เปิดตัว8คู่แข่งไม้ประดับชิงเก้าอี้ “ปูติน”

เริ่มจาก นายอเล็กเซ นาวัลนึย วัย 41 ปี ผู้นำพรรคก้าวหน้า ที่ผันตัวเองจากบล็อกเกอร์เปิดโปงการทุจริต มาเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน เคยจัดการชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาลหลายครั้ง และเป็นนักวิจารณ์ปูตินตัวยง เคยถูกจับตาว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปูติน แต่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งตัดสิทธิลงสมัคร เพราะมีประวัติต้องโทษความผิดคดียักยอกทรัพย์ ซึ่งนาวัลนึยโต้แย้งว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนคว่ำบาตรการเลือกตั้ง 

ก่อนหน้านี้ เขาเคยลงสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงมอสโก แต่แพ้ไปโดยได้คะแนนเสียง 27%

คนที่สอง นายปาเวล กรูดินิน มหาเศรษฐีวัย 57 ปีเป็นผู้สมัครของพรรคคอมมิวนิสต์และมีคะแนนนิยมดีที่สุดในบรรดาคู่แข่ง 7 คนของปูติน โดยมีคะแนนนิยม 7% แม้เขาวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลบ้าง แต่ไม่เคยวิจารณ์ปูตินโดยตรง ที่ผ่านมาเขาประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นไร่ผลไม้ของรัฐให้กลายเป็นธุรกิจที่มีกำไร

คนที่สาม นายคเซเนีย ซับชัค อดีตดาราจากรายการเรียลลิตี้ วัย 36 ปีสร้างความประหลาดใจแก่ชาวรัสเซียเมื่อเธอประกาศในเดือนต.ค.ว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซับชัคเคยเข้าร่วมชุมนุมต่อต้านปูตินในปี 2554-2555 ก่อนเป็นพิธีกรของสถานีโทรทัศน์อิสระแห่งหนึ่ง และมักคุยว่าปูตินเคยทำงานกับพ่อของเธอ อนาโตลี ซับชัค ที่เป็นนายกเทศมนตรีนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จนทำให้หลายคนกล่าวหาว่าเธอลงสมัครเพียงเพื่อแย่งคะแนนเสียงของพรรคฝ่ายค้าน

คนที่สี่ นายวลาดิมีร์ ชิรินอฟสกี วัย 71 ปีเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีขาประจำ ที่ลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 เขาเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีอาร์ ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่งและรู้จักกันดีว่ามักพูดโจมตีอเมริกา ต่อต้านหัวเสรี และต่อต้านคอมมิวนิสต์ และบ่อยครั้งถูกเรียกขานว่าเป็นตัวตลกในเวทีการเมือง เขามีคะแนนนิยมราว 5%

คนที่ห้า นายกริกอรี ยาฟลินสกี นักการเมืองหัวเสรี วัย 65 ปี ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 และได้คะแนนเสียงไม่ถึง 10% ในการเลือกตั้งสองครั้งก่อน ยาฟลินสกีก่อตั้งพรรค ยาโบลโคในปี 2536 คัดค้านการผนวกรวมไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย วิจารณ์ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในสงครามซีเรีย และยังมักวิจารณ์ปูตินด้วย

คนที่หก นายบาริส ติตอฟ นักธุรกิจที่ลงสมัครเลือกตั้งโดยไม่คาดหวังผลเลือกตั้ง ประกาศขณะไปหาเสียงในไครเมียเมื่อเดือนก.พ.ว่า ไม่มีใครสงสัยว่าใครจะชนะเลือกตั้ง แต่การไปใช้สิทธิออกเสียงมีเป้าหมายหลักเพื่อให้รัฐบาลและปูตินเห็นว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจ ติตอฟ วัย 57 ปีสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของปูติน แต่ก็เรียกร้องให้ปรับปรุงความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกเพื่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจรัสเซีย พรรคการเติบโตของเขาได้คะแนนเสียงไม่ถึง 2% ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2559

คนที่7 นายเซรเก บาบูริน ผู้นำพรรคสหภาพประชาชน ไม่เป็นที่รู้จักนักในรัสเซีย และไม่ถูกกล่าวถึงนักในสื่อต่างๆ เขาเป็นอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และต่อสู่กับแนวนโยบายเสรีนิยมใหม่ของทางการรัสเซียมานานกว่า 20 ปี

คนที่แปด นายมักซิม ซูไรกิน เป็นผู้สมัครโนเนมที่คนสวนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย วัย 39 ปีลาออกจากพรรคในปี 2555 และตั้งพรรคใหม่ชื่อ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งรัสเซีย แต่ถูกพรรคคอมมิวนิสต์ฟ้องร้องในศาลข้อหาขโมยสัญลักษณ์ของพรรค เขาเคยบอกว่า รัสเซียจำเป็นต้องมีประธานาธิบดีที่มีแนวคิดแบบลัทธิสตาลิน