ADVANC เป็นต่อ |ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ADVANC เป็นต่อ

ปรากฎการณ์ “ร่วมกันเราอยู่” แตกหมู่ “เสียเปรียบ”  ระหว่าง TRUE และ DTAC ทำให้สมรภูมิการแข่งขันเปลี่ยนองศาไปทันที

ด้วยตัวเลขลูกค้า-ต้นทุน เมื่อรวมเข้ามาแล้ว “ต้นทุนลด กำไรเพิ่ม มูลค่าธุรกิจเป็นเท่าตัว”    ซินเนอร์ยี่ เกิดตามเป้าหมายที่วางไว้แต่ถ้ามาเทียบกับเบอร์ 1 ADVANC ตัวเลขกำไรของ 2 ค่ายรวมกันก็ยังห่างไกล   เพราะรายหนึ่งขาดทุน กำไรที่เข้าสูงในบางปีมาจาก ไอเดียขายสินทรัพย์เข้ากองทุน  

อีกรายต้นทุนลดมโหฬารเพราะ “ไม่ได้ลงทุนสูง” เหมือน 2 ค่าย เลยดันเงินสดในมือเพิ่มแบบผิดหูผิดตา

ที่เริ่มพูดกันหนาหูคือดีกรีความร้อนแรงในการแข่งขันจะแผ่วลง เพราะในทุกสนามประมูล และการตลาด รายใหญ่มีทั้ง  “แท็กติก” และ “เทคนิค” ในการทำสงครามราคาหนีไม่พ้นเบอร์ 2    

และยิ่งดูๆไปแล้วไม่น่าจะมีรายที่ 4 กล้าเข้ามาในตลาดเพิ่มได้อีกเหมือนในช่วงประมูล 4 G ที่มี JAS  เจอสะดุดขาตัวเองต้องม้วนเสื่อกลับไป 

ยังไม่นับรวมกับกระแสย้ายค่าย-ย้ายเบอร์  ที่กลายเป็น ADVANC ได้ส้มหล่นก็งานนี้  

 

๐๐๐

หุ้นไทยมีแรงเทขายช่วงท้ายตลาด หลังตลาดยุโรปเปิดมาร่วงหนัก ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดที่กลับมาพุ่งแรงอีกครั้ง ทำให้หลายประเทศในยุโปรต้องกลับมาล็อกดาวน์รอบใหม่

โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,646.42 จุด ลดลง 3.12 จุด หรือ 0.19% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,654.49 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,644.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 90,227.64 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิ 1,353.15 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันขายเช่นกัน 1,569.36 ล้านบาท ส่วนพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิไปทั้งหมด 443.45 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนรายย่อยซื้อรวม 2,479.07 ล้านบาท

๐๐๐

หุ้นบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ยังคงท็อปฟอร์ม เดินหน้าทำ “ออลไทม์ไฮ” ต่อเนื่อง ระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 81 บาท ก่อนปิดการซื้อขายที่ 79.75 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 1.27% หลังประกาศกางแผนธุรกิจ เตรียมเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เฟสแรก 1 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี อย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ธ.ค. นี้ ดันรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าที่ 20% ส่วนปีหน้ายังสดใสรับกระแสอีวี

๐๐๐

ด้านบมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) หลังผลประกอบการซบเซาหนักมาหลายปี ล่าสุดได้ฤกษ์ปรับโครงสร้างการบริหารงานครั้งใหญ่ ดัน “หมอสุวิน” ไกรภูเบศ ขึ้นไปประธานกรรมการบริษัท พร้อมแต่งตั้ง   “พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์” ลูกหม้อคนสำคัญขึ้นแท่น “ซีอีโอ” คนใหม่ หวังอาศัยความเชี่ยวชาญทั้งด้านการวางกลยุทธ์ การทำตลาดต่างประเทศ ช่วยชุบชีวิตองค์กรให้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ขณะที่ราคาหุ้น BEAUTY พุ่งรับข่าวทันที ปิดที่ 1.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือ 2.44%

๐๐๐

ส่วนบมจ.ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี (SVT) ของกลุ่มสหพัฒน์ฯ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง บวกกระฉูด 14.68% ปิดที่ 6.25 บาท หลังผู้บริหารออกมาโชว์แผนธุรกิจ ลั่นปีหน้าเตรียมรุกตลาดกลุ่ม CLMV เต็มรูปแบบจากที่ต้องชะลอไปในช่วงการระบาดของโควิด

ด้านตลาดในประเทศรุกหนักเช่นกัน วางแผนขยายเครื่องเวนดิ้ง แมชชีน เพิ่มอีก 2,000 เครื่อง รวมเป็น 17,000 เครื่อง พร้อมเปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์อย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าดันรายได้ปี 2565 โตกว่า 25% และรักษามาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ในธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ

๐๐๐

บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เป็นอีกหนึ่งหุ้นใหญ่ที่ถูกเทขายลงมา ปิดที่ 19.40 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 3.48% หลังกังวลว่าสถานการณ์โควิดในยุโรปที่กำลังกลับมาระบาดอีกครั้งจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์มีการรายงานตัวเลขการส่งออกอาหารทะเลกระป๋อง โดยเฉพาะปลาทูน่ากระป๋องชะลอตัวลงแรง