มีโอกาสขึ้นต่อ

มีโอกาสขึ้นต่อ

ตลาดหุ้นวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นแรงกว่า 29 จุด แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค หนุนด้วยหุ้นกลุ่ม Big Cap. โดยคาดว่าตลาดซึมซับข่าวร้ายไปช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้านี้

ประกอบกับมองว่าผลประกอบการของหลายบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในงวด 2-3Q63 นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายยังปรับตัวขึ้นสู่หลักแสนลบ.อีกครั้ง คาดเป็น Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที 1,478.92 +29.09 จุด +2.01% มูลค่าการซื้อขาย 1.23 แสนลบ. +6,688.08 บาท TFEX -1,722 สัญญา ตราสารหนี้ -4,107 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ดัชนีดาวโจนส์ปิด +104.09 จุด +0.35% ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮนลท.เข้าซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพจากข่าวคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
+FDA ส่งสัญญาณไฟเขียววัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์หลังทดลองไม่สร้างกังวลเรื่องความปลอดภัย
+ นายกฯอังกฤษจะกลับเข้าสู่การเจรจาการค้า กับ EU พรุ่งนี้
+ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวคลายล็อกนักท่องเที่ยว STV เปิดรับทุกสัญชาติแต่ต้องกักตัว 14 วันและปรับปรุงโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน-กำลังใจ -คนละครึ่งเฟส 2

ปัจจัยลบ

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 16 เซนต์ -0.4% ปิดที่ 45.60 ดอลลาร์/บาร์เรลกังวลต่อการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของเมียนมายังคงน่ากังวล รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,308 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 101,000 คน เสียชีวิต 2,151 คน
-ส่งออก 10M63 หดตัว 7.6% สภาผู้ส่งออกปรับคาดการณ์ส่งออกปี 63 เป็นหดตัว -7 ถึง -6% และพลิกเติบโต 3-5% ในปี 64
-วานนี้ค่าเงินบาทปิด 30.09 แข็งค่าสุดในรอบ 11 เดือนจากเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง เช้านี้เปิด 30.03 แข็งค่าต่อ แข็งกว่าภูมิภาค
-Forward P/E ตลาดหุ้นไทยเดือนพ.ย. 63 อยู่ที่ 26.34 เท่าสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาค
-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 6.43 จุด -0.19%
-ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 80.36 จุด -0.30% เช้าเปิด +59.26 จุด ขานรับอังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากข่าวอังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนวานนี้ ขณะที นักลงุทนยังจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,470-1,490 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 MINT ERW CENTEL AWC CRC BH BDMS
• กพช.ไฟเขียว โรงไฟฟ้าชุมชน ACE PSTC TPCH
• หุ้นเป้าหมายกองทุน SSF และ RMF BBL KBANK TOP PTTGC PTT ADVANC INTUCH

หุ้นรายงานพิเศษ

            STARK    Consensus 2.52 บาท

•ดำเนินธุรกิจผลิตสายไฟฟ้า 4 ประเภท คือ 1.สายไฟฟ้าสำหรับกระแสสูงมาก (>230kV) 2. สายไฟฟ้าสำหรับกระแสสูง (100-230kV) 3. สายไฟฟ้าสำหรับกระแสปานกลาง (3-100kV) และ 4. สายไฟฟ้าสำหรับกระแสต่ำ (<3kV) โดยบริษัทมีโรงงานการผลิต 4 แห่งตั้งอยู่ในประเทศไทย 3 แห่งและเวียดนาม 1 แห่ง

• รายได้ 3Q63 เติบโตสู่ 4.66 พันล้านบาท +66%YoY เนื่องจากมีการ Consolidated งบการเงินจากโรงงานในประเทศเวียดนาม ขณะที EBITDA Margin ปรับเพิ่มขึ้นจาก 10.6% สู่ 17.3% เนื่องจากการมุ่งกลุ่มสินค้า High Margin และการปรับลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

• ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการของบริษัทเนื่องจากมีงานก่อสร้างโครงการภาครัฐในไทยและเวียดนามที่ขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเราคาดว่าบริษัทไม่จ่ายเงินปันผลอีก 1-2 ปีเนื่องจากนำเงินไปช่าระคืนเงินกู้ จึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

หุ้นมีข่าว

(+) JKN (Bloomberg Consensus 10.52 บาท) กางแผน 3 ปี หรือภายในปี 66 ดันรายได้พุ่ง 5,000 ล้านบาท ก่อนทะยานขึ้นสู่ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 68 หวังเข้าคำนวณในดัชนี SET 50 ส่วนปี 64 ลุยธุรกิจคอมเมิร์ซควบคู่ธุรกิจคอนเทนต์ ปั๊มรายได้โต 3,000 ล้านบาท ทุ่มงบลงทุน 1,000 ล้านบาท ลุยศึกษาความเป็นไปได้เข้าลงทุนเครื่องดื่มชาหมัก (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) NER (Bloomberg Consensus 5.00 บาท) ผลงานปีหน้าสดใส ปั๊มรายได้รวมพุ่ง 2.2 หมื่นล้านบาท รับดีมานด์ใช้ยางพาราดีต่อเนื่อง-เซ็นลูกค้าใหม่-เดินเครื่องจักรผลิตเต็มกำลัง 100% ดันยอดขาย 410,000 ตัน พร้อมบุกหนัก “ธุรกิจแผ่นรองพื้นปศุสัตว์” รุกตลาดออสเตรเลียไตรมาส 3/64 เหตุดีมานด์สูง-กำไรดี (ที่มา ข่าวหุ้น)


(+) PIMO (Bloomberg Consensus 2.60 บาท) เล็งผนึกพันธมิตร เซ็น MOU ผุด EV มอเตอร์เจาะกลุ่มรถยนต์ รถบัสไฟฟ้า ด้านบอสใหญ่ "วสันต์ อิทธิโรจนกุล" ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เพิ่มก่าลังผลิต ลุ้นผลงานปี 2564 เติบโตก้าวกระโดดหากพ้นวิกฤติโควิด-19 แต่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น คาดโตแน่ 20% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ICHI (Bloomberg Consensus 14.18 บาท) มั่นใจรักษาผลการด่าเนินงานไตรมาส 4/2563 เติบโตได้ต่อเนื่องเหมือนไตรมาส 3/2563 หลังยอดขายในประเทศฟื้นแกร่ง เผยปีนี้รับรู้กำไรจากบริษัทในอินโดนีเซีย 23 ล้านบาท เดินหน้ารับจ้างผลิต หรือ OEM เพื่อเพิ่มช่องทางทำเงินให้ธุรกิจต่อเนื่อง เตรียมแตกไลน์ธุรกิจ Non Drink คาดชัดเจนปีหน้า (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

สัปดาห์ที 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที 4 ก.พาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

15 ธ.ค. ประชุมครม. ก.คลังจะเสนอรายละเอียดของโครงการคนละครึ่ง เฟส 2

23 ธ.ค. ประชุมกนง.เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

สัปดาห์ที 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

ส่านักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

9 ธ.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักร ต.ค.

จีน เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย.

สหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ สภาผู้แทนสหรัฐโหวดร่างกม.งบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานภาครัฐ

10 ธ.ค. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.

11 ธ.ค. สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.