ทุ่มทุกอย่างในชีวิต จากเด็กช่างสู่เจ้าของโชว์รูมร้อยล้าน

ทุ่มทุกอย่างในชีวิต จากเด็กช่างสู่เจ้าของโชว์รูมร้อยล้าน

ทุ่มทุกอย่างในชีวิต แลกกับสิ่งที่ฝันถึงอดีตเด็กช่างยนต์ เป็นเจ้าของโชว์รูม “เอ็มจี” ร้อยล้าน

“เจ้าของกิจการ” น่าจะเป็นความฝันของใครหลายคน มีจำนวนไม่น้อยที่มุ่งมั่นทำจนสำเร็จอาจจะมีข้อจำกัดในชีวิตบ้าง แต่ไม่ยอมแพ้ในโชคชะตา หรือบางคนเลือกจะสะสมเวลาทั้งชีวิต ค่อยๆ ปูทางจนไปถึง หนึ่งในคนจำนวนนั้นคือ “คุณวัชระ บุญมาก”อดีตเด็กช่างเทคนิคยานยนต์เขาได้ทำตามความฝันตัวเองสำเร็จในวัย 48 ปี กับการเป็นผู้บริหารบริษัท เอ็มจี พารากอน เซลล์ จำกัด เจ้าของศูนย์จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีพารากอน ย่านสายไหม ที่แสนภูมิใจกับผลกำไรร้อยล้านเพราะโชว์รูมรถแห่งนี้ได้แลกมากับประสบการณ์ในแวดวงรถยนต์เกือบ 30 ปี และเงินลงทุนที่เก็บออมมาทั้งชีวิต

- จากเด็กช่างสู่เจ้าของโชว์รูมร้อยล้าน

“หลังเรียนจบ ปวช.ช่างเทคนิคยานยนต์เมื่อปี 2530 ผมได้เริ่มชีวิตการทำงานเป็นช่างซ่อมรถที่ค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง แต่มีวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายไม่พอ จึงได้เข้าไปช่วยงานส่วนนี้ในตอนนั้นความรู้สึกที่ขายรถได้ครั้งแรกยังอยู่ในใจ ทำให้ค้นพบความฝันของตัวเองเลยว่าอยากเป็นเจ้าของโชว์รูมรถ ตั้งใจว่าต้องทำให้สำเร็จ จึงค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ ตั้งแต่เป็นช่างซ่อมควบคู่กับเป็นเซลล์ พอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง ก็ลงทุนขายรถมือสองร่วมด้วยเรียกว่าตอนนั้นทำอะไรได้ เราทำหมด จนมาถึงปี 2543 เก็บเงินได้พอสมควร จึงนำมาลงทุนเปิดสถานตรวจสภาพรถเอกชน ที่ถนนสายไหม 52 แห่งนี้ แล้วแบ่งพื้นที่ทำอู่ซ่อมรถเหลือที่ว่างด้านหน้าเราก็เอารถมอเตอร์ไซค์มาขายด้วย ในระหว่างนี้ก็ศึกษาแบรนด์รถยนต์ต่างๆ ซึ่งเคยไปยื่นขอร่วมลงทุนกับค่ายหนึ่ง แต่ก็ไม่ผ่านการพิจารณา จนในที่สุดได้รู้จักเอ็มจี เป็นค่ายใหม่ก็จริง แต่ใจมากที่ให้โอกาส เห็นความตั้งใจจริง ทำให้ผมได้ทำตามฝันสำเร็จ ในวันนี้ได้เปิดโชว์รูมรถแล้ว” คุณวัชระ กล่าว

- ทุ่มทั้งหมดในชีวิต เพราะเชื่อมั่นในแบรนด์

เมื่อถึงวันหนึ่งที่คิดว่าพร้อมแล้วทั้งเงินลงทุนและประสบการณ์ ก็ได้พบกับโอกาสครั้งใหญ่ เมื่อ “เอ็มจี” เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ยิ่งรู้จักและศึกษามากขึ้นก็ยิ่งมั่นใจในตัวแบรนด์ สินค้าและนักลงทุน จึงตัดสินใจเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง ทุ่มทั้งหมดในชีวิต ฝากอนาคตต่อจากนี้ไว้กับ “เอ็มจี”

