รีวิว 'HUAWEI MatePad 12 X' แท็บเล็ตที่แย่งงานแล็ปท็อปได้จริง!

รีวิว "HUAWEI MatePad 12 X" เมื่อแท็บเล็ตแย่งงานแล็ปท็อปได้จริง นี่คือไอเทมที่คนรักงานครีเอทีฟและสาย Productivity ต้องมี
KEY
POINTS
- HUAWEI MatePad 12 X มาพร้อมประสิทธิภาพระดับ PC ด้วยแอปพลิเคชัน WPS Office ที่สามารถทำงานเอกสารซับซ้อนได้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์
- HUAWEI MatePad 12 X โดดเด่นด้วยหน้าจอ PaperMatte ที่ลดแสงสะท้อนได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ให้สัมผัสการเขียนเหมือนกระดาษจริง เหมาะกับการทำงานนอกสถานที่
- HUAWEI MatePad 12 X ตัวเครื่องผลิตจากโลหะบางเบา พกพาสะดวกกว่าแล็ปท็อป และเมื่อใช้ร่วมกับคีย์บอร์ดแม่เหล็กและ M-Pencil Pro ก็สามารถทำงานและสร้างสรรค์ได้ทุกที่
เชื่อว่าหลายคนคงเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกว่าจะหยิบแล็ปท็อปเครื่องหนาเตอะหรือแท็บเล็ตจอเล็กๆ ใส่กระเป๋าออกจากบ้าน แต่สุดท้ายก็พบว่าไม่มีอุปกรณ์ชิ้นไหนที่จบได้จริงๆ สักที จนกระทั่ง KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที ได้มีโอกาสจับ HUAWEI MatePad รุ่นต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าพัฒนาการของค่ายนี้ก้าวกระโดดจนน่าตกใจ จากที่เคยเป็นแค่อุปกรณ์เสริม วันนี้ HUAWEI กล้าประกาศตัวว่าแท็บเล็ตของตนเป็น "PC-Level Powerhouse" ที่พร้อมจะมาแทนที่คอมพิวเตอร์พกพาแบบเดิมๆ ได้อย่างสมศักดิ์ศรี และล่าสุดกับการมาถึงของ HUAWEI MatePad 12 X รุ่นใหม่ที่บอกเลยว่าเราค่อนข้างตื่นเต้นมาก เพราะนี่คือการผสมผสานความสวยงามระดับแฟชั่นเข้ากับประสิทธิภาพที่ดุดันระดับแล็ปท็อป ในราคาที่จับต้องได้ แถมยังมาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอที่กล้าพูดเลยว่าดีที่สุดในตอนนี้
หลังจากที่ได้ลองใช้ HUAWEI MatePad 12 X เครื่องนี้มาแบบเจาะลึกทุกฟีเจอร์ บอกเลยว่าความรู้สึกแรกคือ "เบา" จนน่าตกใจ แต่พอเริ่มใช้งานจริงกลับพบว่า "แรง" เกินตัวไปมาก วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกทุกซอกทุกมุมแบบฉบับคนใช้งานจริง ว่าทำไมเจ้า HUAWEI MatePad 12 X เครื่องนี้ถึงกลายเป็นลูกรักคนใหม่ของเรา และทำไมถึงคู่ควรที่จะเป็น Gadget ชิ้นต่อไปของคุณ
'Shimmery Pearlescent' ที่ใครเห็นก็ต้องทัก
สิ่งแรกที่สะดุดตาจนต้องหยิบขึ้นมาดูคือดีไซน์ที่ทาง HUAWEI เรียกว่า Shimmery Pearlescent Process หรือเทคนิคการเคลือบสีมุกที่ให้ความรู้สึกระยิบระยับเวลาโดนแสง ซึ่งไม่ได้ดูฉูดฉาดจนเกินงาม แต่ดูแพงและมีมิติมากๆ โดยใช้วัสดุผงไมกาธรรมชาติมาผสมผสานกับเทคโนโลยีการผลิตระดับเดียวกับอุตสาหกรรมการบินและยานยนต์ ทำให้ได้ผิวสัมผัสที่ดูหรูหราและเปลี่ยนแปลงไปตามองศาของแสงที่ตกกระทบ โดยเฉพาะสีเขียว Greenery ที่เราได้มารีวิว ให้ฟีลธรรมชาติที่ดูสดชื่นและผ่อนคลายสุดๆ
