วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 พ.ค. 65)

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับขึ้น เนื่องจากตลาดคลายความกังวล ต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีน หลังจีนประกาศแผนเปิดเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 65  เป็นต้นไป  ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้การลงทุนในสัญญาถือครองน้ำมันดิบมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่น

+ ตลาดยังคงกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร โดยจะหารืออีกครั้งในการประชุมวันที่ 30-31 พ.ค. 65 หลังก่อนหน้านี้ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปแบบเป็นเอกฉันท์ได้ เนื่องจากยังขาดความเห็นชอบของบางประเทศสมาชิก

- ตลาดยังคงกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาพลังงานยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลก อาจต้องใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้เศรษฐกิจอาจมีแนวโน้มชะลอตัวลง

 

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดได้รับแรงกดดันจากอุปทานฝั่งเอเชียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ EIA รายงานสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ค. 65 ปรับตัวลดลงกว่า 4.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่อุปสงค์ในประเทศมีแนว โน้มปรับเพิ่มขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน 

 

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในจีนมีแนวโน้มปรับลดลง หลังจากจีนกำหนดช่วงเวลา "ห้ามจับสัตว์น้ำ" โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา ขณะที่ปริมาณนำเข้าน้ำมันดีเซลในเวียดนามปรับตัวลดลง หลังจากผู้บริโภคในประเทศลดความต้องการใช้ลง เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก