รู้จักเรือ ‘Icon of the Seas’ ใหญ่กว่าไททานิค 5 เท่า แต่ปล่อย ‘ก๊าซมีเทน‘ เพียบ
เปิดความยิ่งใหญ่ของ “Icon of the Seas” เรือสำราญใหญ่ที่สุดในโลก และมหึมากว่าเรือไททานิคถึง 5 เท่า พร้อมความบันเทิงแบบจัดเต็ม แต่ก็มีคำถามตามมาถึงการปล่อยมีเทนอันร้ายแรงกว่าคาร์บอน 80 เท่า
Key Points
- เรือ Icon of the Seas มาพร้อมความสูง 20 ชั้น มีความยาว 365 เมตร ซึ่งยาวกว่าความสูง 300 เมตรของหอไอเฟลเสียอีก
- ภายในเรือสามารถจุผู้โดยสารและลูกเรือได้เกือบ 10,000 คน มาพร้อมสวนน้ำที่จัดให้อย่างครบครัน
- การล่องเรือสำราญปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกมากกว่าการเดินทางบนบกสูงกว่า 8 เท่า
นับตั้งแต่โศกนาฏกรรมเรือสำราญ “ไททานิค” เมื่อปี 2455 เป็นต้นมา หลายบริษัทก็หวาดวิตกถึงการสร้างเรือขนาดยักษ์ที่มาพร้อมความท้าทายที่มากขึ้น พร้อมชีวิตมนุษย์ที่ต้องดูแล
แต่ในปัจจุบัน บริษัท Royal Caribbean Group (รอยัล แคริบเบียน กรุ๊ป) ของประเทศสหรัฐได้ทลายความกลัวเหล่านี้ และสร้างเรือยักษ์ที่ใหญ่กว่าไททานิคเดิมถึง 5 เท่า ในชื่อว่า “Icon of the Seas” นับเป็นเรือสำราญใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้
สำหรับเรือ Icon of the Seas มาพร้อมความสูง 20 ชั้น มีความยาว 365 เมตร ซึ่งยาวกว่าความสูง 300 เมตรของหอไอเฟลในกรุงปารีสของฝรั่งเศส และมีน้ำหนักมากถึง 250,800 ตัน ด้วยทุนสร้างสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 70,000 ล้านบาท และเริ่มออกเดินทางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา จากเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐ ไปเที่ยวยังแถบหมู่เกาะทะเลแคริบเบียน
ภายในเรือสามารถจุผู้โดยสารและลูกเรือได้เกือบ 10,000 คน มาพร้อมสวนน้ำที่จัดให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์น้ำ 6 อัน ที่ผู้โดยสารสามารถกลิ้งไถลไปมาอย่างสนุกสนาน พร้อมได้ชื่นชมวิวจากทะเลด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีลานโต้คลื่นข้างในที่จำลองมาจากทะเล ลานบาสเกตบอล ลานสเกตน้ำแข็ง ภัตตาคารกว่า 40 แห่ง บาร์ โรงหนัง ห้องนั่งเล่น และลานกิจกรรมสนุกต่าง ๆ
- ล่องเรือสำราญ ปล่อยคาร์บอนสูงกว่าบก 8 เท่า
ท่ามกลางเรือสำราญซึ่งเป็นที่นิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ รายงานจาก Friends of the Earth องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระบุไว้ว่า “การล่องเรือสำราญ” ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกมากกว่าการเดินทางบนบกสูงกว่า 8 เท่า
ยิ่งไปกว่านั้น การที่เรือ Icon of the Seas ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ยังปล่อยก๊าซมีเทนออกมาจำนวนมาก โดย “มีเทน” จัดอยู่ในกลุ่มก๊าซเรือนกระจกเช่นเดียวกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ความต่างระหว่าง 2 ก๊าซนี้คือ แม้ว่า “ก๊าซมีเทน” จะอยู่ในบรรยากาศโลกสั้นกว่า ที่ราว 10 ปี ส่วน “ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” อยู่ได้นานเป็นศตวรรษ แต่มีเทนกลับเป็นอันตรายต่อโลกมากกว่า เพราะทำให้โลกร้อนขึ้นมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 80 เท่า
ไบรอัน โคเมอร์ (Bryan Comer) ผู้อำนวยการโครงการ ICCT ด้านพลังงานสะอาดทางทะเล แนะนำว่า เรือ Icon of the Seas ควรหันมาใช้เซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ซึ่งเป็นเซลล์ไฟฟ้าเคมีอย่างหนึ่งคล้ายกับแบตเตอรี่ หรือหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างไฮโดรเจน หรือเมทานอลแทน ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า
ขณะที่ มาร์ซี คีเวอร์ (Marcie Keever) ขององค์กร Friends of the Earth กล่าวว่า การสร้างเรือยักษ์และตัดสินใจใช้เชื้อเพลิง LNG ถือว่าเดินไม่ถูกทาง อีกทั้งยังนำไปสู่การขยายขนาดโครงสร้างพื้นฐานอย่างท่าเรือให้ใหญ่ขึ้น ทำลายแหล่งปะการัง และระบบนิเวศเพื่อรองรับขนาดเรือมหึมานี้
อ้างอิง: royalcarib, scmp, cnbc, foe, climate, guardian
