ผันผวนระหว่างวัน (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564)

ผันผวนระหว่างวัน (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564)

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าประมาณ 5-6 จุด แต่ดัชนีเผชิญแรงขายในช่วงบ่าย ทำให้ดัชนีปรับตัวลงราว 3-4 จุด จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง

เช่น PTT, PTTEP และหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวลงต่อเนื่องทั้ง CPALL, MAKRO แต่มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารที่พยุงดัชนี อย่าง KBANK, SCB, TTB ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,648.46 จุด -1.36 จุด -0.08% มูลค่าการซื้อขาย 73,548 ลบ. ต่างชาติ +338.38 ลบ. TFEX -13,478 สัญญา ตราสารหนี้ -8,304.54 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+/- ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
+ ฝรั่งเศสเปิดให้ปชช.ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์สุดสัปดาห์นี้ หวังสกัดโควิดโดยไม่ต้องล็อกดาวน์
+ อินเดียเล็งออกกฎหมายคุมเงินคริปโตแทนการสั่งห้ามโดยสิ้นเชิง
+ สธ.ลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์อีก 30 ล้านโดส สำหรับปี 65 เป็นเข็มกระตุ้น
+ ตลท. เผยบจ. mai 9 เดือนปี 64 ยอดขายโต 12.0% กำไรสุทธิพุ่ง 463.5%
+ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 จาก 0.4% เป็น 1.1% และปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจในปี 2565 จาก 3.2% เป็น 3.8% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยใน 3Q64 ที่ดีกว่าคาด
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 6,559 ราย ATK 2,806 ราย มีผู้เสียชีวิต 64 ราย รักษาหาย 6,875ราย

 

 

ปัจจัยลบ 

- รัฐบาลสหรัฐขึ้นบัญชีดำด้านการค้ากับบริษัทเทคโนโลยี 8 แห่งในจีนโดยระบุว่าเป็นข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติตลอดจนด้านนโยบายต่างประเทศ
- รัฐบาลจีนแสดงการคัดค้านต่อกรณีที่สหรัฐเชิญเจ้าหน้าที่ไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตย
- WHO จัดประชุมวาระพิเศษวันนี้ หลังพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่อาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า FED มีแนวโน้มที่จะเร่งอัตราการลดวงเงิน QE ขึ้นเป็นสองเท่าที่ระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 เป็นต้นไป และจะยุติมาตรการดังกล่าวภายในกลางเดือนมี.ค. 2565
-ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) รายงานผลสารวจความคิดเห็นของผู้บริโภคไทยสรุปว่าโควิด-19 กระทบต่อรายได้ผู้บริโภคอย่างมากถึง 48% ส่งผลให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจทั้งในด้านการใช้จ่าย การจัดการภาระหนี้ และปัญหาสภาพคล่อง

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังโบรกต่างประเทศปรับเพิ่มคำแนะนำ ขณะที่ยังมีแรงกดดันจากการพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,657 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้น Reopening Play : หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
• MSCI Global Small Cap Indexes มีผล 30 พ.ย. หุ้นเข้า BEC TIPH TIDLOR หุ้นออก TKN
• ประเด็นปรับขึ้นค่า Ft จะเป็นตัวหนุนต่ออัตราการทำกำไรหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า EA SSP GPSC BGRIM
• หุ้นกลุ่มธนาคารเหมาะสำหรับเศรษฐกิจระยะฟื้นตัว SCB KBANK BBL BAY TTB

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                              IP (Bloomberg Consensus 24)

•ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโตสู่ 1.5-1.6 พันลบ. โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้จาก Modern Pharma โรงงานผลิตยาของ เทวา ฟาร์มา และการเข้าซื้อธุรกิจร้านขายยา Lab Pharmacy เป็นตัวหนุนรายได้ ทั้งนี้ จากการขยายการลงทุนสู่ต้นน้ำและปลายน้ำช่วยหนุนให้บริษัทมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในอีก 5 ปีต่อจากนี้สู่ 3 พันลบ. และอยู่ระหว่างทำ telemedicine และ televet ซึ่งเป็นการขายทาง online

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อรายได้และผลประกอบการของ IP อย่างไรก็ตามด้วยราคาในปัจจุบันซื้อขายที่ PE Ratio สูงถึง 81 เท่า ซึ่งสูงกว่าหุ้นในอุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ย 30-40 เท่า เราจึงแนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

 

หุ้นมีข่าว

(+) BCH (Bloomberg Consensus 26.00 บาท) ปักธงรายได้ปี 2565 โต 104% คนไข้ทั่วไป-ต่างชาติกลับมาฟื้นตัว โควตาประกันสังคมเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน รายได้บริการตรวจโควิด-วัคซีนโมเดอร์นาหนุน ด้านรพ.เกษมราษฎร์ เวียงจันทน์ มี EBITDA เป็นบวกแล้วคาดปี 2565 สร้างกำไรได้ มองโอกาสขยายโรงพยาบาลในลาวเพิ่ม พร้อมลุย New S-Curve 3 ธุรกิจใหม่ เสริมรายได้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) III (Bloomberg Consensus 15.25 บาท) รับดีมานด์กระหน่ำโค้งสุดท้าย แถมค่าระวางเรือ-อากาศยังสูง หนุนผลงานกระฉูดยาว มีขนส่งทางรางลาว-จีนเสริมอีก จ่อเริ่มธันวาคมนี้ ลั่นปีหน้าโตต่อจากออแกนิค 30% แถมมีซื้อกิจการเพิ่ม แย้มจ่อเซ็นพันธมิตรใหม่ 1-2 ราย มกราคมปีหน้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SGP (Bloomberg Consensus - บาท) “สยามแก๊สฯ” ลั่นรายได้และกำไรไตรมาส 4/64 จ่อทำนิวไฮ รับไฮซีซั่นธุรกิจ บวกเปิดประเทศดันความต้องการใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น หนุนผลงานทั้งปี 64 เติบโตนิวไฮ พร้อมตั้งเป้าปี 65 รายได้พุ่ง 5-8% จากปี 64 เหตุคาดปริมาณการขายก๊าซ LPG สูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) IIG (Bloomberg Consensus 43.00 บาท) “ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป” ปักธงปี 65 มีรายได้ 900-950 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 288 ล้านบาท มีมูลค่าสัญญารายปี 326 ล้านบาท และอยู่ระหว่างนำเสนองาน 467 ล้านบาท คาดได้งานกว่า 200 ล้านบาท ลุ้นปิดดีล M&A ภายในสิ้นปี 64 คงเป้ารายได้ปี 67 แตะ 2,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)