BAM-CHAYO-JMT ตุนงบลงทุน เพิ่มเท่าตัว รุกซื้อหนี้เสียปีหน้า
“ธุรกิจบริหารหนี้” จ่อคึกคักปีหน้า “แบม” ชี้เอเอ็มซี ผุดใหม่เพียบ พร้อมตุนเงิน 3-4 หมื่นล้าน รอช้อป ด้าน “ชโย” ชี้มีหนี้ในระบบอีก 3-4 แสนล้าน รอขายทอดตลาด มั่นใจปีหน้ารายได้โต 25% “เจเอ็มที” เชื่อแบงก์เตรียมนำหนี้ประมูลขายปีหน้าจำนวนมาก เตรียมเงินหมื่นล้านซื้อเพิ่ม
ในปี2564 บริษัทจดทะเบียน (บจ.)แห่จัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์หลายแห่ง ประกอบด้วย บมจ.ไซมิส แอสเสท(SA) บจ.ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด, บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์(NOBLE) ,บมจ.อาร์เอส ,บมจ.แสนสิริ (SIRI) ,บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI)บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ฯลฯ จากมองโอกาสธุรกิจนี้เติบโตที่ดี
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM)กล่าวว่า ปัจจุบันเห็นแนวโน้มการตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ บริษัท เอเอ็มซี มากขึ้น ทั้งจากบริษัทในประเทศ และจับมือกับบริษัทต่างชาติ เนื่องจากมองว่าธุรกิจบริหารหนี้ในระยะข้างหน้ามีทิศทางเติบโตได้มาก
โดยเฉพาะปี 2565 ที่คาดว่า ธุรกิจรับซื้อหนี้เสีย จะกลับมาคึกคักมาก เนื่องจากคาดว่าธนาคารพาณิชย์ (แบงก์)จะนำหนี้เสียออกมาขายระดับแสนล้านบาท หลังหมดมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
ดังนั้นบริษัทจึงอยู่ระหว่างพิจารณาออกหุ้นกู้เพิ่มเติม เพื่อใช้รองรับในการซื้อหนี้เสียในปีหน้ามาบริหารเพิ่ม ซึ่งบริษัทมีเงินเหลือจากการออกหุ้นกู้ครั้งก่อนประมาณ 5 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับวงเงินสินเชื่อ จะทำให้บริษัทมีเงินทุนระดับ 3-4 หมื่นล้านบาท ในการเข้าไปซื้อหนี้เสียในปีหน้า ปัจจุบันบริษัทมีหนี้ภายใต้การบริหาร จำนวน 4 แสนล้านบาท
ซึ่งมีอีก 3-4 แสนล้านบาท ที่ยังไม่ออกมาในขายในปีนี้ ดังนั้นเชื่อว่าปีหน้าจะเห็นแบงก์นำหนี้เสียออกมาขายค่อนข้างมาก เพื่อบริหารหนี้เสียไม่ให้เกินระดับ 4%
ทั้งนี้ CHAYO ได้เตรียมพร้อมด้านเงินทุนเพื่อเข้าไปซื้อหนี้เสียปีหน้าแล้วไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากการออกหุ้นกู้ และจากกำไรสะสมของบริษัท ทำให้บริษัทสามารถซื้อหนี้เสียมาบริหารได้หลักหมื่นล้านบาท
ส่วนภาพรวมธุรกิจ คาดว่าทั้งปีนี้ และปีหน้า ผลการดำเนินธุรกิจจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 25% ตามเป้าหมายแน่นอน ส่วนหนี้เสียภายใต้การบริหาร ปัจจุบันอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านบาท
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดใช้เงินลงทุนซื้อหนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ)ที่ 6 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ตั้งซื้อหนี้เสียมาบริหารเพียง 3.4 พันล้านบาท ซึ่งจะหนุนให้ภาพรวมบริษัทมีรายได้เติบโตได้ตามเป้าที่ 30% จากปี 2564 ที่มีรายได้ 3.2 พันล้าน
สำหรับขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม(RO) ซึ่งผู้ถือหุ้นจะชำระค่าหุ้นวันที่ 14-20 ธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะได้เงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อเตรียมเงินทุนสำหรับรองรับซื้อหนี้เสียปีหน้าเป็น 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีหนี้เสียภายใต้บริหารอยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาท โดยกว่า 90% เป็นหนี้ไม่มีหลักประกัน
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์
