ผ่านโยบาย 'ป้อม ภาวุธ' เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ กับก้าวแรกใน 'สนามการเมือง' เมื่อผู้รู้เกมแพลตฟอร์ม ตัดสินใจลงมาเปลี่ยนกติกาเอง

ผ่านโยบาย 'ป้อม ภาวุธ' เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ กับก้าวแรกใน 'สนามการเมือง' เมื่อผู้รู้เกมแพลตฟอร์ม ตัดสินใจลงมาเปลี่ยนกติกาเอง

ผ่านโยบายสายเทคในนาม 'พรรคประชาชน' 'ป้อม – ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ' เขาอาจไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกเศรษฐกิจดิจิทัล หากแต่เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตของอีคอมเมิร์ซไทยมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น เขาคลุกคลีกับวงการแพลตฟอร์มดิจิทัล การค้าออนไลน์ การชำระเงินออนไลน์ และสตาร์ตอัป เทครุ่นใหม่ เกิดมาก่อนยุคดอทคอม วันนี้เขากำลังเดินออกจากพื้นที่ธุรกิจ สู่เวทีที่ซับซ้อนและท้าทายยิ่งกว่า นั่นคือ สนามการเมือง

KEY

POINTS

  • "ป้อม ภาวุธ" ผู้บุกเบิกวงการอีคอมเมิร์ซไทย ตัดสินใจเข้าสู่สนามการเมืองเพื่อเปลี่ยนกติกาและสร้างความเป็นธรรมในตลาดออนไลน์
  • ชี้ปัญหาผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบทุนต่างชาติ โดยเฉพาะสินค้าจีนที่ทะลักเข้าประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยต้นทุนและภาระภาษีที่ต่ำกว่า
  • เสนอนโยบายหลักเพื่อพลิกแพลตฟอร์มค้าออนไลน์จากช่องทาง "นำเข้า" ให้กลายเป็น "ประตูส่งออก" สินค้าไทยสู่ตลาดอาเซียน
  • แนวทางคือการเจรจาระดับรัฐกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่เพื่อเปิดพื้นที่พิเศษให้สินค้าไทย พร้อมสนับสนุนด้านเทคโนโลยี โลจิสติกส์ และการตลาด

ชื่อของ ป้อม  "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" อาจไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกเศรษฐกิจดิจิทัล หากแต่เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตของอีคอมเมิร์ซไทยมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น เขาคลุกคลีกับวงการแพลตฟอร์มดิจิทัล การค้าออนไลน์ การชำระเงินออนไลน์ และสตาร์ตอัป เทครุ่นใหม่ ฯลฯ

ป้อม ภาวุธ คือ ผู้ก่อตั้ง TARAD.COM เป็นทั้งนักลงทุนและที่ปรึกษาในสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีมากกว่า 50 บริษัท ภายใต้กลุ่ม  EfraStructure เป็นซีอีโอบริษัท Pay Solution และ Creden Data และเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจชั้นนำมากมาย

วันนี้เขาเดินออกจากพื้นที่ธุรกิจ สู่เวทีที่ซับซ้อนและท้าทายยิ่งกว่า นั่นคือ "สนามการเมือง" ในนามพรรคประชาชน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ป้อม ภาวุธ ปรากฏตัวในฐานะ “ผู้เตือนภัย” ของเศรษฐกิจออนไลน์ไทย เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่เสียงจากภาคเอกชนที่พูดอย่างตรงไปตรงมา ถึงการไหลบ่าของ ทุนจีนและทุนต่างชาติ ที่เข้ามาครอบครองพื้นที่อีคอมเมิร์ซไทยอย่างรวดเร็ว จนผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามว่า ตลาดที่เคยเปิดกว้าง กำลังกลายเป็นสนามแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมหรือไม่

จากประสบการณ์ตรงในวงการแพลตฟอร์ม ป้อม เห็นภาพที่ชัดเจนว่า ผู้ค้าไทยจำนวนมากไม่ได้แพ้เพราะขาดความสามารถ แต่แพ้เพราะ โครงสร้างการแข่งขัน ที่เอื้อให้ทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่เข้ามาขายตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยต้นทุนต่ำ ระบบโลจิสติกส์พร้อม และภาระภาษีที่แตกต่างจากผู้ค้าไทยอย่างมีนัยสำคัญ

ในหลายเวทีสาธารณะ ป้อมเคยตั้งคำถามว่า เหตุใดผู้ประกอบการไทยจึงต้องเสียภาษีเต็มรูปแบบ ขณะที่แพลตฟอร์มต่างชาติและ Big Tech กลับสามารถสร้างรายได้จากคนไทยมหาศาล แต่เสียภาษีให้ประเทศในสัดส่วนที่ไม่สะท้อนรายได้จริง แม้รัฐจะเริ่มจัดเก็บ VAT บริการดิจิทัลแล้วก็ตาม แต่ในมุมมองของเขา นี่ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความเป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

