กอบศักดิ์’ ชี้ ‘เมื่อตลาดไม่เชื่อเฟด’ จุดกดดันตลาดเงินป่วนแรง!

กอบศักดิ์’ ชี้ ‘เมื่อตลาดไม่เชื่อเฟด’ จุดกดดันตลาดเงินป่วนแรง!

‘กอบศักดิ์ ภูตระกูล’อดีตรมต.สำนักนายก ชี้เหตุตลาดเฃินทั่วโลกป่วน เพราะตลาดไม่เชื่อเฟด ตลาดเชื่อเฟดคุ้มเงินเฟ้อไม่อยู่ มีโอกาสเกิด Recession สุดท้ายไม่รอดใช้ยาแรงขึ้นดอกเบี้ย0.75% ครั้งหน้า มากกว่าที่เฟดแถลงที่ 0.50%

       นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวล่าสุด หัวข้อ ‘ในเมื่อตลาด ไม่เชื่อประธานเฟด !!!’ 

         กอบศักดิ์ ระบุว่า 3 วันของตลาดที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ตลาดปรับลดลงมาก Dow Jones -5.33% หรือ 1,815 จุดNasdaq -10.35% หรือ 1,341 จุด หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?

      ทำไมวันก่อนหน้า หลังประชุมเฟดเสร็จ ตลาดดูเหมือนจะพอใจในแนวทางที่ท่านประธานเฟดออกมาพูดว่า "คณะกรรมการเฟดไม่ได้พิจารณาการขึ้น 0.75%"

       ทำให้ที่ตลาดกังวลใจว่าเฟดจะต้องใช้ "ยาแรงมาก" ปรับตัวดีขึ้น

      แต่เพียง 1 วันหลังจากนั้น เมื่อมีเวลาคิด วิเคราะห์ ตลาดก็เริ่มเทลงอีกรอบ  ทำให้ที่ขึ้นไป สลายหายไปในพริบตา  

       ในประเด็นนี้ ได้ไปอ่านข่าวต่างๆ ที่ออกมาหลังการประชุมเฟด สรุปได้ง่ายๆ ว่า ตลาดไม่เชื่อประธานเฟด !!!!

ที่ไม่เชื่อมีประมาณ 4 ประเด็น

    1. ท่านประธานเฟดบอกว่า เงินเฟ้อพื้นฐานเริ่ม peak แล้ว ตลาดคิดว่า เงินเฟ้อจะสูงขึ้นกว่านี้

       2. ท่านประธานเฟดบอกว่า Soft landing ปีนี้สหรัฐจะขยายตัวมากกว่า 2% ตลาดคิดว่า Recession แน่ๆ

        3. ท่านประธานเฟดบอกว่า เอาเงินเฟ้ออยู่ ตลาดคิดว่า เอาเงินเฟ้อไม่อยู่

      ทั้งหมดนี้ นำไปสู่ความเห็นต่างที่สำคัญที่สุด คือ

      4. ท่านประธานเฟดบอกว่า ไม่ขึ้น 0.75% ตลาดคิดว่า เฟดจะขึ้น 0.75% ในการประชุมครั้งหน้า

        โดยนักวิเคราะห์ นักเทรด ต่างๆ ออกมาช่วยกันพูดว่า สุดท้ายเฟดก็จะต้องขึ้นดอกเบี้ยแบบเร่งด่วน 0.75% ไปสกัดเงินเฟ้อ 

     เมื่อเห็นคล้ายๆ กันเช่นนี้  หลายคนจึงใช้โอกาสที่ตลาดขึ้นมา ในการขาย   และเตรียมการ Exit จากตลาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงต่ำสุดในรอบปีกว่าๆ

      ที่เป็นอย่างนี้ ส่วนหนึ่งก็คงต้องโทษท่านประธานเฟดเอง เพราะช่วงที่ผ่านมา ท่านพูดแล้วไม่จริง มาแล้วหลายรอบ บอกไว้เมื่อปี 2020 ว่าดอกเบี้ยจะต่ำจนถึงปี 2024 

       บอกว่าเงินเฟ้อที่ขึ้นมา เป็นเพียงเรื่องชั่วคราว ไม่ต้องกังวลใจ

        บอกว่า ไม่ต้องรีบร้อน ขึ้นดอกเบี้ยที่ละ 0.25% จำนวน 7 ครั้งปีนี้ก็น่าจะพอ (การประชุมเฟดเมื่อเดือนมีนาคม) หลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ ก็ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคสำหรับการขึ้น 0.5% 

       พอประชุมเดือนพฤษภาคม ก็ขึ้น 0.5% และแจ้งเพิ่มว่าปีนี้ เฟดจะขึ้น 0.5% รวมกันประมาณ 3-4 ครั้ง !!!

       จึงไม่น่าแปลกใจ ตลาดมีคำถามว่า ท่านประธานเฟดจะพูดอะไรแล้วไม่จริงอีก แล้วที่บอกว่าไม่มี 0.75% นั้น จะจริงหรือไม่ 

      ทั้งนี้ ลึกๆ แล้ว การที่ตลาดเห็นต่างจากท่านประธานเฟดในเรื่องเหล่านี้ หลักๆ เป็นผลมาจากการที่ตลาดอ่านเศรษฐกิจต่างจากทีมงานเฟด ที่ตลาดคิดว่า เฟดมองสวยเกินไป มองว่าจะจัดการปัญหาได้ มองว่าเงินเฟ้อจะลงมาเอง ไม่ต้องใช้ยาแรง

      ความแตกต่างในการอ่านเศรษฐกิจ จึงนำไปสู่ข้อสรุปที่แตกต่างกัน

     และนำไปสู่การ "ชักกะเย่อ ระหว่างเฟดและตลาด ระหว่างการที่เฟดอยากให้ตลาดสบายใจ กับ การที่ตลาดกังวลใจ

      และทำให้สิ่งที่เฟดอยากเห็น คือ การจบลงของความไม่แน่นอนหรือ Uncertainty เกี่ยวกันทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด โดยอุตส่าห์มาบอกคำตอบไว้ล่วงหน้าว่า เฟดจะทำอะไรไปใน 2-3 การประชุมต่อไป 

      แต่สุดท้ายแม้จะส่งสัญญาณขนาดนี้ ความไม่แน่นอน ก็ยังอยู่ในระดับสูง

     เพราะตลาดบอกว่า "ฉันไม่เชื่อเธอ" และมีเส้นทางดอกเบี้ยของตนเอง

      ทั้งหมดนี้คงต้องโทษท่านประธานเฟดคนเดียว ที่ชอบพูดแล้วไม่จริง 

       เพราะการพูดแล้วไม่จริงเช่นนี้บ่อยๆ มีนัยยะมากสำหรับการเป็นนายธนาคารกลาง ทำให้ความน่าเชื่อถือหายไป 

     คำถามสุดท้ายที่คนชอบถาม => ทั้งหมดนี้จะไปต่อกันอย่างไร

      ก็คงต้องไปดูว่า ใครอ่านเศรษฐกิจแม่นกว่ากัน เฟดหรือตลาด

      ก่อนอื่น รอดูวันพุธนี้ ว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะเป็นอย่างไร Core Inflation เริ่ม Peak แล้วจริงหรือไม่ ตามที่ท่านประธานเฟดบอก

     หลังจากนั้น ก็มีตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะมาพิสูจน์กันว่า เศรษฐกิจยังไปได้จริงหรือไม่

      และจุดเปลี่ยนที่สำคัญสุดที่ต้องจับตามอง ก็คือ การประชุมครั้งถัดไป 14-15 มิถุนายน คณะกรรมการเฟดจะทำตามที่พูด 0.5% หรือไม่เพราะสำหรับ "ผู้ที่คนไม่เชื่อถือ" 

ทางออกสุดท้าย ก็คือ 

     ต้องพูดแล้วทำ พูดแล้วทำ พูดแล้วทำ 0.5% 2-3 ครั้งข้างหน้า จนทุกคนกลับมาเชื่ออีกครั้ง

     แต่ระหว่างนี้ ตลาดก็จะผันผวนจากการ "ชักกะเย่อ" ดังกล่าวไปอีกระยะ

     และสุดท้าย หากต้องขึ้น 0.75% จริงๆ คงยากที่คนจะเชื่อท่านประธานเฟดต่อไปในอนาคต 

    มาลุ้นดูกันต่อไปครับ ว่าหนังม้วนนี้จะจบอย่างไร 

#ท่องเศรษฐกิจกับดร.กอบ   #เฟด