"สหรัฐ" เล็งไทย ร่วมวิจัยชีวภาพทางทหาร หลังล้มเหลวในยูเครน

"สหรัฐ" เล็งไทย ร่วมวิจัยชีวภาพทางทหาร หลังล้มเหลวในยูเครน

"กองทัพรัสเซีย" เผย มอสโกได้รับรายงานว่า วอชิงตันเตรียมย้ายศูนย์วิจัยทางชีวภาพทางทหารของสหรัฐที่ตั้งอยู่ในยูเครนมายังประเทศในเอเชีย

อีกอร์ คีรีลอฟ  หัวหน้ากองกำลังป้องกันรังสี สารเคมีและอาวุธชีวภาพของกองทัพรัสเซียแถลงข่าวในกรุงมอสโกว่า รัสเซียได้รับรายงานว่า องค์กรลดภัยคุกคามแห่งสหรัฐ (DTRA) ซึ่งดำเนินกิจกรรมทางการทหารด้านชีววิทยาในยูเครน อาทิ รายชื่อผู้เชี่ยวชาญและผู้จัดการโครงการทางชีววิทยา ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง และฝึกอบรมเพื่อสกัดการติดเชื้อโรคที่เป็นอันตราย

ในรายงานระบุข้อมูลของหน่วยงานทหาร 3 แห่งซึ่งรับเหมาโครงการนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ 30 คน และผู้จัดการโครงการ 7 คนมาจากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ 

"ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พวกเขาทั้งหมดนี้ได้รับผลประโยชน์จากโครงการวิจัยชีววิทยาทางทหารของเพนตากอน และมีส่วนเชื่อมโยงกับพรรคเดโมแครตของสหรัฐ ซึ่งผู้นำของพวกเขาเป็นผู้กำหนดอุดมการณ์ในงานวิจัยดังกล่าว รวมถึงอาจเป็นการฟอกเงินแบบลับๆ เพื่อผลประโยชน์ในกลุ่มคนระดับสูงของสหรัฐด้วยกันเอง" คีรีลอฟเล่า

รัสเซียพยายามสร้างกลไกควบคุมภายใต้กรอบอนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ (BWC) เพื่อป้องกันการวิจัยทางชีววิทยาทางทหารที่ผิดกฎหมาย แต่แนวคิดดังกล่าวได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากวอชิงตัน

"เพนตากอนกำลังเตรียมย้ายศูนย์วิจัยในยูเครน ที่ทำแล้วล้มเหลวไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชียกลางและยุโรปตะวันออก" คีรีลอฟระบุ 

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐจะร่วมมือกับเคนยา กัมพูชา สิงคโปร์ และไทยมากขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีห้องปฏิบัติการพร้อมอยู่แล้ว ทำให้กองทัพสหรัฐสนใจในประเทศเหล่านี้เป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ในการประชุม BCW ที่เจนีวาเมื่อเร็ว ๆ นี้เผยให้เห็นถึง “ความขัดแย้งที่ลึกซึ้ง” และหัวข้อการวิจัยทางชีววิทยาทางทหารไม่ได้รับความสนใจจากสื่อตะวันตกส่วนใหญ่ เพราะทำให้ชาติตะวันตกไม่สบอารมณ์ได้