรองและกันคนที่ติดเชื้อออกไปรักษาก่อนที่เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง มิเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อไซต์งานก่อสร้างต้องหยุด หรืองานล่าช้าออกไป 

"ต้องยอมรับว่า หากคนงานติดกันมาขึ้นจะผลกระทบพอสมควร เพราะปัจจุบันจำนวนคนงานมีจำกัดหากคนงานติดจำนวนมากและต้องหยุดพักไปรักษาตัวส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างทำให้ล่าช้ากว่าที่กำหนดแต่เชื่อว่าไม่รุนแรงถึงขึ้นล็อกดาวน์ "

อย่างไรก็ตามในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีคนงานบางส่วนไม่กลับบ้าน เพราะเกรงไปติดมาจากคนในต่างจังหวัดที่มีปริมาณการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ และภาคอีสาน ประกอบกับไซต์งานก่อสร้างปิดทำให้ปลอดภัยกว่าที่ออกไปข้างนอกต้องพบปะผู้คนมากมาย ส่วนคนงานต่างชาติไม่ได้กลับบ้านฉะนั้นโอกาสที่นำเชื้อมาในไซต์งานลดลง