'เดลล์' มองเทรนด์เทคโนโลยีปี 2569 จับตา 'AI Agent' เปลี่ยนเกมองค์กร

'เดลล์' มองเทรนด์เทคโนโลยีปี 2569 จับตา 'AI Agent' เปลี่ยนเกมองค์กร

เทคโนโลยี AI กำลังพลิกโฉมโครงสร้างขององค์กรและอุตสาหกรรม ผลักดันให้เกิดวิธีการดำเนินงาน การพัฒนา และการสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ด้วยระดับความเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

KEY

POINTS

  • ปี 2569 Autonomous Agent จะพัฒนาจากผู้ช่วยไปสู่การเป็นผู้จัดการกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งจะเปลี่ยนโครงสร้างและวิธีการทำงานขององค์กร
  • ธรรมาภิบาล จะกลายเป็นหัวใจสำคัญและเป็นรากฐานที่จำเป็นต่อความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ด้าน AI 
  • Sovereign AIจะขยายบทบาทและกลายเป็นรากฐานสำคัญของนวัตกรรม 
  • AI กำลังพลิกโฉมโครงสร้างขององค์กรและอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ ผลักดันให้เกิดวิธีการดำเนินงานและสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ด้วยความเร็วที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

จอห์น โรส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีระดับโลก และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย AI เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดมุมมองว่า AI กำลังพลิกโฉมโครงสร้างขององค์กรและอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกัน AI ผลักดันให้เกิดวิธีการดำเนินงาน การพัฒนา และการสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่ขยายวงกว้างยิ่งขึ้นด้วยระดับความเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เดลล์คาดการณ์เทรนด์เทคโนโลยีปี 2569 ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อทิศทางโลกไอทีประกอบด้วย

  1. ธรรมาภิบาล (Governance) จะเป็นหัวใจหลัก
  2. การสร้างชั้นข้อมูลความรู้ (Knowledge Layer) จะเป็นสิ่งจำเป็น
  3. เอเจนต์อิสระ (Autonomous Agent) จะเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร
  4. การทบทวนความยืดหยุ่น (Resiliency) สำหรับการปรับใช้ AI ในการผลิต
  5. การขยายบทบาทของโครงสร้างพื้นฐานอธิปไตย (Sovereign AI)

'Sovereign AI' รากฐานนวัตกรรม

ก้าวต่อไป "ธรรมาภิบาล" จะมีบทบาทสำคัญ เพราะการที่เทคโนโลยีและกรณีการใช้งาน AI จะประสบความสำเร็จได้นั้น องค์กรจำเป็นต้องมีระเบียบวินัยและธรรมาภิบาลในการดำเนินกลยุทธ์ AI

เทคโนโลยีและกรณีใช้งานต่างๆ จะไม่ประสบความสำเร็จ หากขาดซึ่งระเบียบวินัยและการกำกับดูแลที่ชัดเจนในการดำเนินกลยุทธ์ด้าน AI ไม่ว่าจะในระดับองค์กร ระดับภูมิภาค หรือระดับประเทศก็ตาม

เมื่อนำ AI ไปปรับใช้จะไม่ใช่แค่เรื่องของการประมวลผล แต่เป็นเรื่องของข้อมูล ที่น่าสนใจแม้ว่า "เอเจนต์" ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นเพียงแชทบอทหรือการทำงานอัตโนมัติพื้นฐาน แต่ต่อไปกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ "เอเจนต์อิสระ" ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เมื่อองค์กรนำเอเจนต์เหล่านี้มาใช้ จะไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือ แต่จะเริ่มเปลี่ยนวิธีการที่องค์กรทำงาน

Sovereign AI และการกำกับดูแล คือรากฐานสำคัญของนวัตกรรม การเร่งพัฒนา AI ด้วยระดับความเร็วสูง ย่อมทำให้เกิดความผันผวนอยู่บ้าง ดังนั้นความต้องการกรอบการกำกับดูแลที่เข้มงวด รวมถึงสภาพแวดล้อม AI แบบปิดและควบคุมได้ จะกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับภาคอุตสาหกรรมควรสร้างแนวป้องกันด้าน AI ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถสร้างนวัตกรรมได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

ปีที่แล้วมีการคาดการณ์ว่า “เอเจนต์” จะเป็นคำสำคัญของปี 2025 สำหรับปีนี้คำว่า “การกำกับดูแล” จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้น

ความท้าทายที่สำคัญคือ การวางโครงสร้างด้านการกำกับดูแล ซึ่งประกอบด้วยกฎเกณฑ์ที่ผู้คนสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามได้ รวมถึงแนวทางในการจัดลำดับความสำคัญของประเด็นที่เป็นเรื่องสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เข้าสู่ยุคเอเจนต์อัตโนมัติ

ปีเตอร์ มาร์ส ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีน สรุปแนวโน้มเทคโนโลยีที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเหล่านี้ว่า หนึ่งในแนวโน้มสำคัญคือ การมุ่งขยายการใช้งาน AI เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้ โดย AI กำลังสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

เดลล์พบว่า มีการนำ AI เอเจนต์มาใช้งานเพิ่มขึ้น ปัจจุบันอุตสาหกรรมกำลังเข้าสู่ยุคของเอเจนต์อัตโนมัติ ซึ่ง AI เอเจนต์กำลังพัฒนาจากผู้ช่วยไปสู่การเป็นผู้จัดการหลักในกระบวนการที่ซับซ้อนและดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลานาน “เมื่อผู้คนเริ่มก้าวสู่เส้นทางการใช้งาน AI เอเจนต์

ปี 2569 จะยิ่งประหลาดใจกับความสามารถของ AI เอเจนต์ที่ทำได้มากเกินความคาดหมาย การมี AI เอเจนต์จะช่วยสร้างคุณค่าให้มนุษย์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ทำงานที่ไม่ต้องอาศัย AI ได้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่ อุตสาหกรรมยังคงพัฒนาและใช้งาน AI ระดับองค์กรอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจจำเป็นต้องมีการทบทวนวิธีปฏิบัติและสร้าง AI Factories ที่มีความยืดหยุ่น

ส่วนของการกำกับดูแลในระดับประเทศ ระบบนิเวศของ Sovereign AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก AI กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลประโยชน์ของรัฐ เช่นเดียวกับหลายประเทศในภูมิภาค องค์กรต่างๆ กำลังสร้างกรอบการทำงานของตนเอง เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมในระดับท้องถิ่นด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งที่มีอยู่

ปีเตอร์ วิเคราะห์ว่า Sovereign AI กำลังก่อให้เกิดกระแสใหม่ของเศรษฐกิจและระบบนิเวศด้าน AI ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจในยุคเศรษฐกิจ AI ที่กำลังเติบโต

อีกประเด็นที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การพัฒนาระบบนิเวศด้านความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรเพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขัน AI ในภูมิภาค การร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรในอุตสาหกรรม จะช่วยสร้างความก้าวหน้าในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะและยกระดับองค์ความรู้ร่วมกันได้อย่างมาก