BDMS - รับอานิสงส์เปิดประเทศ! (21 ก.ย. 64)

BDMS - รับอานิสงส์เปิดประเทศ! (21 ก.ย. 64)

เราคาดว่ากรุงเทพฯจะเปิดเมืองในปลายต.ค.หรือต้นพ.ย. และจะช่วยปลดล็อคอุปสงค์คงค้าง (pent-up demand) คนไข้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้

ซึ่งจะหนุนกำไรเติบโต 14% ในปีหน้าและจะกลับสู่ระดับก่อนโควิด ภายในปี 2024 ส่วนใน 3Q รายได้การให้บริการโควิดเติบโตก้าวกระโดดและส่งผลให้กำไรฟื้นตัว เราคงคำแนะนำ ซื้อ

 

แสงปลายอุโมงค์ในการเปิดประเทศ

รมต.กระทรวงการท่องเที่ยวเตรียมเสนอแผนการเปิดประเทศระยะที่สองให้ศบค.พิจารณา เราคาดว่ากทม.จะเปิดเมืองได้ในกลางต.ค.-ต้นพ.ย. จากสมมติฐานใช้อัตราการฉีดวัคซีน 14 วันย้อนหลัง  จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสในกทม.จะแตะระดับ 70% ภายใน 14 ต.ค. (Fig. 1) ส่วนในภาพรวมของประเทศไทย จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสจะแตะระดับ 50% ภายใน 14 พ.ย. และ 70% ภายใน 23 ธ.ค. ซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมากขึ้นใน 4Q และอาจยกเลิกการกักตัวภายใน 1Q22 จำนวนวัคซีนใน 4Q จะมีมากขึ้นเป็น 23-30 ล้านโดสต่อเดือน (7.4-9.67 แสนโดสต่อวัน)

 

ปลคล็อคอุปสงค์คงค้างจากผู้ป่วยชาวต่างชาติที่มีอัตรากำไรสูง

การเปิดเมืองจะช่วยให้ผู้ป่วยชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไข้ที่เป็นโรคซับซ้อนและต้องการการดูแลสูง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมากจาก CLMV จีน และตะวันออกกลาง  เราคาดว่า BDMS กำไรจะเติบโต 14% ใน FY22F และ 15% ใน FY23F และกลับสู่ระดับก่อน Covid ภายในปี 2024 (บริษัทคาดปี 2023) โดยในปี 2019 รายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติคิดเป็น 30% ของรายได้ (เทียบกับ 18% ใน 1H21)

 

ผลประกอบการ 3Q แข็งแกร่งจากรายได้ผู้ป่วยโควิด

BDMS ขยายห้องผู้ป่วยในโควิดจาก 1,900 ห้องใน 2Q เป็น 3,000+ ห้องในส.ค. และอัตราการใช้ห้องฟื้นตัวจาก 75% เป็น 85% รวมถึงเพิ่มจำนวนห้อง hospitel ขึ้นอีก 52% จาก 3,300 ห้องใน 2Q เป็น 5,000+ ในส.ค. และเปิดโรงพยาบาลสนามขนาด 100 เตียงใน 28 ก.ค. จำนวนการตรวจโควิดเพิ่มขึ้น 85% จาก 3,787 เคสต่อวันใน 2Q เป็นเฉลี่ย 7,002 เคสต่อวันในก.ค.-ส.ค. อัตราการครองเตียงของคนไข้ที่ไม่ใช่โควิดเพิ่มขึ้นจาก 55% ใน 2Q เป็น 60% ในก.ค. และรายได้เพิ่มขึ้น 18% yoy ใน ก.ค.