วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 ธ.ค. 64)

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง เนื่องจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบปีนี้และปีหน้าลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน หลังได้รับแรงกดดันจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ส่งผลให้หลายประเทศในแถบยุโรปออกมาตการจำกัดการเดินทางเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกดดันความต้องการใช้น้ำมันดิบ

- ตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบว่าอาจล้นตลาด หลังกลุ่มโอเปคพลัสยังคงยืนยันแผนเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตกว่า 400,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐฯ  และหลายประเทศมีแผนปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองยุทธศาตร์เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเช่นกัน 

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน หลังจากนักลงทุนกังวล ว่า FED อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนจึงย้ายเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้การลงทุนในสัญญาถือครองน้ำมันดิบมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่น 

 

 

 

 

 

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่ปรับตัวสูงขึ้นจากประเทศไต้หวันและเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้แรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่ยังอยู่ในระดับดี

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความกังวลของการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน