แต่งตั้งโยกย้าย

ไม่มีอะไรขยับในระดับหัว เพราะผู้บัญชาการยังเป็นคนเดิม คือ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ หรือ "เดอะกิ๊ก"

O จุดขายของ "เดอะกิ๊ก" คือเรื่อง "ทฤษฎีตำรวจสมัยใหม่" ซึ่งไม่ใช่แค่งานสืบสวนแบบใหม่ๆ ที่เคยสร้างเสียงฮือฮาอย่างกรณี "จับกำนันเป๊าะ" เท่านั้น แต่หมายถึงการเตรียมความพร้อมรับเรื่องใหม่ๆ อย่างการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ด้วย

O เมื่อวันที่ 1 ต.ค. วันแรกของปีงบประมาณ 57 "เดอะกิ๊ก" จึงได้ฤกษ์เด็ด มอบนโยบายให้กับนายตำรวจระดับผู้บังคับการ (ผบก.) จนถึงผู้กำกับการ (ผกก.) ในสังกัด บช.ก.ทุกนาย นำทีมโดย พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ (ผกก.ปพ.) บก.ป. โดยมี "ทูตตำรวจ" จากสถานทูตต่างๆ ประจำประเทศไทยเข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก

O "เดอะกิ๊ก" ให้นโยบายตอนหนึ่งว่า เหลือเวลาอีกไม่นานที่ประเทศไทยต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงอยากให้นายตำรวจที่ย้ายมาใหม่ได้เรียนรู้และศึกษานโยบายว่าเรากำลังเดินทางไปแนวไหน เพื่อนำไปพัฒนาบุคลากรในหน่วยงานให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น

O แน่นอนว่าคีย์เวิร์คย่อมหนีไม่พ้น "ความเป็นสากล" ซึ่งไม่ใช่แค่การใช้ภาษาอังกฤษ แต่ "เดอะกิ๊ก" เน้นว่า ตำรวจในสังกัด บช.ก.ต้องศึกษาสนธิสัญญาระหว่างประเทศให้ละเอียด เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิประชาชนคนชาติอื่นจนอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศได้ นอกจากนั้นยังกำชับให้เตรียมความพร้อมเรื่องการประสานงานระหว่างตำรวจในภูมิภาคอาเซียน เจ้าหน้าที่สถานทูตต่างๆ เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ และกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน ต้องไปขอข้อมูลมาเก็บรวบรวมเป็น "ศูนย์ข้อมูล" เพื่อให้มีการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด ค้ามนุษย์ และก่อการร้าย

O ปิดท้าย "เดอะกิ๊ก" ยังไม่ทิ้งลายเจ้าตำรา "ตำรวจสมัยใหม่" เพราะได้แย้มพรายข่าวใหญ่ให้ฟังว่า มีนายตำรวจยศ "ร้อยตำรวจตรี" ในสังกัด บช.ก.คิดค้นนวัตกรรมใหม่ในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่เป็นขบวนการอาชญากรรม โดยใช้เทคนิคการสืบสวนสมัยใหม่ ซึ่งนับเป็นรายแรกของโลกที่มีการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เหมือนเป็นเกมคอมพิวเตอร์จนสามารถค้นหาข้อมูลคนร้ายได้ แต่เจ้าตัวไม่ยอมเผยข้อมูลมากกว่านี้ บอกว่าต้องรอจดสิทธิบัตรเสียก่อน...งานนี้เห็นทีฝรั่งต้องมาขอพึ่ง "พี่ไทย" บ้าง

O บรรยากาศวันมอบนโยบายรับอาเซียนยังมีการจัดนิทรรศการของกองบังคับการต่างๆ ในสังกัด บช.ก. เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการทำงานของหน่วยที่พร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เช่น การใช้ระบบตรวจสอบและติดตามข้อมูลอาชญากรรม (Compstat) ซึ่งเริ่มใช้ที่กรมตำรวจนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กระทั่งประสบผลสำเร็จ และตำรวจไทยนำมาประยุกต์ เป็นการบริหารงานตำรวจแบบมุ่งเน้นเป้าหมาย มีการนำข้อมูลอาชญากรรมเชิงลึก เทคโนโลยี แผนปฏิบัติการ และการบริหารงานแบบตรวจสอบมาใช้ เพื่อให้สามารถทำงานได้ทันต่อสถานการณ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งการจัดกำลังพลและทรัพยากรอย่างสมดุล