ตัวเครื่องทำจากโลหะทั้งชิ้น (All-metal Device Body) ทำให้ดูแข็งแรงทนทาน แต่กลับมีน้ำหนักเบาเพียง 555 กรัม และบางเฉียบแค่ 5.9 มม. เท่านั้น เวลาถือใช้งานมือเดียวหรือใส่เป้พกพาไปทำงานข้างนอกคือสบายมาก ไม่รู้สึกเป็นภาระเหมือนตอนแบกโน้ตบุ๊กเลย ถือไปไหนก็ดูเท่ ดูเป็นคนมีสไตล์ที่ใส่ใจในการเลือกของใช้จริงๆ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบวงแหวนกล้องแบบ "Gilded" หรือ Star Ring ที่ดูโดดเด่น เป็นกิมมิคเล็กๆ ที่ทำให้ตัวเครื่องดูมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
จอ PaperMatte สบายตา ลืมหน้าจอสะท้อนแสงได้เลย
พระเอกของงานนี้ที่เราชอบที่สุดและอยากอวยยศให้คือหน้าจอ 12-inch Ultra-Clear PaperMatte Display ใครที่เคยหงุดหงิดเวลาเอาแท็บเล็ตไปทำงานข้างนอกแล้วเจอแสงสะท้อนจนมองไม่เห็นจอ ต้องบอกว่ารุ่นนี้แก้ปัญหาได้จบสนิท ด้วยเทคโนโลยี Nano-scale Etching ที่ช่วยลดแสงสะท้อนได้ดีเยี่ยม โดยขจัดสัญญาณรบกวนจากแสงในสภาพแวดล้อมได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ และลดประกายแสงสะท้อน (Sparkle) ลงได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัด นุ่มนวล และสบายตาสุดๆ ความสว่างสูงสุดที่ทำได้ถึง 1000 nits ทำให้การใช้งานกลางแจ้งไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ไม่ว่าจะแดดแรงแค่ไหน หน้าจอก็ยังสู้ไหว
ที่สำคัญคือให้สัมผัสการเขียนที่เหมือนกระดาษจริงๆ เวลาใช้ปากกาเขียนลงไปจะได้ยินเสียง "ฟิดๆ" เบาๆ เหมือนปลายดินสอขูดกับกระดาษ ซึ่งมันฟินมากสำหรับสายจดสายวาด แถมยังถนอมสายตาด้วยมาตรฐานระดับโลกอย่าง TÜV Rheinland ที่ลดแสงสีฟ้าและการกะพริบ และ SGS Low Visual Fatigue Premium Performance 2.1 ทำงานนานๆ แล้วไม่ล้าตาเลย หน้าจอยังมาพร้อมความละเอียดสูงระดับ 2.8K (2800 x 1840 พิกเซล) และรองรับ Refresh Rate สูงถึง 144Hz ไหลลื่นไม่มีสะดุด ดูหนัง HDR Vivid หรือเล่นเกมก็เพลินจนวางไม่ลง
ทุกที่คือออฟฟิศด้วย PC-Level WPS Office และคีย์บอร์ด NearLink
มาถึงจุดขายที่ทำให้ HUAWEI ยืนหนึ่งในวงการแท็บเล็ต นั่นคือประสบการณ์การทำงานแบบ PC-Like ใน HUAWEI MatePad 12 X เครื่องนี้มาพร้อมกับแอปพลิเคชัน WPS Office 3.0 ระดับ PC ที่ยกฟีเจอร์จากในคอมพิวเตอร์มาไว้ให้เราใช้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Pivot Table ใน Excel การใช้สูตรคำนวณซับซ้อน การจัดหน้าเอกสาร การแทรกไฟล์เอกสารหรือลิงก์ใน Word หรือการคัดลอกและวางแผนภูมิที่แก้ไขได้ใน PowerPoint ทุกอย่างทำได้เหมือนในแล็ปท็อปเป๊ะๆ อินเทอร์เฟซมีแถบเครื่องมือครบครันเหมือนที่เราคุ้นเคย ทำให้ไม่ต้องปรับตัวใหม่เลย
ยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับ Smart Magnetic Keyboard ที่เชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี NearLink ที่เสถียรและตอบสนองไวมาก บอกเลยว่าฟีลลิ่งการพิมพ์งานคือใช่เลย ระยะกดปุ่ม 1.5 มม. กำลังดี พิมพ์มันมาก แถมตัวคีย์บอร์ดยังทำจากวัสดุที่ทนคราบสกปรก เช็ดทำความสะอาดง่าย ทำให้เราปิดจบคอลัมน์นี้ได้จากร้านกาแฟโดยไม่ต้องแตะคอมพิวเตอร์เลย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ SuperHub ที่ช่วยให้การย้ายไฟล์ รูปภาพ หรือข้อความระหว่างแอปเป็นเรื่องง่ายแค่ลากแล้ววาง เหมือนมีคลิปบอร์ดอัจฉริยะที่ช่วยจัดการงานเอกสารให้ลื่นไหลแบบไร้รอยต่อ
ปลดล็อกจินตนาการด้วย HUAWEI M-Pencil Pro และแอป GoPaint
สำหรับสายอาร์ตหรือครีเอเตอร์ บอกเลยว่าคู่หูใหม่อย่าง HUAWEI M-Pencil Pro นี่คือของต้องมี ปากการุ่นนี้รองรับแรงกดได้ละเอียดถึง 16,384 ระดับ ซึ่งมากกว่ารุ่นทั่วไปในตลาดแบบคนละชั้น ทำให้การลงน้ำหนักเส้นหนักเบาเป็นธรรมชาติสุดๆ และยังมีฟีเจอร์เด็ดอย่างการ "บีบ" (Pinch) ที่ตัวปากกาเพื่อเรียกเมนู Pallete ออกมาเปลี่ยนหัวแปรงหรือดูดสีได้ทันทีโดยไม่ต้องละมือจากงาน มีระบบ Haptic Feedback ที่สั่นตอบสนองเมื่อเราใช้งาน ทำให้รู้สึกสมจริงยิ่งขึ้น และยังมีฟีเจอร์ "หมุน" (Rotate) ปากกาเพื่อปรับองศาของหัวแปรงได้เหมือนการใช้พู่กันจริง
ซึ่งเมื่อผสานกับแอป GoPaint ที่ HUAWEI พัฒนาขึ้นมาเอง บอกเลยว่าสุดยอดมาก แอปนี้มีหัวแปรงให้เลือกเยอะมาก รวมถึงหัวแปรงแบบ Realistic texture ที่ให้ความรู้สึกเหมือนระบายสีน้ำมันหรือสีน้ำจริงๆ พร้อมฟีเจอร์ Intelligent Color Card ที่ดูดสีจากรูปถ่ายที่เราชอบมาสร้างเป็น Palette สีส่วนตัวได้ทันที หรือจะเป็นแปรง Fluid Brush ที่ให้สีไหลไปตามการตวัดปากกา ยิ่งใช้คู่กับหน้าจอ PaperMatte ยิ่งเหมือนเรากำลังวาดรูปบนเฟรมผ้าใบจริงๆ ทั้งลื่นไหล สนุก และทำให้ไอเดียของเราพรั่งพรูออกมาได้อย่างไม่มีสะดุด แถมแอปนี้ยังใช้ฟรีแบบไม่มีค่าสมาชิกรายเดือนด้วย
จดบันทึกอย่างล้ำกับ HUAWEI Notes
ไม่ใช่แค่วาดรูป แต่การจดบันทึกก็ทำได้ดีเยี่ยมด้วยแอป HUAWEI Notes ที่อัปเกรดฟีเจอร์มาเพียบ ฟีเจอร์ที่เราชอบมากคือ Note Replay ที่บันทึกเสียงไปพร้อมกับการจดโน้ตได้ และเมื่อเรากดเล่นเสียง ตัวหนังสือที่เราเขียนไว้ ณ ตอนนั้นก็จะปรากฏขึ้นมาให้เห็น ทำให้ทบทวนเนื้อหาการประชุมหรือบทเรียนได้ง่ายขึ้นมากๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI Handwriting Enhancement ที่ช่วยปรับลายมือไก่เขี่ยของเราให้ดูเป็นระเบียบสวยงามขึ้นได้ทันที มีฟีเจอร์ Lasso สำหรับเปลี่ยนสีข้อความที่เขียนไปแล้ว หรือจะจัดระเบียบโน้ตด้วยการลากวางข้ามหน้าก็ทำได้ง่ายๆ แถมยังมีหน้าปกและกระดาษโน้ตให้เลือกใช้กว่าร้อยแบบ ทำให้การจดบันทึกไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
แบตอึดสะใจ ลุยงานหนักได้ทั้งวัน
ปิดท้ายด้วยเรื่องพลังงานที่หลายคนกังวล แต่สำหรับ HUAWEI MatePad 12 X หายห่วงได้เลย เพราะให้แบตเตอรี่มาจุกๆ ถึง 10100 mAh จากการใช้งานจริงของเรา ทั้งดูซีรีส์ สลับกับพิมพ์งาน และวาดรูปเล่นบ้าง อยู่ได้ยาวๆ เกินวันสบายๆ ข้อมูลระบุว่าดูวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 14 ชั่วโมงเลยทีเดียว และถ้าแบตใกล้หมดก็ไม่ต้องรอนาน เพราะรองรับระบบชาร์จไว 66W HUAWEI SuperCharge ที่ชาร์จเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาแค่ 85 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าชาร์จแป๊บเดียวก็พร้อมลุยต่อได้ทันที
นอกจากนี้เรื่องการเชื่อมต่อก็จัดเต็มด้วย Wi-Fi 7 ที่จับสัญญาณได้แรงและนิ่งมาก ทะลุทะลวงกำแพงได้ดีเยี่ยม โหลดไฟล์งานใหญ่ๆ หรือสตรีมหนัง 4K ก็ลื่นไหลไม่มีหมุนติ้วให้เสียอารมณ์ และยังมีระบบเสียง HUAWEI SOUND ลำโพง 6 ตัว ที่ให้เสียงกระหึ่มสะใจ แยกมิติเสียงได้ชัดเจน ดูหนังฟังเพลงได้อรรถรสเต็มเปี่ยม แถมตัวเครื่องยังจัดการความร้อนได้ดีเยี่ยมด้วยระบบระบายความร้อน 3D ทำให้จับถือได้นานโดยไม่รู้สึกร้อนมือ
HUAWEI MatePad 12 X เหมาะกับใคร?
KT Review ฟันธงเลยว่า HUAWEI MatePad 12 X ไม่ใช่แค่แท็บเล็ตทั่วไป แต่เป็นเหมือนอาวุธคู่กายของคน 3 กลุ่มหลักนี้
- นักเรียน นักศึกษา และ First Jobber กลุ่มนี้จะได้รับความคุ้มค่าสูงสุดครับ เพราะ PC-Level WPS Office ช่วยให้คุณทำรายงาน ทำวิจัย หรือปั่นสไลด์ส่งอาจารย์หรือหัวหน้าได้เหมือนทำในคอมพิวเตอร์จริงๆ โดยไม่ต้องแบกแล็ปท็อปหนักๆ ไปเรียนหรือไปออฟฟิศ ยิ่งมี HUAWEI Notes ที่อัดเสียงพร้อมจดได้ จะเลคเชอร์ยาวแค่ไหนก็ไม่พลาดประเด็นสำคัญ แถมราคาก็เป็นมิตรเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ เรียกว่าเครื่องเดียวจบครบทุกเรื่องเรียนและเรื่องงาน
- สาย Creative นักวาด และ Content Creator ถ้าคุณเสพติดฟีลลิ่งการวาดเขียนบนกระดาษ คุณจะหลงรักหน้าจอ PaperMatte และ M-Pencil Pro แบบถอนตัวไม่ขึ้น มันให้ความรู้สึกที่สมจริงมาก ควบคุมน้ำหนักมือได้ดั่งใจ และแอป GoPaint ก็มีเครื่องมือระดับโปรให้ใช้ฟรีๆ ไม่ต้องเสียรายเดือน จะสเก็ตช์ไอเดียตอนนั่งบีทีเอส หรือวาดภาพจริงจังที่คาเฟ่ก็ทำได้ลื่นไหล แบตเตอรี่ที่อึดทำให้คุณสร้างสรรค์งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยหาปลั๊กเสียบ
- สาย Mobile Worker และ Digital Nomad สำหรับคนที่ออฟฟิศคือทุกที่ที่มีกาแฟ แท็บเล็ตตัวนี้ตอบโจทย์เรื่องความคล่องตัวแบบสุดๆ ด้วยน้ำหนักที่เบา ดีไซน์ที่ถือแล้วดูดี และความสามารถในการเชื่อมต่อคีย์บอร์ดที่พิมพ์มันเหมือนคอมพิวเตอร์ คุณจะตอบอีเมล แก้ไขเอกสารด่วน หรือประชุมออนไลน์ผ่านกล้องที่คมชัดได้ทุกที่ ยิ่งมี Wi-Fi 7 ที่จับสัญญาณได้ไว การส่งไฟล์งานใหญ่ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
สรุปเลยว่า HUAWEI MatePad 12 X คือคำตอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับคนที่มองหาความสมดุลระหว่าง "ประสิทธิภาพระดับพีซี" และ "ความคล่องตัวของแท็บเล็ต" ในราคาที่สมเหตุสมผล







