เส้นทาง "เวียดนาม" แหล่งผลิตชิป ระดับแสนล้านดอลลาร์ของโลก

เส้นทาง "เวียดนาม" แหล่งผลิตชิป ระดับแสนล้านดอลลาร์ของโลก

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกวางแผนย้ายฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ หยุดใช้ชิป และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ผลิตในจีน หันไปมองหาแหล่งผลิตใหม่ๆ มักมี “เวียดนาม” ติดในรายชื่อต้นๆ ที่มีญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และอินเดียอยู่ในลิสต์ แล้วจะมีพื้นที่ให้ไทยหรือไม่

เมื่อต้นเดือน ม.ค. บริษัทเดลล์ เทคโนโลยี อิงค์ วางแผนหยุดใช้ชิปที่ผลิตในจีนภายในปี 2567 และขณะนี้ได้แจ้งให้ซัพพลายเออร์ลดการใช้ชิ้นส่วนประกอบอื่นๆ ที่ผลิตในจีนด้วย ด้านบริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด (เอชพี) ผู้ผลิตพีซีหนึ่งในคู่แข่งของเดลล์กำลังประเมินความเป็นไปได้ในการย้ายการผลิตชิปและหยุดการประกอบสินค้าที่โรงงานในประเทศจีน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลวอชิงตันกับปักกิ่ง หลังที่สหรัฐเพิ่มชื่อบริษัท YMTC  ผู้ผลิตชิประดับสูงของจีน และบริษัทรายใหญ่อื่นๆ อีก 21 แห่งในบัญชีดำทางการค้าเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งเดลล์ และเอชพีได้เริ่มติดต่อขอให้ซัพพลายเออร์ส่วนประกอบอื่นๆ เช่น โมดูล อิเล็กทรอนิกส์และแผงวงจรพิมพ์ เพื่อช่วยเตรียมกำลังการผลิตในประเทศอื่นๆ โดยเบื้องต้นเล็งเป้าหมายไปที่ประเทศเวียดนาม

ในปลายปีที่แล้ว ซัมซุงเริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์ชิป กริด และเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตขึ้นที่โรงงานซัมซุง ท้ายเหวียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนย้ายโรงงานมาผลิตชิปที่โรงงานซัมซุง ท้ายเหวียนตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566

ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางแนวโน้มบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมชิปอาจเลือกเวียดนามเพื่อตั้งโรงงาน นี่เป็นข่าวดีสำหรับเวียดนาม แต่เป็นการส่งสัญญาณความท้าทายให้กับ “ไทย” และประเทศแคนดิเดตอื่นๆ ในเอเชียที่หมายมั่นและปลุกปั้นตนเองเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 

ดูเหมือนว่า รัฐบาลฮานอยจะตื่นตัวกับเรื่องนี้มากด้วย โดยเว็บไซต์เวียดนามโพสต์รายงานว่า ลี แจ-ยอง ประธานกรรมการบริหารบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ได้พบปะกับฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ซึ่งได้เอ่ยปากถามแบบตรงไปตรงมาและขอให้ซัมซุงเข้ามาตั้งโรงงานผลิตชิปในเวียดนามภายในปี 2566 

ความเป็นจริงแล้ว ซัมซุงได้ทุ่มเงินเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์กับโรงงานซัมซุง ท้ายเหวียนเมื่อปี 2565 เพื่อเริ่มลงเสาหลักโรงงานผลิตชิปในเวียดนาม

ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจของมหาวิทยาลัยอาร์เอ็มไอที เวียดนามมองว่า เวียดนามสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นของฐานการผลิตชิปที่สำคัญในโลก ขณะที่ยอดขายในอุตสาหกรรมชิป  เซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกทั้งหมดเฉพาะในปี 2565 สูงถึงประมาณ 6 แสนล้านดอลลาร์ และนี่จะเป็นก้าวสำคัญของเวียดนามที่นำไปสู่อุตสาหกรรมมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ในไม่ช้า หรือภายในปี 2573