Bosch นำทัพปฏิรูป ซอฟต์แวร์ยานยนต์ พร้อมเข้าสู่ยุค รถยนต์ขับเคลื่อนอัจฉริยะ

Bosch นำทัพปฏิรูป "ซอฟต์แวร์ยานยนต์" และฟีเจอร์แบบดั้งเดิมอย่างเต็มอัตรา ให้พร้อมเข้าสู่ยุครถยนต์ขับเคลื่อนอัจฉริยะ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ในอดีต ระบบต่างๆ ภายใน รถยนต์ ถูกออกแบบและพัฒนาการทำงานแยกออกจากกัน และการรวมระบบเหล่านั้นให้เป็นหนึ่งเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย ต้องพิจารณาความสัมพันธ์ของระบบต่างๆ ให้ดี โดยเฉพาะการสื่อสารภายในรถยนต์ และระบบต่างๆ ต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดจึงจะใช้งานได้อย่างราบรื่น
ตอนนี้สถาปัตยกรรมยานยนต์แบบดั้งเดิมกำลังถึงขีดจำกัดแล้ว และทางออกของความท้าทายนี้ก็คือ "ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์" วิวัฒนาการนี้ไม่เพียงส่งผลต่อการพัฒนาและการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดโมเดลธุรกิจและรูปแบบความร่วมมือใหม่ๆ อีกด้วย
สู่ยุคยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์
นวัตกรรมในวงการยานยนต์กำลังพัฒนาสู่บิตและไบต์มากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน ซึ่ง Bosch ก็กำลังตอบสนองต่อเทรนด์นี้ที่กำลังเข้าสู่ยุคแห่งการออกแบบวิศวกรรมยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ ด้วยการปรับโครงสร้างซัพพลายยานยนต์ใหม่
ซอฟต์แวร์ไม่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงวิธีที่การใช้งานและการสัมผัสประสบการณ์ของรถยนต์ในอนาคตเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิธีการออกแบบวิศวกรรมยานยนต์อีกด้วย ดังนั้น การสร้างยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์สำหรับตลาดโลก จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนและปฏิรูปการพัฒนาซอฟต์แวร์และฟีเจอร์แบบดั้งเดิมอย่างเต็มอัตรา และเนื่องจากเทรนด์ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์กำลังมาแรง ตลาดซอฟต์แวร์ยานยนต์จึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากกว่า 2 แสนล้านยูโร ภายในปี 2030 ซึ่งมากกว่าปี 2020 ถึงสามเท่า และปัจจุบัน Bosch สามารถดำเนินธุรกิจเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักได้ในตลาดนี้ ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมกำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์เป็นเทคโนโลยีที่ได้แรงสนับสนุนมาจากเทรนด์การขับเคลื่อน 5 ประการ ที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วย ซอฟต์แวร์และบริการ การปรับแต่งตามความต้องการส่วนบุคคล การขับขี่อัตโนมัติ การเชื่อมต่อ และการใช้พลังงานไฟฟ้ายานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์จะมีแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์ที่สามารถรองรับเทรนด์ความต้องการดังกล่าวได้ทั้งหมด เนื่องจากได้รับการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) แบบที่เชื่อมโยงและทำงานร่วมกันได้หลายส่วน (cross-domain)
Bosch พร้อมส่งต่อประสบการณ์ล้ำสู่ผู้ใช้งาน
ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์จะมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการเปลี่ยนกระบวนทัศน์การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยฮาร์ดแวร์ไปสู่การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์
ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์จะสามารถปรับแต่งและตั้งโปรแกรมได้อย่างเต็มที่ ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการอัปเดตซอฟต์แวร์และฟีเจอร์ใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถลดเวลาในการพัฒนาและการติดตั้งจากระยะเวลาหลายปีให้เหลือเพียงไม่กี่เดือนหรือไม่กี่สัปดาห์
ทั้งนี้ ยานยนต์ในปัจจุบันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการตั้งโปรแกรม และรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์บ่อยครั้ง ดังนั้น Bosch จึงต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในด้านนี้
เทคโนโลยี-ซอฟต์แวร์อัจฉริยะของ Bosch
- การจัดการการเคลื่อนที่ยานยนต์ (VMM)
เทคโนโลยีนี้เป็นซอฟต์แวร์และเป็นระบบโซลูชันที่ครอบคลุมการจัดการการเคลื่อนที่ของยานยนต์อย่างอิสระ 6 ระดับ ด้วยการใช้สถาปัตยกรรมระบบเปิดและข้อมูลเซนเซอร์จากยานพาหนะทั้งหมด ซึ่งระบบนี้จะช่วยประสานการควบคุมตัวกระตุ้นการเคลื่อนที่ของยานยนต์ เช่น เบรก พวงมาลัย กำลังเครื่องยนต์ และช่วงล่าง ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ขับขี่ปลอดภัย สะดวกสบาย และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
- ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของซอฟต์แวร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือกุญแจสำคัญที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งผู้บริโภคต่างก็แสวงหาประสบการณ์การขับขี่ที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และราบรื่นมากขึ้น AI จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถตอบสนองและก้าวข้ามความคาดหวังเหล่านี้ได้
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้ จะสามารถเปลี่ยนจากระบบความปลอดภัยเชิงรับ (reactive safety system) เป็นระบบผู้ช่วยขับขี่อัจฉริยะเชิงรุก และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเหนือชั้นด้วยการเรียนรู้จากข้อมูลในโลกของความเป็นจริง ช่วยให้ยานยนต์ตอบสนองต่อความซับซ้อนในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้ ยังช่วยเพิ่มความเร็วของระบบและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานระบบ ซึ่งลูกค้าจะได้ประโยชน์จากการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
- บริการคลาวด์ของ Bosch
สถาปัตยกรรมระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) และบริการเชื่อมต่อที่ทันสมัย ทำให้ยานพาหนะเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับข้อมูล บริการคลาวด์ของ Bosch จะทำให้ยานพาหนะสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับระบบคลาวด์ ยานพาหนะอื่นๆ โครงสร้างพื้นฐาน ศูนย์บริการ และผู้ให้บริการด้านการขับขี่ได้
ตัวอย่างซอฟต์แวร์ล้ำ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
- Battery in the Cloud
Battery in the Cloud เป็นโซลูชันเชื่อมต่ออัจฉริยะเพื่อติดตามภาพรวมสถานะแบตเตอรี่ของยานพาหนะแต่ละคัน และจัดการแบตเตอรี่ให้ดีขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โซลูชันนี้มีการคาดการณ์ระยะทางที่แม่นยำและทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบระยะทางที่สามารถไปต่อได้จากสถานะแบตเตอรี่ และด้วยการประเมินสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างต่อเนื่อง รถยนต์จะสามารถคำนวณระยะทางได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยลดความกังวลของผู้ขับขี่ได้ด้วย
- ระบบเตือนผู้ขับขี่ขับผิดทางบนคลาวด์
โซลูชันอัจฉริยะนี้จะตรวจจับยานพาหนะที่กำลังขับผิดทาง พร้อมแจ้งเตือนผู้ขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้รถใช้ถนนที่มีระบบเชื่อมต่อนี้และอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับผู้ขับขี่ผิดทาง (ไม่ว่าจะผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน หรือผ่านโซลูชันที่รวมอยู่ในหน้าจอแสดงผลในห้องโดยสารของยานยนต์) จะสามารถรับทราบข้อมูลได้รวดเร็วกว่าและสะดวกกว่าเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม
- RideCare โซลูชันเชื่อมต่อสำหรับการจัดการยานพาหนะ
RideCare อาศัยกล่องเซนเซอร์อัจฉริยะคอยตรวจจับควันในยานพาหนะ ผลกระทบจากความเสียหาย และพฤติกรรมการขับขี่ที่มีความเสี่ยงหรือรุนแรง บริการนี้จะช่วยให้เจ้าของยานพาหนะสามารถประเมินความเสียหาย มองเห็นภาพรวมของยานพาหนะได้อย่างชัดเจน และยกระดับประสบการณ์ของผู้ขับขี่ พร้อมช่วยปรับลดต้นทุนโดยรวม (เช่น การซ่อมแซม การบำรุงรักษา) ในการเป็นเจ้าของยานพาหนะได้
ทั้งนี้ Bosch สนับสนุนพันธมิตรด้วยบริการอัจฉริยะและโซลูชันที่ปลอดภัยอยู่เสมอ และเป็นโซลูชันสามารถปรับให้เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเฉพาะบุคคลได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งในกระบวนการนี้ Bosch ได้ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านไอทีเข้ากับความรู้ความชำนาญด้านยานยนต์ที่ครอบคลุม ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับข้อมูลยานพาหนะ และประสบการณ์ในด้านบริการเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่สั่งสมมานานหลายปี







