เปิดคิว ‘ไบเดน’ เดือน พ.ย. ร่วมซัมมิต‘กัมพูชา-อินโดนีเซีย’

เปิดคิว ‘ไบเดน’ เดือน พ.ย. ร่วมซัมมิต‘กัมพูชา-อินโดนีเซีย’

เดือน พ.ย.ปีนี้มีการประชุมใหญ่หลายรายการ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีถึงสามรายการ ขณะที่ COP27 จะจัดขึ้นในอียิปต์ แล้วอย่างนี้ผู้นำจะแบ่งภาคการประชุมอย่างไร โดยเฉพาะประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ

ทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันศุกร์ (28 ต.ค.) ตามเวลาสหรัฐว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะเข้าประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (COP27) ที่อียิปต์ในเดือนหน้า

แถลงการณ์ระบุ “ไบเดนจะผลักดันการต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก และช่วยผู้ที่อ่อนแอที่สุดสร้างความทนทานต่อผลกระทบสภาพอากาศ และเขาจะเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่โลกต้องดำเนินการในทศวรรษที่มุ่งมั่นนี้”

การประชุม COP27 จะมีขึ้นที่ชาร์ม เอลเชค เมืองท่องเที่ยวในทะเลแดง ไบเดนจะเข้าร่วมประชุมผู้นำในวันที่ 11 พ.ย. ก่อนบินมาร่วมประชุมผู้นำสหรัฐ-อาเซียนประจำปีที่กัมพูชา จากนั้นไปร่วมการประชุมผู้นำG20 ที่อินโดนีเซีย  ส่วนการประชุมผู้นำ APEC ที่กรุงเทพฯ ไบเดนไม่ได้มาร่วม อ้างว่าติดงานแต่งงานหลานสาว โดยส่งรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสมาร่วมประชุมแทน

“เขาจะทำงานร่วมกับพันธมิตรG20 แก้ไขความท้าทายสำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบจากสงครามยูเครนของ(ประธานาธิบดีวลาดิมีร์) ปูตินที่มีต่อโลก และเรื่องสำคัญอื่นๆ อีกมาก”

ที่หลายคนจับตาคืองานนี้ ไบเดนจะพบกับปูตินหรือไม่ แถลงการณ์ทำเนียบขาวตอบชัด ไบเดนไม่มีเจตนารมณ์จะพบกับปูตินที่G20 แม้ว่าปูตินเข้าร่วม นอกจากนี้ยังไม่มีแผนพบกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียในเวทีนี้ด้วย หลังความสัมพันธ์สหรัฐ-ซาอุฯ ที่ตึงเครียดรอบใหม่ เมื่อรัฐบาลริยาดเพิ่งสนับสนุนการลดเพดานการผลิตน้ำมันโดยไม่สนใจคำขอของไบเดน

เห็นได้ชัดว่าท่าทีของไบเดนต่อปูตินแตกต่างกันมากกับที่มีต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ประธานาธิบดีสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะมีโอกาสพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีจีน ในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในเดือนพ.ย.นี้ หากผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว

 ขณะที่สีเองก็ส่งสัญญาณในทางบวก เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ต.ค.) สีกล่าวว่า จีนพร้อมร่วมมือกับสหรัฐในการสร้างสันติภาพในระดับโลก บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน การดำรงอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติ ถ้อยแถลงนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนต้องการรักษาความสัมพันธ์กับสหรัฐ แม้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับไต้หวัน  อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และท่าทีของจีนที่มีต่อการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน

ในวันเดียวกันนั้นสถานีโทรทัศน์ซาอุฯ รายงานว่า ประธานาธิบดีจีนเตรียมเยือนซาอุฯ และจะมีการประชุมผู้นำระหว่างจีนกับประเทศอาหรับด้วย

เห็นการเดินเกมของผู้นำผ่านการประชุมเวทีต่างๆ กล่าวได้ว่า ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ยังไม่มีแววจบสิ้น มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและเศรษฐกิจตามมา ความเคลื่อนไหวของตัวละครอย่างสหรัฐ รัสเซีย จีน และซาอุดีอาระเบีย ผ่านการประชุมผู้นำเป็นเรื่องที่ต้องจับตายิ่ง โดยเฉพาะใคร จะเจอกันที่ไหน และจะคุยกันเรื่องอะไร