"Aruba" เปิดตัววิวัฒนาการขั้นถัดไปของสถาปัตยกรรมระบบสวิตช์

"Aruba" เปิดตัววิวัฒนาการขั้นถัดไปของสถาปัตยกรรมระบบสวิตช์

"Aruba" ผู้นำระดับโลกทางด้านโซลูชันระบบเครือข่ายแบบ Edge-to-Cloud เปิดตัว Distributed Services Switch ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจองค์กรสามารถใช้บริการ Software-Defined แบบ Stateful ประมวลผลข้อมูลได้ในที่เดียว ช่วยลดอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ในระบบตอบโจทย์องค์กรด้านไอทียุคใหม่

John Chambers ประธานบริษัท Pensando และซีอีโอ แห่ง JC2 Ventures ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งซีอีโอ แห่ง Cisco Systems กล่าว ​ว่า การเปลี่ยนแปลงของตลาดได้สร้างโอกาสใหม่ๆ และ เกิดการพลิกโฉมวงการ โดยเมื่อ Cloud ถูกย้ายไปสู่ Edge การให้บริการแบบกระจายตัวก็ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตั้งแต่ AI/ML, 5G ไปจนถึง Virtualization

ซึ่ง Distributed Services Switch เป็นหมวดหมู่เทคโนโลยีใหม่ด้วยพลังของ Software-in-Silicon จาก Pensando จะทำให้กระบวนการใช้ Distributed Services ซึ่งเดิมมีเฉพาะผู้ให้บริการระดับ Hyperscaler อย่าง AWS สามารถเกิดขึ้นได้ในธุรกิจองค์กรอย่างง่ายดายและคุ้มค่าการลงทุน โดยการกำจัดอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่ต้องติดตั้งในเครื่องแม่ข่ายแบบเดิมออกไป องค์กรจะสามารถเพิ่มขยายระบบได้ถึงหลายร้อยเท่าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบได้มากกว่าเดิมหลายสิบเท่า ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของระบบโดยรวมเพียงแค่หนึ่งในสามของแนวทางแบบดั้งเดิมเท่านั้น

The Aruba CX 10000 Series Switch คือสวิตช์สำหรับศูนย์ข้อมูลในรูปแบบใหม่ที่ได้ผสานอุปกรณ์สวิตช์สำหรับศูนย์ข้อมูลในระดับ L2/3 ที่ดีที่สุดของ Aruba เข้ากับหน่วยประมวลผลแบบ Programable DPU หนึ่งเดียวของวงการ (Pensando Elba) เพื่อนำเสนอบริการ Stateful Software-Defined แบบ Inline สำหรับระบบขนาดใหญ่ ด้วยความเร็วการส่งข้อมูลในระดับ Wire-Rate ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพจากอุปกรณ์สวิตช์สำหรับศูนย์ข้อมูลในระดับ L2/3 แบบดั้งเดิมได้หลายเท่า โดยมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเป็นเจ้าของระบบน้อยลงกว่าเดิม

Alan Weckel ผู้ก่อตั้งและนักวิเคราะห์เทคโนโลยีแห่ง 650 Group กล่าวว่า Aruba และ Pensando ได้ร่วมกันสร้างสถาปัตยกรรมบริการแบบกระจายตัวแรกของวงการที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสร้างและใช้งานระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและขนาดเดียวกับที่เหล่ายักษ์ใหญ่ทางด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์สเกลใช้

เทคโนโลยีหมวดหมู่ใหม่ของวงการ หลุดจากกรอบเทคโนโลยีเดิมที่เคยมีมา และจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ในงานรูปแบบใหม่อย่าง AI/ML จะพลักดันให้เกิดการแข่งขันในเหล่าผู้พัฒนาเทคโนโลยีภายใต้หลักการพื้นฐานของบริการแบบกระจายตัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมนี้

พลิกโฉมรูปแบบการนำเสนอ

ในขณะที่ระบบเครือข่ายภายในศูนย์ข้อมูลได้มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดระบบเครือข่าย Leaf-Spine ประสิทธิภาพสูงด้วยความเร็ว 25/100/400G เพื่อตอบโจทย์ของสถาปัตยกรรมแอปพลิเคชันใหม่ที่มีทั้งความรวดเร็วและปริมาณมหาศาล แต่สถาปัตยกรรมทางด้านความมั่นคงปลอดภัยและการให้บริการกลับไม่เป็นไปเช่นนั้น

ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของการรับส่งข้อมูลภายในศูนย์ข้อมูลแบบ East-West อุปกรณ์รักษาความมั่นคงปลอดภัยแบบรวมศูนย์นั้นได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่มีประสิทธิภาพ, มีค่าใช้จ่ายสูง และยากต่อการบริหารจัดการ อธิบายโดยรวบรัดคือ ข้อมูลที่กระจุกตัวอยู่ที่อุปกรณ์ในระดับ Edge ของศูนย์ข้อมูลนี้ทำให้อุปกรณ์ต้องมีประสิทธิภาพ และ ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น และ เกิดความยุ่งยากในการดูแลรักษาตามมา


ปัญหานี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากการมาของแอปพลิเคชันในแบบ Microservices ที่ทราฟฟิกอาจเกิดขึ้นระหว่างหลายบริการภายในอุปกรณ์เครื่องเดียวกัน ทำให้ทราฟฟิกบางส่วนของแอปพลิเคชันนั้นไม่ถูกตรวจสอบโดยอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ไฟร์วอลล์, IPS หรืออุปกรณ์รักษาความมั่นคงปลอดภัยอื่นๆ เลย ส่งผลให้องค์กรเกิดช่องโหว่ที่จะถูกโจมตีจากภายในองค์กรเองได้

ก้าวสู่สถาปัตยกรรมบริการแบบกระจายตัว

Aruba CX 10000 Series Switch พร้อม Pensando สร้างโซลูชันใหม่สำหรับการรับส่งข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดในสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบเก่า โดย Aruba CX 10000 จะทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถต่อยอดระบบเครือข่ายแบบ Leaf-Spine ตามมาตรฐานได้ด้วยการทำ Micro-Segmentation แบบกระจายตัว, การทำ East-West Firewall, NAT, การเข้ารหัสข้อมูล และการให้บริการข้อมูลสถิติการใช้งาน ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในตัวอุปกรณ์โดยตรงบนทุกๆ พอร์ตที่ใช้งาน ทำให้สามารถจัดการระบบเครือข่ายได้ในจุดที่อยู่ใกล้กับแอปพลิเคชันสำคัญของธุรกิจองค์กรยิ่งกว่าเดิม
 

โซลูชันดังกล่าวนี้สามารถนำเสนอการผสมผสานกันระหว่างประสิทธิภาพ การเพิ่มขยาย และการทำงานแบบอัตโนมัติได้สำหรับบริการด้านเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยแบบกระจายตัวชั้นสูง ซึ่งการควบคุมนโยบายแบบรวมศูนย์อย่างในอดีตที่เคยต้องมีการรับส่งข้อมูลปริมาณมากภายในเครือข่ายไม่สามารถทำได้ในราคาที่คุ้มค่า ด้วยการให้บริการด้านเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยที่ส่วนปลายสุดของการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ซึ่งแอปพลิเคชันถูกติดตั้งและใช้งานอยู่โดยตรง

ซึ่งกรณีการใช้งานโดยหลักนั้นได้แก่

1.ศูนย์ข้อมูลภายในของธุรกิจองค์กรและ Private Cloud สถาปัตยกรรมศูนย์ข้อมูบแบบดั้งเดิมที่มีอุปกรณ์รักษาความมั่นคงปลอดภัยแบบรวมศูนย์นั้นกำลังมาถึงทางตัน ที่ซึ่งภาระทางด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ, ความคล่องตัว และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษานั้นเริ่มกลายเป็นปัจจัยที่ไม่มั่นคงอีกต่อไป Aruba CX 10000 ได้นำเสนอสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจซึ่งกระจายบริการชั้นสูงเหล่านี้ไปยังส่วนปลายของศูนย์ข้อมูลได้ด้วยระบบเครือข่ายแบบครบวงจรและการจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยแบบอัตโนมัติ

รวมถึงการควบคุมนโยบาย โซลูชันใหม่นี้จะทำให้ได้แบนด์วิดธ์และประสิทธิภาพของเครือข่ายในระดับที่สูงสุดจากการที่ไม่ต้องส่งทราฟฟิกภายในไปยังศูนย์รวมคอขวดแห่งเดียว อีกทั้งยังช่วยให้ควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยได้ดีขึ้นจากการลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายที่เคยเกิดขึ้นกับอุปกรณ์รักษาความมั่นคงปลอดภัย

2.Co-location Edge - เชื่อมต่อผู้ให้บริการ Cloud เข้าด้วยกันอย่างมั่นคงปลอดภัย

ค่าใช้จ่ายในการเข้ารหัสข้อมูลไปยัง Public Cloud ด้วยการใช้อุปกรณ์แบบดั้งเดิมนั้นมีราคาที่สูงเกินไป ในขณะที่ลูกค้าหลายรายยังจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเข้ารหัสทุกๆ ทราฟฟิกที่เข้าถึงทรัพยากรบน Public Cloud ด้วยเหตุนี้ Aruba CX 10000 ที่มีความสามารถในการทำ Edge Routing, Line-Rate Encyrption, Firewall และ NAT พร้อมการตรวจสอบข้อมูลในทุกระดับ จึงสามารถรองรับการเชื่อมต่อ Cloud เหล่านี้ได้ทั้งจากระบบศูนย์ข้อมูลภายในองค์กรหรือแบบ Co-location โดยมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนโดยรวมที่ต่ำลง และมีสถาปัตยกรรมด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดพลาดใดๆ ลงได้

ทั้งนี้ Aruba ESP ถูกออกแบบมาสำหรับการผสานรวม, จัดการแบบอัตโนมัติ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับทุกบริการของเครือข่ายที่ระดับ Edge ในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากภายนอกองค์กร, ระบบเครือข่ายที่สาขา, ระบบเครือข่ายในสาขาหลัก หรือแม้แต่ภายในศูนย์ข้อมูล ในขณะที่ Aruba CX 10000 ก็จะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งาน Zero Trust Network Architecture เชิงลึกได้ตั้งแต่ภายในศูนย์ข้อมูลไปจนถึงส่วนปลายของการเชื่อมต่อระหว่างระบบเครือข่ายและอุปกรณ์แม่ข่าย ด้วยความเร็วในการรับส่งข้อมูลแบบ Stateful ภายในศูนย์ข้อมูลที่ความเร็ว 800 กิกะบิตแบบ East-West บนทุกๆ พอร์ตของสวิตช์ ช่วยเพิ่มขนาดของระบบและเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันและระบบงานสำคัญขององค์กรได้

Perm Jain , CEO บริษัท Pensando Systems กล่าวเสริมว่า หลายปีที่ผ่านมา เคยมองว่าระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเครือข่ายที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่มีทั้งงบประมาณและทีมงานที่ไม่จำกัดเพื่อสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งมีความโดดเด่นทางด้านความคล่องตัว, การเพิ่มขยาย และประสิทธิภาพ

แต่สถาปัตยกรรมบริการแบบกระจายตัวของ Aruba นี้ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับบริษัทฯที่จะทำให้สามารถเอาชนะความท้าทายในรูปแบบเดียวกับที่ผู้ให้บริการรายใหญ่สามารถทำได้ ในขณะที่ยังคงใช้งบประมาณที่เหมาะสมและใช้บุคลากรที่จำกัด ส่งผลให้สามารถบรรลุเป้าหมายโดยรวมทางด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบเครือข่ายและการประมวลผลได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น ซึ่งก็จะสะท้อนกลับไปยังการบรรลุเป้าหมายเชิงธุรกิจในภาพรวมของบริษัทได้

3.ความสัมพันธ์ของ HPE/Pensando ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

โซลูชันใหม่นี้ได้เติมเต็มการประกาศเปิดตัวล่าสุดของ Pensando Distributed Services Platform (DSP) สำหรับ HPE Servers  ซึ่งสามารถใช้งานในรูปแบบ PCI สำหรับ HPE ProLiant Server, HPE Apollo systems และ HPE Edgeline Converged Edge ได้

Aruba CX 10000 ได้ต่อยอดการใช้งานบริการอัจฉริยะเหล่านี้เข้าไปสู่ระบบเครือข่ายประสานระหว่างศูนย์ข้อมูล ตอบโจทย์การใช้งานรูปแบบใหม่ๆ ทั้งสำหรับระบบเครือข่ายที่มีอยู่เดิม, ระบบที่มีการใช้งานเทคโนโลยีรายเดียวหรือหลายราย ไปจนถึงการใช้งาน SmartNIC

“การประกาศในวันนี้จะยิ่งทำให้ความร่วมมือระหว่าง HPE และ Pensando มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น การนำ Distirbuted Services ของ Pensando มาสู่ระบบแพลตฟอร์มสวิตช์ที่เป็นผู้นำวงการของ Aruba นี้ได้ช่วยกำจัดเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมที่เคยใช้ในการสร้าง Zero-Trust Private Cloud อย่างง่ายดายและคุ้มค่าการลงทุนมากยิ่งขึ้น” Prem Jain ผู้กล่าวทิ้งท้าย