'โรเบิร์ต เอฟ โกเดค' ชวนคุย เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

'โรเบิร์ต เอฟ โกเดค' ชวนคุย  เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ปี 2567 เป็นปีที่ถูกพูดถึงอย่างมากในแง่การเป็นปีแห่งการเลือกตั้ง ภายในสิ้นปีประชากรใน 70 ประเทศทั่วโลกกว่าครึ่งหนึ่งได้เข้าคูหาลงคะแนน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่คนทั้งโลกสนใจมากที่สุดคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 60 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.

KEY

POINTS

  •  โรเบิร์ต เอฟ โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ให้ข้อมูลกับนักข่าวในการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การทำข่าวเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา” สำหรับสื่อมวลชนไทย
  • สหรัฐต้องเป็นผู้นำสนับสนุนให้คนทั่วโลกได้ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการเลือกระบอบการปกครองของตนเอง
  • ไม่ว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาว ไม่ว่ายุคสมัยจะเป็นเช่นไร ประเทศไทยก็ยังเป็นเพื่อนคนแรกในภูมิภาคนี้

ปี 2567 เป็นปีที่ถูกพูดถึงอย่างมากในแง่การเป็นปีแห่งการเลือกตั้ง ภายในสิ้นปีประชากรใน 70 ประเทศทั่วโลกกว่าครึ่งหนึ่งได้เข้าคูหาลงคะแนน  แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่คนทั้งโลกสนใจมากที่สุดคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 60 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. 

ถ้าจะคุยเรื่องนี้ต้องคุยกับตัวจริง โรเบิร์ต เอฟ โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ที่ลงมาให้ข้อมูลกับนักข่าวด้วยตนเองในการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การทำข่าวเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา” สำหรับสื่อมวลชนไทย ที่สถานทูตจัดร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 

“โลกกำลังเฝ้าดูอเมริกาอยู่ เราจึงต้องทำอย่างถูกต้อง เราต้องเป็นผู้นำโดยการเป็นตัวอย่าง  และหาหนทางที่จะสนับสนุนให้คนทั่วโลกได้ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการเลือกระบอบการปกครองของตนเอง” ท่านทูตบ็อบเปิดฉากพร้อมยอมรับว่า ระบอบประชาธิปไตยมิได้สมบูรณ์แบบ แต่เป็นระบอบที่ดีที่สุดที่สหรัฐมี เป็นระบอบที่บุรุษและสตรีผู้กล้าหาญได้สละชีพของตนเพื่อปกป้อง 'โรเบิร์ต เอฟ โกเดค' ชวนคุย  เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย)

  • สัมพันธ์ไทยไม่เปลี่ยน

คำถามแรกที่เกิดขึ้นคือ การเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐหรือไม่ และจะส่งผลต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไร ทูตบ็อบชี้แจงว่า นโยบายต่างประเทศสหรัฐเปลี่ยนแปลงไปตามรัฐบาลของประธานาธิบดีแต่ละคน อย่างไรก็ตาม หลักการนำทางทั่วไปของสหรัฐต่อนโยบายต่างประเทศสหรัฐยังคงสม่ำเสมอเหมือนเดิมตลอดหลายปี ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นส่งเสริมเสรีภาพขั้นพื้นฐาน มุ่งมั่นส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน  ส่งเสริมความมั่งคั่ง  ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีและความเป็นหุ้นส่วนกับมิตรประเทศ 

"ไม่ว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาว ไม่ว่ายุคสมัยจะเป็นเช่นไร ประเทศไทยก็ยังเป็นเพื่อนคนแรกในภูมิภาคนี้ซึ่งมีความสำคัญกับเรามาตลอด 190 ปี และจะยังคงเป็นหุ้นส่วนสำคัญของเราต่อไป เราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะธำรงความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยต่อไป"  'โรเบิร์ต เอฟ โกเดค' ชวนคุย  เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย) 

  • หวั่นกองเชียร์ทรัมป์ประท้วง

 อีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนหวาดหวั่นเพราะเคยเห็นมาแล้วเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 กองเชียร์โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้พ่ายแพ้ บุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน แล้วปีนี้ถ้ารองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ชนะเลือกตั้ง เธอจะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ แต่ด้วยความที่ทรัมป์ได้รับความนิยมมาก  สาธารณชนจะยอมรับเธอหรือไม่ หรือจะมีการประท้วงกันอีก  'โรเบิร์ต เอฟ โกเดค' ชวนคุย  เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ทูตสหรัฐตอบคำถามด้วยการชี้ให้เห็นว่า นอกจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมเป็นเสาหลักที่สำคัญอย่างยิ่งต่อระบอบประชาธิปไตย  ช่วยให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียงในวิถีทางพื้นฐานที่จะแสดงออก ได้เลือกผู้ที่จะมาบริหารปกครองตนแล้ว  การเลือกตั้งยังเป็นการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสงบ 

กระนั้นรัฐธรรมนูญสหรัฐคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าผลลัพธ์ของการเลือกตั้งจะออกมาเป็นเช่นไร ชาวอเมริกันก็ยังคงมีสิทธิเสรีภาพในการสมาคมแสดงออก แสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์หรือการจัดการต่างๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนการวิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่ตนเลือกตั้งมาแล้ว