ประเด็นเรื่อง ภาษีดิจิทัล จึงไม่ใช่แค่ตัวเลขทางบัญชี แต่เป็นคำถามเชิงโครงสร้างว่า ประเทศไทยกำลังสูญเสียรายได้และอำนาจต่อรองให้กับแพลตฟอร์มข้ามชาติหรือไม่ และรัฐควรมีบทบาทมากเพียงใดในการปกป้องฐานเศรษฐกิจของผู้ประกอบการในประเทศ

แนวคิดของป้อมต่อทุนจีนและทุนต่างชาติ ไม่ได้เป็นการปิดประเทศหรือปฏิเสธการลงทุน หากแต่เป็นการเรียกร้องให้รัฐมี “ยุทธศาสตร์” ที่ชัดเจน

ป้อม ภาวุธ ให้สัมภาษณ์พิเศษ "กรุงเทพธุรกิจ" หลายครั้ง หนึ่งในนั้น เขาเคยเสนอแนวทาง ตั้งรับ–จับมือ–รุกกลับ เพื่อรับมือกับกระแสทุนข้ามชาติ ตั้งแต่การกำกับดูแลแพลตฟอร์ม การสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ไปจนถึงการสร้างขีดความสามารถให้แข่งขันได้ในระยะยาว

การตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการเมืองครั้งแรกของป้อม ภาวุธ จึงเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนจาก “ผู้วิจารณ์นโยบาย” มาเป็น “ผู้ลงมือผลักดันนโยบายด้วยตัวเอง” เขาเลือกเข้าสู่พื้นที่ที่การตัดสินใจเชิงกฎหมายและงบประมาณ สามารถเปลี่ยนชะตาของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยได้จริง แม้จะรู้ดีว่า การเมืองไม่ใช่สนามที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นักธุรกิจเทคที่ก้าวสู่การเมืองต้องเผชิญทั้งแรงต้านจากโครงสร้างอำนาจเดิม ผลประโยชน์ของทุนขนาดใหญ่ และความคาดหวังจากประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในเวลาอันสั้น

ท้ายที่สุด การลงสนามของ “เซียนเทค” เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซอย่าง ป้อม ภาวุธ อาจไม่ได้วัดผลเพียงชัยชนะทางการเมือง แต่คือการตั้งคำถามครั้งสำคัญต่อสังคมไทยว่า ประเทศนี้จะปล่อยให้เศรษฐกิจออนไลน์ถูกกำหนดโดยแพลตฟอร์มต่างชาติ หรือจะลุกขึ้นมาสร้างกติกาที่เป็นธรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยยังมีที่ยืนในโลกดิจิทัล

และนั่นอาจเป็นเรื่องราวที่ยังไม่จบง่ายๆ บนเส้นทางการเมืองของชายผู้เคยอยู่หลังจอ แต่วันนี้เลือกก้าวขึ้นสู่เวทีอำนาจอย่างเต็มตัว

เปิดนโยบายฯ ฉบับเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ 

ป้อม ภาวุธ เผยนโยบายของเขาให้ "กรุงเทพธุรกิจ" ฟังว่า ต้องการพลิกโฉมแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ ดังนี้ : 

พลิกแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ : จากช่องทางนำเข้า สู่ประตูส่งออกสินค้าไทยไปอาเซียน

ปัญหา: ปัจจุบันแพลตฟอร์มต่างชาติ (Lazada, Shopee, TikTok) เป็นช่องทางหลักที่สินค้าจีนทะลักเข้าไทย ทำให้เงินไหลออกและผู้ประกอบการไทยสู้ราคาไม่ได้

เป้าหมาย: พลิกแพลตฟอร์มเหล่านี้ให้เป็น "ประตูส่งออก" เพื่อผลักดันสินค้าไทยคุณภาพดี 1,000 - 10,000 ราย สู่ตลาดอาเซียน (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เวียดนาม)

แนวทางดำเนินการ:

เจรจาระดับรัฐ: กระทรวงพาณิชย์ดึงแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่เปิดพื้นที่พิเศษ (Thailand Pavilion) ให้สินค้าไทย

เชื่อมโยงเทคโนโลยี: ร่วมมือกับ Startup และสมาคม LogisTech พัฒนาระบบจัดการขาย (OMS) ที่รองรับการแปลภาษาและปรับราคาอัตโนมัติ

ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน: จัดตั้งคลังสินค้าในต่างประเทศ (Local Fulfillment) เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว

สนับสนุนการตลาด: รัฐอัดฉีดงบทำโปรโมชั่น คัดเลือกสินค้าเชิงรุก และลดอุปสรรคทางภาษี/พิธีการศุลกากร

ผลที่คาดหวัง: สร้างมูลค่าการส่งออกผ่านระบบดิจิทัลได้หลายพันล้านบาท