‘อนันดา'ชูองค์กรดิจิทัลเจาะกลุ่ม‘เจนซี’

ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมต่างๆ และจะเริ่มชัดเจนมากขึ้นหลังจากนี้  

สะท้อนได้จากการเติบโตธุรกิจ“แชริ่ง อีโคโนมี” ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ “แอร์บีแอนด์บี” เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มห้องพักใหญ่ที่สุดในโลก เช่นเดียวกับ “อูเบอร์” ที่มีบริการเดินทางด้วยรถ จำนวนมากที่สุดในโลก โดยที่ทั้ง 2 แพลตฟอร์มไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งโรงแรมและรถยนต์

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงธุรกิจเดิมในหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งอสังหาฯ มุมมองการทำงานจึงต้องแตกต่างไปจากเดิม

กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาที่อยู่อาศัยของอนันดา จึงมุ่งพัฒนาโปรดักท์และดีไซน์ให้แตกต่าง ด้วยจุดแข็งคอนโดติดรถไฟฟ้า เพื่อคืนเวลาการเดินทางและการใช้ชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยในเมือง พร้อมผสานกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกด้าน ภายใต้แนวคิด Urban Living Solutions 

“วันนี้อสังหาฯ ไม่ใช่แค่ธุรกิจ อิฐ หิน ปูน ทราย อีกต่อไป แต่ต้องขายเซอร์วิส ที่ยกระดับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย” 

รูปแบบการทำงานของอนันดา จะปรับการทำงานเข้าสู่องค์กรดิจิทัล ที่ทำเทคโนโลยีมาสร้างมูลค่าตลอดกระบวนการทำงานในระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ การหาที่ดิน ที่จะนำเทคโนโลยีเอไอ เข้ามาช่วยวิเคราะห์ ,การออกแบบดีไซน์ ด้วยเทคโนโลยี BIM และ BIM VR ,การเปิดตัวโครงการและการขายผ่าน ออนไลน์ บุ๊คกิ้ง ,การใช้เทคโนโลยีก่อสร้างที่ช่วยลดแรงงานคน ,การโอนผ่านแอพพลิเคชั่น และบริการหลังการขายผ่าน “สมาร์ท ลิฟวิ่ง แอพ”  

ชานนท์ กล่าวว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ในกลุ่มคอนโดของอนันดา  นอกจากจุดเด่น “ทำเล”ใกล้รถไฟฟ้า ที่เป็นผู้นำมาต่อเนื่อง ปัจจุบันเปิดตัวไปแล้ว 54 โครงการ จำนวน 38,800 ยูนิต  มูลค่ารวมกว่า  1.56 แสนล้านบาท ยังเดินหน้านำเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งที่พัฒนาเอง และร่วมกับพันธมิตรเข้ามาให้บริการ เชื่อมโยงกับแอพ สมาร์ท ลิฟวิ่ง  ทั้งเซอร์วิสการเดินทาง แกร็บ อูเบอร์  ,บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตผ่าน

“นาสเกต” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่ม “เจน ซี”(Gen C) ลูกค้าหลักของอนันดา เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย 

ปี 2561 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่  16 โครงการ มูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นคอนโด 8 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง 7 โครงการ และแนวราบ 8 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 3.5 หมื่นล้านบาท ปีนี้แบรนด์หลักคอนโด คือ “ไอดีโอ”  ที่เฉลี่ยราคาขาย 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. ทำเลหลักยังคงอยู่ติดรถไฟฟ้า เช่น ทำเลติดบีทีเอส สะพานควาย , ทำเล 390 เมตร เอ็มอาร์ที สามย่าน , ทำเล 120 เมตร บีทีเอส วงเวียนใหญ่ , ทำเล 190 เมตร บีทีเอส ทองหล่อ เป็นต้น

"ตั้งเป้าหมายพัฒนาโครงการร่วมทุนเพิ่มขึ้น ด้วยมูลค่าโครงการร่วมทุนกว่า 1.14 แสนล้านบาท ในปี 2561 จาก 9.5 หมื่นล้านบาทในปี 2560 ส่งผลให้สามารถรักษาตำแหน่งผู้พัฒนาอสังหาฯที่มีมูลค่าโครงการร่วมทุนสูงที่สุดในประเทศ”

ปีนี้เตรียมลงทุน เซอร์วิส อพาร์ตเม้นต์ 4 โครงการ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ในทำเล รัชดาภิเษก ,สาทร, สุขุมวิท 8 และทองหล่อ  บริหารโดยพันธมิตร“โกลบอล แบรนด์” 

 

ยอดโอน 7 หมื่นล้านปี64

นับตั้งแต่ปี 2561 อนันดาวางโรดแมพ เป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโต  "4 เท่าใน 4 ปี” โดยคาดยอดโอนเติบโตกว่า 400% จาก 1.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2560 เป็น 7 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 

ปีนี้ คาดว่ามีคอนโดที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอน 9 โครงการ เพิ่มเติมจากในปี 2560 ซึ่งมีคอนโดใหม่สร้างเสร็จ และเริ่มโอน 8 โครงการ

ในปี 2560  อนันดาได้ขยายการขายคอนโดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จากการขายครั้งแรกในเดือน ก.ย. 2556 ด้วยมูลค่า 9,775 ล้านบาท ในปี 2560 เพิ่มขึ้น 164% จากปีก่อน  โดยสามารถขายไปยังลูกค้าใน 38 ประเทศ ในจำนวนดังกล่าว  93% อยู่ในกลุ่มเอเชีย ส่งผลให้อนันดา ก้าวสู่การเป็นบริษัทที่มียอดขายต่างประเทศสูงที่สุดในประเทศในปี 2560 สามารถสร้างยอดขายรวมในประเทศ และต่างประเทศกว่า 3.49 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7% เป็นยอดขายสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท 

โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 5.37 หมื่นล้านบาท รองรับการโอนใน 3 ปีข้างหน้า และเพิ่มขึ้น 30% จากสิ้นปีก่อน