‘เกษตรดิจิทัล’ปั้นฝัน ไร่มันสำปะหลัง‘ยุคใหม่’

‘เกษตรดิจิทัล’ปั้นฝัน ไร่มันสำปะหลัง‘ยุคใหม่’

ทุกคนมีความฝันแต่กว่าจะได้ความฝันมาครอบครองต้องใช้เวลากว่าค่อนชีวิต และกว่าจะรู้ว่าฝันนั้นนอกจากจะเป็นจริงไม่ได้แล้วยังไม่ใช่สิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริงก็อาจสายเกินไป เมื่อเงื่อนไขชีวิตกำหนดให้ต้องเลือก และเลือกแล้วต้องทำให้ได้ดี นั่นคือเรื่องราวเกษตรกรไร่มันสำปะหลังจากจ.อุทัยธานี ผู้นำความฝันผสานกับเทคโนโลยีจนได้ผลลัพธ์เป็นเกษตรดิจิทัลและไร่มันสำปะหลังยุคใหม่

‘เกษตรดิจิทัล’ปั้นฝัน ไร่มันสำปะหลัง‘ยุคใหม่’

พโยม สายหยุด ประธานกลุ่มแปลงใหญ่มันสำปะหลัง จ.อุทัยธานี เล่าว่า เคยตามฝันที่กรุงเทพฯ ทำงานหลากหลายแต่ได้เงินเป็นรายได้ผลตอบแทนน้อยมาก ประกอบกับเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 จึงเลือกที่จะกลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด

พอสุดท้ายแล้วฝันที่ตามหาไม่เป็นดังหวัง ก็เลยกลับมาตั้งหลักที่บ้านเกิดและหาอาชีพที่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างยั่งยืน เดิมตั้งใจทำอาชีพทางการเกษตรพอเห็นคนปลูกมันสำปะหลังแล้วดีก็ทำตาม

เมื่อตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตชาวไร่มันสำปะหลังที่ก่อนจะลงมือปลูกก็พอดีเป็นช่วงที่กำลังมีการสร้างเขื่อนทับเสลา กรมชลประทานจึงจัดพื้นที่ในหมู่บ้านเพชรน้ำผึ้ง สำหรับคนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมจาการสร้างเขื่อน เป็นการจัดสรรที่ดินให้ครอบครัวละ 12 ไร่ ซึ่งไม่ใช่แค่แบ่งที่ดินให้แต่กรมชลประทานยังตามมาดูแลและช่วยเหลือเรื่องของน้ำด้วยการจัดสรรน้ำให้เกษตรในหมู่บ้าน เป็นทั้งรูปแบบการส่งน้ำให้ตลอดและแบบที่เป็นช่วงฤดูแล้งมาก็จะส่งน้ำให้ตามระดับความเหมาะสมกับสถานการณ์ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแล้ว

“พอดีที่บ้านเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจากการทำเขื่อน กรมชลประทานจึงหาที่ดินทำกินให้ใหม่ 12 ไร่ สำหรับชาวบ้าน
ที่ได้รับความเดือดร้อน พอย้ายที่ทำกินมาใหม่ เดิมเคยมีปัญหาเรื่องน้ำ ตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำเลย เพราะทางกรมชลประทานได้จัดสรรบริหารน้ำให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างดี

หลังจากมีแหล่งน้ำที่ดีแล้ว ก็ได้เวลาเริ่มเอาจริงเอาจังกับการปลูกมันสำปะหลัง ที่ต้องเริ่มจากการไถพรวนดิน เตรียมดินให้ปราศจากวัชพืช จากนั้นต้องปรับดินยกร่องอกและทำสันร่องขึ้นมา ขั้นตอนเตรียมดินเรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนตัดกล้ามันสำปะหลังซึ่งจะใช้ลำต้นเป็นท่อนพันธุ์เสียบปลูกไปตามร่อง ระยะเวลารวมบวกกับการดูแล การใส่ปุ๋ยจนครบ1 ปี ก็สามารถเก็บผลผลิตได้

‘เกษตรดิจิทัล’ปั้นฝัน ไร่มันสำปะหลัง‘ยุคใหม่’

แม้ขั้นตอนการปลูกมันสำปะหลังจะเป็นเหมือนสูตรสำเร็จ เป็นวิธีการที่ใครๆ ก็รู้หรือหาความรู้ได้ แต่ในชีวิตจริงที่ไม่เหมือนความฝัน คือทุกอาชีพก็มีปัญหากันอยู่แล้ว ยิ่งการปลูกมันสำปะหลังจะพบว่าถ้าช่วงไหนแล้งจัดๆ เพลี้ยจะลงเยอะมาก ทำให้มันสำปะหลังยอดไม่แตก ไม่เจริญเติบโต มันสำปะหลังลงหัวไม่ดี นอกจากนี้ หากมีภาวะฝนแล้ง ซึ่งแต่ก่อนที่ยังไม่มีระบบน้ำหยด จะเกิดโรคใบเหลืองซึ่งผลคือเมื่อใบเหลืองมันสำปะหลังจะปรุงอาหารไม่ได้ พอปรุงอาหารไม่ได้หัวมันสำปะหลังจะไม่โต

พโยม เล่าอีกว่า การแก้ปัญหาคือ เข้าไปดูในอินเทอร์เน็ตเพื่อหาวิธีแก้ปัญหา ในชั้นต้นจะนำวิธีที่ได้มาใช้ในพื้นที่ของตัวเองก่อนเมื่อพิสูจน์ว่าได้ผลดีจึงนำไปส่งต่อให้สมาชิกที่รวมกลุ่มกัน เป็นเกษตรแปลงใหญ่ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการรวมตัวกันเป็นประโยชน์ในแง่เมื่อภาครัฐเข้ามาให้ความช่วยเหลือก็จะดำเนินการได้ง่ายและได้ผลดีกว่า

“เกิดปัญหามากๆ เข้าจึงลองศึกษาวิธีการแก้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ระบบออนไลน์ แค่กดเข้าไปดูก็มีแหล่งความรู้หมด พอเราแก้ปัญหาได้ชาวบ้านที่เขามีปัญหาเขาก็อยากให้เราช่วยบ้าง ผมก็เลยจับรวมกลุ่มแปลงใหญ่”

จากที่ต้องจากบ้านไปตามหาความฝัน ขอให้นึกถึงพื้นที่ที่มีอยู่ถ้ารู้จักพัฒนาแก้ไขปัญหา บ้านอาจเป็นความฝันที่ตามหาอยู่อย่างแท้จริง