AMA ต้นทุนเชื้อเพลิงกดดันผลประกอบการ

AMA ต้นทุนเชื้อเพลิงกดดันผลประกอบการ

เราคาดกำไรสุทธิของ AMA ใน 1Q65 จะอยู่ที่ 27 ล้านบาท (+236% YoY, -46% QoQ) โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น YoY สาเหตุหลักมาจากกำไรจากธุรกิจขนส่งสินค้าทางรถสูงขึ้น หลังจากบริษัทเข้าซื้อหุ้น 76% ในบริษัท TSSK และ AUTO เมื่อปลายเดือนกันยายน 2564

ซึ่งทำธุรกิจบริการขนส่งสินค้ากลุ่มเม็ดพลาสติกและรถยนต์ ตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิที่ลดลง QoQ เนื่องมาจากกำไรจากธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือลดลง หลังจากเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของเรือจะลดลงแรง QoQ จาก 16% เหลือ 7% ใน 1Q65 เพราะต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง LSFO ปรับขึ้นแรง ตามราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น แต่บริษัทไม่สามารถปรับค่าระวางเรือสะท้อนได้ทัน ประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันปาล์มดิบ
(CPO) เนื่องจากปริมาณการส่งออก CPO ของประเทศมาเลเซียและอินโดนิเซียน้อยลง จากปัญหาการขาดแคลน แรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิต ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของรถน่าจะยืนใกล้เคียงไตรมาสที่แล้วที่ 20% เพราะต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลที่สูงขึ้นถูกหักล้างไปกับอัตราการวิ่งรถที่ดีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัด COVID-19 ดีขึ้น ในขณะเดียวกันเราคาดว่ารายได้ของบริษัทจะโตขึ้น 3% QoQ เป็น 670 ล้านบาทใน 1Q65 เนื่องมาจากรายได้ของรถน่าจะโตขึ้นเป็น 350 ล้านบาท (+8%QoQ) แม้ว่ารายได้จากเรือจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 320 ล้านบาท (-1% QoQ) จากมีเรือขึ้นอู่ตามแผน 2 ลำ

 

 

 

 

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรลง 24%/6% ในปี 2565/66F

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลง 24% เหลือ 178 ล้านบาท และปีหน้าลงอีก 6% เหลือ 242 ล้านบาท หลังจากเราปรับอัตรากำไรขั้นต้นของเรือลดลงจาก 16.5% เป็น 13% ในปี 2565 และเป็น 15% ในปี 2566 (เมื่อเปรียบเทียบกับ 13.8% ในปี 2564) เนื่องจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง LSFO ที่สูงขึ้น ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น แต่บริษัทไม่สามารถปรับค่าระวางให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้นมากนัก เพราะมีการแข่งขันในธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่สูง จากปัญหาการขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มในประเทศมาเลเซียและอินโดนิเซีย ทำให้มีปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ลดลง นอกจากนี้ เรายังปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นของรถลงจาก 21% เหลือ 20% ในปี 2565 เนื่องจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลที่สูงขึ้น แต่เรายังคงอัตรากำไรขั้นต้นของรถในปี 2566 ไว้ที่เท่าเดิมที่ 21% (เมื่อเปรียบเทียบกับ 22.5% ในปี 2564) เพราะเราคาดว่าต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลจะลดลงในปีหน้า ในขณะเดียวกันเรายังคงประมาณการรายได้ของ AMA ไว้ที่ 2.7 พันล้านบาทในปีนี้ (+27% YoY) และ 2.8 พันล้านบาทในปีหน้า (+6% YoY) ซึ่งโตขึ้นทั้งรายได้จากธุรกิจขนส่งทางเรือและทางรถ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในภูมิภาคและในประเทศ

 

Valuation & Action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2565 เหลือ 5.10 บาท จากเดิม 7.70 บาท โดยอิงจาก PE ที่ลดลงเหลือ 15.0 เท่า จากเดิม 17.0 เท่า เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง, ความเสี่ยงด้านต้นทุนพลังงานและการแข่งขันในธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ เรายังปรับลดคำแนะนำจาก“ซื้อ” เป็น “ถือ” เนื่องจากเราคาดกำไรจะลดลงแรง QoQ ใน 1Q65

 

Risks

ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงผันผวน และภัยธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางทะเล