สหราชอาณาจักรย้ำอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างสำคัญต่อโลก

 แคทเธอรีน เวสต์ รัฐมนตรีกิจการอินโด-แปซิฟิกของสหราชอาณาจักร กล่าวถึงการสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าวของสหราชอาณาจักร ในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมผู้นำระดับภูมิภาคของ สหประชาชาติ ณ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา

รัฐมนตรีกิจการอินโด-แปซิฟิกของสหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมอภิปราย ณ ที่ประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมของเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีผู้นำระดับภูมิภาคมาประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนประเทศไทยครั้งที่สองนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว

นอกจากนี้แคทเธอรีน เวสต์ ร่วมเป็นเจ้าภาพในการหารือเชิงยุทธศาสตร์สหราชอาณาจักร-ไทย ครั้งที่ 5 ร่วมกับนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ การหารือครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและไทย ได้รับการยกระดับเป็น หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ในปี พ.ศ. 2567 และสรุปความคืบหน้าในนโยบาย หลายด้านรวมถึง การเติบโต สภาพภูมิอากาศ และการศึกษา โดยได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมหลังการหารือ

ในแถลงการณ์ร่วมทั้งสองประเทศได้ลงนามแผนงานความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร และเห็นพ้องว่ามีความคืบหน้าอย่างมากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งสองฝ่ายยืนยันความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งและต่อเนื่องต่อแผนงานภายใต้รัฐบาลใหม่ โดยให้ความสําคัญกับการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทั้งสองฝ่ายยังเห็นตรงกันที่จะใช้ประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (Enhanced Trade Partnership – ETP) ซึ่งได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567 เพื่อเพิ่มความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนและเศรษฐกิจในทุกมิติ และเพื่อแสดงถึงโอกาสที่สามารถทำได้ผ่านข้อตกลงการค้าเสรีสหราชอาณาจักร-ไทยในอนาคต

การเจรจายังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงทวิภาคี ภายใต้การหารือด้านความมั่นคงสหราชอาณาจักร-ไทย ซึ่งสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจ อย่างมีนัยสําคัญระหว่างทั้งสองประเทศท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น

ทั้งสองฝ่ายให้คํามั่นว่าจะยกระดับความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น ด้านสุขภาพ การศึกษา นวัตกรรมดิจิทัล วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงาน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจสีเขียว การพัฒนาที่ยั่งยืน การเกษตร การเชื่อมโยงระหว่างประชาชน และซอฟต์พาวเวอร์

การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยืดหยุ่นร่วมกันเป็นภารกิจอันดับหนึ่งของรัฐบาลสหราช อาณาจักร

"การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกขึ้นอยู่กับอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง  ที่นี่ในประเทศไทยกับผู้นําระดับภูมิภาค สหราชอาณาจักรจะสนับสนุนการค้าเสรีและเป็นธรรม และความร่วมมือเพิ่มเติมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน เช่น การปกป้องสภาพภูมิอากาศ และการบรรลุความเท่าเทียมทางเพศ"

“ในขณะที่เราเฉลิมฉลอง 170 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูต สหราชอาณาจักรและไทยกําลัง ทํางานร่วมกันผ่านระบบระหว่างประเทศที่อิงตามกฎระเบียบ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสําหรับ ทุกคน”

ในการประชุม UN ESCAP รัฐมนตรีได้กล่าวถึงการทำงานของสหราชอาณาจักร เพื่อสร้างความ ร่วมมือที่ทันสมัยกับประเทศต่างๆ เช่น ประเทศไทย เพื่อให้เกิดการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนใน ภูมิภาคที่มีประชากรในเมือง 2.2 พันล้านคน ความร่วมมือเหล่านี้ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนการ เติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญสําหรับทั้งประเทศไทยและสหราชอาณาจักร แต่ยังช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศและความเท่าเทียมทางเพศ

การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ไทยและสหราชอาณาจักรเฉลิมฉลอง 170 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนานที่สุดของประเทศไทยกับประเทศในยุโรป นอกจาก ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์แล้ว ทั้งสองประเทศยังได้ลงนามในความร่วมมือ Enhanced Trade Partnership (ETP) เมื่อเดือนกันยายน 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ ภาษีศุลกากร และทําให้ธุรกิจของอังกฤษและไทยสามารถทําการค้าร่วมกันได้ง่ายขึ้น