โบรกชี้ประมูล ‘5G’ แพงเกินคาด จ่อหั่นเป้ากำไรปี 64 เหตุรับผลกระทบเต็มปี

โบรกชี้ประมูล ‘5G’ แพงเกินคาด จ่อหั่นเป้ากำไรปี 64 เหตุรับผลกระทบเต็มปี

โบรก แห่ปรับเป้ากำไรกลุ่มสื่อสาร หลังราคาประมูล “5G” แพงกว่าคาด บล.ทิสโก้ จ่อหั่นคาดการณ์ “แอดวานซ์-ทรู” ลง 1-21% เหตุรายได้ปี 64 ส่อลดจากการตัดจำหน่ายใบอนุญาตใหม่ ด้าน บล.เอเซีย พลัส ชี้แม้ราคาสูงกว่าคาดแต่ถูกกว่า "4จี" ราว3-5เท่า

ราคาหุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ปรับตัวขึ้นราว 4.9% มาปิดตลาดที่ 214 บาท หลังคว้าใบอนุญาตในการประชุม “5จี” ไปทั้ง 3 คลื่นรวม 23 ใบอนุญาต ขณะที่ หุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ปรับตัวลดลง 1.02% และ 1.19% ตามลำดับ ขณะที่ โบรกเกอร์ หลายแห่งประเมินว่า ผลการประชุมคลื่น “5จี” โดยรวมสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ จึงอาจกระทบต่อผลดำเนินงานโดยรวมของกลุ่มสื่อสาร

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการและมูลค่าที่เหมาะสม (แฟร์แวลู่) ของกลุ่มสื่อสารลง เนื่องจากผลกระทบจากการประมูล 5G จำนวน 3 คลื่นความถี่ได้แก่ คลื่น 700 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz ในช่วงวันที่ 16 ก.พ.2563ที่ผ่านมาแย่กว่าที่คาดไว้ เพราะราคาประมูลรวมที่ 1 แสนล้านบาท ถือว่าสูงกว่าที่คาดไว้ และอาจทำให้ต้นทุนจากการประมูลของผู้ประกอบการแต่ละรายปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของ ADVANC และ TRUE

ทั้งนี้ ADVANC ใช้เงินประมูลในครั้งนี้กว่า 4.2 หมื่นล้านบาท รองลงมาคือ TRUE ราว 2.12 หมื่นล้านบาท และ DTAC ราว 890 ล้านบาทนั้น ทำให้ฝ่ายวิจัยต้องปรับประมาณการของ ADVANC และ TRUE ลงราว 1 – 21% ตามการตัดจำหน่ายใบอนุญาตใหม่ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าอาจไม่กระทบกับผลประกอบการปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะจะเริ่มรับรู้ค่าตัดจำหน่าย 90 วันหลังการประมูลหรือตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ปี 2563 เป็นต้นไป แต่ในส่วนของรายได้ปี 2564 คาดว่าจะได้รับผลกระทบเต็มปีจึงทำให้ต้องปรับลดประมาณการลง 

โดยในส่วนของ TRUE ถูกปรับประมาณการมากที่สุดราว 21% เหลือระดับ 37,086 ล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้ 48,037 ล้านบาท, ADVANC -8.5% เหลือระดับ 33,790 ล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้ 36,925 ล้านบาท ส่วน DTAC แทบไม่กระทบจึงยังคงไว้ที่ระดับ 5,790 ล้านบาทเท่าเดิม

ขณะที่นอกจากการปรับประมาณการแล้ว ฝ่ายวิจัยยังมีการปรับแฟร์แวลูหุ้นในกลุ่มสื่อสารปีนี้ลง โดยในส่วนของ ADVANC ปรับมูลค่าที่เหมาะสมลงเหลือ 218 บาทต่อหุ้น จากเดิม 220 บาทต่อหุ้น พร้อมแนะนำให้ “ถือ” และ TRUE ปรับมูลค่าที่เหมาะสมลงเหลือ 6.9 บาทต่อหุ้น จากเดิม 7 บาทต่อหุ้น พร้อมแนะนำให้ “ซื้อ” ส่วน DTAC ยังคงมูลค่าที่เหมาะสมไว้ระดับ 59 บาทต่อหุ้น แนะนำให้ “ถือ”

“การประมูลที่ผ่านมาจะกดดันกระแสเงินสดในอนาคต โดยในปัจจุบัน ADVANC และ TRUE มีคลื่นส่วนใหญ่ของ 5G ในมือราว 43% และ 39% ตามลำดับ ขณะที่ในส่วนของ DTAC คาดว่าผลกระทบน้อยที่สุด แต่มีความเสี่ยงการแข่งขันในอนาคตอาจหนักที่สุด เพราะมีคลื่นในมือน้อย อย่างไรก็ตามยังคงให้น้ำหนักกลุ่มสื่อสารเท่าตลาด เนื่องจากยังมีความเสี่ยงสูง เพราะกสทช.อาจมีการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 3500 MHz ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนผู้เข้าร่วมประมูลเพิ่มสูงขึ้นไปอีก”

นายสุวัฒน์ วัฒนพรพรหม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า ผลประมูลที่ออกมาไม่ได้สร้างดาวไซด์ที่มีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรม แม้ราคาประมูลคลื่นจะสูงกว่าคาดราว 37.6% แต่ทั้งหมดมาจากคลื่น 700 MHz ที่ ADVANC ชนะไป 1 ใบอนุญาต หากดูเฉพาะคลื่น 2600 MHz และ 26 GHz ที่เอกชนทั้ง 3 รายให้ความสนใจเป็นหลัก พบว่าปริมาณทั้งหมดที่ประมูลได้และราคาประมูลใกล้เคียงกับที่คาดไว้ จึงทำให้โดยภาพรวมแล้วช่วยให้ต้นทุนคลื่น 5G ต่ำกว่าต้นทุนคลื่น 4G ราว 3-5 เท่าตัว 

ทั้งนี้ศักยภาพคลื่นหลังประมูลของเอกชนนั้น คาดว่า DTAC จะต้องเหนื่อยกับการประกอบธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากมีช่วงห่างมากขึ้นด้านศักยภาพคลื่น