Sideways เก็งกำไร AWC GULF CENTEL (2 มี.ค.65)

Sideways เก็งกำไร AWC GULF CENTEL (2 มี.ค.65)

คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1,700 / 1,713 จุด แนวรับ 1,688 / 1,681 จุด (EMA 10 วันและ EMA 50 วัน) แนะนำ เก็งกำไร AWC GULF CENTEL ทางเทคนิค ดัชนีฯ จะเกิดสัญญาณซื้อเพิ่ม หากผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,700 จุด

ปัจจัยลบ คือ Sentiment ของตลาดยังคงถูกกดดันด้วยปัจจัยต่างประเทศ จากความตึงเครียดของสงครามยูเครนและรัสเซีย และแรงกดดันเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้น จากการพุ่งแรงของราคาน้ำมันดิบโลก ไฮไลท์ที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ท่าทีของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียจากสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไบเดนในการแถลงประจำปีต่อสภาคองเกรสเช้านี้ และสัญญาณคุมเข้มทางการเงินของเฟด จากสุนทรพจน์ของประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการการเงินคืนนี้ การประชุมกลุ่มโอเปคพลัส สถานการณ์สงครามในยูเครน เงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของ EU และ ตัวเลข ADP Non-Farm Payroll ของสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

        +KTZ Portfolio: Mid Cap แนะนำ BGC M TFG UTP ZEN (ขำย SFLEX TACC ) / Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC BEC TCAP CENTEL BH SCB ADVANC BBL EA GUNKUL COM7 KBANK MINT KTB TTB PLANB BLA (ซื้อ JMT)

       +กลุ่มอิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย: ค้าปลีก CPALL CPN CRC OSP ท่องเที่ยว AOT CENTEL ERW BA

       -กลุ่มรับผลลบ หากกรณีสงครามยูเครนและรัสเซียรุนแรง: -กลุ่มอิงท่องเที่ยว บริการรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งและโลจิสติกส์ AOT MINT CENTEL ERW BA CK STEC RCL +กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงาน (กังวลอุปทาน จากการคว่ำบาตรรัสเซีย) PTTEP PTT TOP BANPU SPRC

        -XD Effect: สัปดาห์นี้ บจ. ขนาดใหญ่ที่ขึ้นเครื่องหมาย XD กระทบต่อราคาหุ้น ได้แก่ PTT TOP GULF

 

ปัจจัยบวก

      Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทย โดยวานนี้มียอดซื้อสุทธิ 4,022.22 ล้านบาท รวมถึงการเปิดสถานะ Long สุทธิ +11,548 สัญญาใน SET50 Index Future

 

 

 

ปัจจัยลบ

       Ukraine Crisis: รัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตียูเครน ล่าสุดรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธใส่อาคารส่งสัญญาณโทรทัศน์ในกรุงเคียฟ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน รวมถึงการระดมพลครั้งใหญ่ เพื่อยึดครองกรุงเคียฟในเร็ว ๆ นี้ โดยสงครำมที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จะยิ่งเพิ่มความผันผวนให้ตลาดในระยะสั้น

      Oil: ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น สร้างความกังวลให้ตลาดถึงอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทรงตัวในระดับสูงจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และกำไรของบริษัท จดทะเบียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่ไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคได้

 

ประเด็นสำคัญ

            - EU ตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน ก.พ. โดย Consensus คาดเพิ่มขึ้นจาก 5.1% เป็น 5.4%

            - สหรัฐฯ ADB Non-Farm Payroll Consensus เดือน ก.พ. โดย Consensus คาดอยู่ที่ 3.88 แสนตำแหน่ง

            - สหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ โดย Consensus คาด เพิ่มขึ้น +2.74 ล้านบาร์เรล

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3: ดัชนีฯ แกว่งตัวในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน โดยทำจุดสูงสุดที่ 1,700.78 จุด ก่อนลดช่วงบวกมาปิดที่ 1,694.28 จุด +9.10 จุด วอลุ่มซื้อขาย 9.1 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +2.09% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +1.79% กลุ่มพาณิชย์ +1.26% กลุ่มการแพทย์ +1.37% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +0.21% หุ้นบวก >4% JUTHA NMG LANNA AGE SOLAR TWZ RBF AJA PRM TSI WICE JAS GBX AWC BH หุ้นลบ >4% NOBLE WAVE MONO ML SKN PEACE

- หุ้นสหรัฐฯ และยุโรปร่วงแรง: DJIA -1.76% S&P500 -1.55% NASDAQ -1.59% จากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ JPMorgan และ Wells Fargo หลัง Bond Yield ปรับตัวลดลงแตะ 1.72% รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ อิงราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้นเหนือ USD100/บาร์เรล หลังรัสเซียโจมตียูเครนรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป CAC40 -3.94% DAX -3.85% FTSE -1.72% เผชิญแรงเทขายอย่างหนัก หลังการเจรจาของตัวแทนรัสเซียและยูเครนไม่มีพัฒนาการเชิงบวก นำลงโดยหุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ

+ ราคาน้ำมันและทองคำปิดบวกอย่างต่อเนื่อง: WTI +USD7.69 ปิดที่ USD103.41/บาร์เรล Brent +USD7.00 ปิดที่ USD104.97/บาร์เรล แม้ IEA ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ และญี่ปุ่น จะมีมติปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองน้ำมันดิบ 60 ล้านบาร์เรล อย่ำงไรก็ตาม ข่าวการปล่อยคลังสำรองน้ำมันดิบดังกล่าว ซึ่งน้อยกว่าการบริโภคน้ำมันทั่วโลกในหนึ่งวัน กลับกลายเป็นการตอกย้ำความกังวลของตลาดว่าอุปทานอาจมีไม่เพียงพอ ขณะที่ทองคำพุ่งแรง +USD43.10 ปิดที่ USD1,943.80/ออนซ์ จากความกังวลเกี่ยวภาวะสงคราม ผลักดันให้เกิดความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย

 

ประเด็นสำคัญ

+ Oil: สำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีมติระบายน้ำมัน จำนวน 60 ล้านบาร์เรล ออกจากคลังสำรอง เพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด หลังจากการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางในการสกัดราคาน้ำมัน ซึ่งพุ่งขึ้นทะลุ USD100/บาร์เรล ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

+ Australia: ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากรัสเซียใช้กำลังทางทหารบุกโจมตียูเครน

+ USA: ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.3 ในเดือน ก.พ. จากระดับ 55.5 ในเดือน ม.ค. โดยปัจจัยหนุนจากการ ผ่อนคลายภาวะคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Buy at Support (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: ADVANC BLA KBANK

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: AWC GULF CENTEL

Derivatives: Wait&see หลังปิด Long ทำกำไรไปแล้ว (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)