“การชุมนุมหรือประท้วงโดยสงบจะยังคงได้รับการปกป้องคุ้มครองภายใต้รัฐธรรมนูญเหมือนเช่นที่ผ่านมา และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคต”  สหรัฐไม่ยอมรับความรุนแรงทางการเมืองใดๆ ดังที่ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวอย่างชัดเจนหลังเหตุพยายามลอบสังหารอันเลวร้ายต่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า  "ไม่มีที่ให้กับความรุนแรงในระบอบประชาธิปไตยของเรา"  

  • บทบาทผู้สื่อข่าว

เนื่องในโอกาสที่ทูตสหรัฐมาพูดคุยกับนักข่าวด้วยตนเอง บทบาทในการรายงานข่าวจึงมองข้ามไปไม่ได้ ทูตบ็อบมองว่า นักข่าวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งยวดในการรายงานข่าวที่ถูกต้องต่อสาธารณชนได้อย่างทันเวลา การจะรายงานข่าวได้อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง และเป็นกลาง ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐที่ซับซ้อนด้วย 'โรเบิร์ต เอฟ โกเดค' ชวนคุย  เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ทูตย้ำว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐสำคัญก็จริง แต่เป็นแค่หนึ่งในร้อยๆ การเลือกตั้งที่มีขึ้นในแต่ละปีของสหรัฐ เช่น การเลือกตั้งผู้พิพากษา นายกเทศมนตรี สมาชิกสภานิติบัญญัติประจำรัฐ ผู้ว่าการรัฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา เป็นต้น ระบบการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับท้องถิ่นหรือรัฐนั้นๆ นับเป็นพันๆ ระบบไม่ใช่ระบบเดียวใช้ทั้งประเทศ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้มั่นใจได้ว่าการเลือกตั้งสะท้อนความต้องการของประชาชน มั่นใจว่าผลคะแนนตรงตามที่ประชาชนลงคะแนนไว้อย่างแท้จริง 

  • ยุคแห่งเอไอ-ข้อมูลบิดเบือน

ในยุคนี้ข้อมูลเท็จ(misinformation) หรือข้อมูลบิดเบือน (disinformation) เป็นปัญหาใหญ่ส่งผลกระทบไปทั้งโลกไม่ใช่แค่ในสหรัฐหรือไทยเท่านั้น โดยเฉพาะการมีเอไอสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ได้โดยอัตโนมัติ จึงอาจสร้างภาระงานให้นักข่าวมากขึ้น การรายงานข่าวต้องคำนึงถึงข้อมูลที่แม่นยำ ถูกต้อง เที่ยงตรง ให้มากที่สุดโดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญอย่างช่วงเลือกตั้ง 

"หน้าที่ของนักข่าวต้องช่วยกันตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลให้มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือจริงๆ เช็กข้อมูลจากหลายแหล่งให้ได้มากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลดีที่สุด ถูกต้องที่สุด  นำข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงนั้นไปสู่สาธารณชน" 

  • สังคมแตกแยกถอดบทเรียนสหรัฐ

 อ่านจากข่าวต่างประเทศ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคราวนี้ ชาวอเมริกันแตกแยกกันมาก สังคมไทยก็ประสบเหตุแบบเดียวกัน   ในฐานะที่สหรัฐเป็นประเทศเชิดชูประชาธิปไตยและความหลากหลาย แล้วอย่างนี้นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐควรมีบทบาทอย่างไร เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนโดยไม่เพิ่มความเกลียดชังกับผู้ที่คิดต่าง 

ทูตกล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง และพลเมืองทุกคนล้วนมีความรับผิดชอบในการส่งเสริมให้มีการแสดงความคิดเห็นและมุมมองออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อสร้างสังคมที่แข็งแกร่งและการบริหารบ้านเมืองที่ดี

ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว ภาคประชาสังคมและสื่อเสรีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อประชาธิปไตย ในการนำเสนอบริการที่รัฐบาลไม่สามารถจัดหาให้หรือไม่ควรทำ การพูดคุยถกเถียงกันอย่างคึกคักในชุมชนหรือคุยเรื่องข่าวกันทุกๆ วันเป็นสัญญาณความแข็งแกร่งของประชาธิปไตยในสหรัฐ

"นอกจากนี้สหรัฐยังเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ว่า บ่อยครั้งที่ประชาธิปไตยดูสับสนวุ่นวายไม่น่าอภิรมย์ แต่ไม่มีรัฐบาลในระบบอื่นมีประสทธิภาพเท่าประชาธิปไตย ในการเปิดทางให้เราได้เรียนรู้และแก้ไขตนเอง เปิดช่องให้พลเมืองกำหนดหน้าตารัฐบาลของตนเองได้" เช่น รัฐบาลสหรัฐยอมรับว่าก่อนมีกฎหมายสิทธิพลเมืองช่วงกลางทศวรรษ 1960 พลเมืองผิวสีหลายคนโดยเฉพาะอเมริกันผิวดำ ไม่ได้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง กระบวนการของสหรัฐแม้ไม่สมบูรณ์แต่ก็เปิดโอกาสให้ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้ และทำให้ทุกคนก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน 'โรเบิร์ต เอฟ โกเดค' ชวนคุย  เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

นั่นคือมุมมองของทูตสหรัฐแลกเปลี่ยนกับนักข่าวไทยในจังหวะพอเหมาะพอดีที่ไทยได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้ไทยใช้ระบบรัฐสภา สหรัฐใช้ระบบประธานาธิบดี เราต่างได้ชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย จึงนับเป็นเรื่องดีที่ต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของกันและกัน ซึ่งในวันที่ 5 พ.ย.นี้โลกจะได้ประจักษ์ถึงพลังประชาธิปไตยของมหาอำนาจอีกครั้งหนึ่ง