“เพื่อนพี่น้องในวงการหลายคนต่างบอกว่าเสี่ยง เพราะตลาดรถยนต์ยังไม่ค่อยดี ถ้าล้มขึ้นมาหมดตัวเลยนะ แต่ผมเชื่อมั่นในนักลงทุนคือซีพี และ SAIC MOTOR เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เป็นผู้นำที่แข็งแกร่งมาก ต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ตามคือดีลเลอร์ว่าจะทำตามนโยบายได้อย่างไร ที่สำคัญคือสินค้า ผมว่ารถยนต์เอ็มจีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใครทั้งสัญชาติและสมรรถนะ เราไม่ต้องไปขายแข่งกับใคร ส่วนตลาดรถ ผมมองว่าการจะซื้อรถสักคัน ไม่ได้อยู่ที่ภาพรวมเศรษฐกิจ ถ้าผู้บริโภคเจอรถที่ใช่ รถที่ดี บริการดี เขาก็พร้อมซื้ออยู่แล้ว” คุณวัชระ กล่าว

- ยอดขายดี พนักงานมีความสุข เติบโตไปด้วยกัน

คุณวัชระบอกว่า การตัดสินใจครั้งนี้ถือว่าไม่พลาด เพราะตั้งแต่เปิดตัวโชว์รูมเอ็มจี พารากอน ยอดขายก็สูงขึ้นต่อเนื่อง จากเดือนแรกขายได้ 10 คัน จนถึงตอนนี้ยอดจำหน่ายเฉลี่ยเดือนละ20-40 คัน สิ่งสำคัญในการทำงานที่บอกกับพนักงานเสมอคือ บริการลูกค้าด้วยความจริงใจ ไม่ยัดเยียดการขาย บอกรายละเอียดที่ลูกค้าต้องรู้ และมันจะเกิดเป็นความประทับใจ มีลูกค้าหลายรายได้บอกต่อคนรู้จักให้มาซื้อรถรวม 3-4 คันและอีกเรื่องที่สำคัญคือการให้เกียรติผู้ร่วมงาน จะไม่มีแบ่งแยกระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง เมื่อผลประกอบการดี ก็ต้องตอบแทนพนักงานอย่างดีด้วย เพราะเขาคือผู้ที่ทำให้ยอดขายเกิดขึ้น

- ยอดขายเกินเป้า เล็งขยายสาขาเพิ่ม

“เพราะมีแบรนด์ที่ดีสินค้าดี ผู้นำที่ดี เพื่อนร่วมงานที่ดี เลยทำให้เรามียอดจำหน่ายเกินเป้า จนในวันนี้มีพี่น้องในวงการหลายคนที่เคยออกมาเตือน ได้เข้ามาสอบถามเพราะสนใจจะลงทุนจำหน่ายเอ็มจีซึ่งบางคนก็เปิดให้บริการไปแล้ว ส่วนตัวผมเองจะพัฒนาบริการ สร้างความรู้จักกับลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายให้มากขึ้น และในอนาคตมีแผนจะขยายสาขาอีกแห่งที่อำเภอลำลูกกา จ.ปทุมธานี” คุณวัชระ กล่าว    

อีกหนึ่งเจ้าของกิจการที่ทำตามความฝันจนสำเร็จ เพราะเชื่อว่าในวันหนึ่งเมื่อถึงเวลา ถึงจังหวะที่ถูกที่ควร ความพยายามที่ทำไปทั้งหมดจะไม่มีวันทอดทิ้งเราอย่างแน่นอน

สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ที่สนใจในธุรกิจยานยนต์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.mgcars.com/th/NetworkExpansion