เจียไต๋ มือหนึ่งเมล็ดพันธุ์

เจียไต๋ มือหนึ่งเมล็ดพันธุ์

เจียไต๋ บุกเบิกธุรกิจเมล็ดพันธุ์ตั้งแต่ปี 2464 เดินหน้าวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ตอบโจทย์เรื่องการเพิ่มผลผลิต ต้านทานโรค/แมลงและเพิ่มคุณค่า

สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน

เจียไต๋ บุกเบิกธุรกิจเมล็ดพันธุ์มาตั้งแต่ปี 2464 เดินหน้าวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ตอบโจทย์ในเรื่องการเพิ่มผลผลิต ต้านทานโรค/แมลงและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ล่าสุดกับผลงาน "แตงกวาพันธุ์ไฮโซ" มาพร้อมคุณสมบัติทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดีเยี่ยม ให้ผลผลิตสูงกว่าสายพันธุ์ปกติ 22% ผลแตงกวาเรียวสวย ไม่งอและทนต่อโรคไวรัส

“เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาสายพันธุ์พืชให้สอดรับความต้องการของเกษตรกร ผู้ค้าและผู้บริโภค โดยจัดสรรงบวิจัยและปรับปรุงพันธุ์พืชสูงถึง 13% ของยอดขายต่อปี มีนักปรับปรุงพันธุ์พืชมากกว่า 20 คน และยังต้องการเพิ่มบุคลากรกลุ่มนี้อีก" มนัส เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าว

เพิ่มศักยภาพเมล็ดพันธุ์

ก่อนหน้าที่จะมีแตงกวาไฮโซ เจียไต๋สร้างเสียงฮือฮาให้กับแวดวงการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แตงโมรูปหัวใจ-สี่เหลี่ยม มะเขือเทศรูปหัวใจ พริกจานบิน ฟักทองสามขา เพ็กกิ้งเมล่อนยาวกว่าคนและข้าวโพดหลากสีในฝักเดียว ยังไม่นับรวมผักหายากอีกกว่า 520 สายพันธุ์

"ปัจจุบันเมล็ดพันธุ์ของเจียไต๋ 100% เป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ให้มีผลผลิตต่อไร่สูง ต้านทานโรค/แมลงและทนต่ออุณหภูมิ” ผู้บริหารเจียไต๋ กล่าว

เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์ที่เลือกใช้ มีตั้งแต่การคัดเลือกพ่อและแม่พันธุ์ การใช้เครื่องหมายโมเลกุลหรือ DNA marker คัดเลือกสายพันธุ์ที่มีลักษณะตามต้องการอย่างแม่นยำและรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีเชื้อพันธุ์ (Germplasm) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นหนึ่งของเจียไต๋ โดยที่ใช้งบและเทคโนโลยีต่างๆ รวบรวมเชื้อพันธุ์ของแต่ละสายพันธุ์พืชที่มีคุณสมบัติเด่นจากทั่วโลก เตรียมพร้อมเพื่อสร้างเมล็ดพันธุ์ที่มีศักยภาพตอบความต้องการในตลาด

นอกจากนี้ บริษัทยังวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีตอบโจทย์เทรนด์ที่คาดการณ์ว่าจะมาใน 5-10 ปีข้างหน้านั่นคือ การปลูกพืชในโรงเรือน ที่เป็นการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ฝนผิดฤดู หน้าร้อนยาวขึ้น อากาศร้อนขึ้น โรคและแมลงศัตรูพืชมากขึ้น

เจียไต๋กำลังพัฒนาเทคโนโลยีรองรับ นั่นคือ การทำให้พืชติดผลโดยไม่ต้องใช้เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย รวมถึงเทคโนโลยีการเพาะต้นกล้า ที่จำเป็นสำหรับการเพาะปลูกในโรงเรือน

“เราให้ความสำคัญมากกับการลงทุนวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ซื้อและสภาพภูมิอากาศที่ต่างกันของแต่ละประเทศ ทำให้เมล็ดพันธุ์ของเราเป็นที่นิยมของเกษตรกรทั่วเอเชีย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เจียไต๋เน้นการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ด้วยเงินลงทุนที่สูง ให้ความสำคัญในเรื่องของ "นวัตกรรม" การพัฒนาพันธุ์ใหม่ๆ ที่สามารถแก้ปัญหาและขจัดอุปสรรคการปลูกให้เกษตรกร และตอบโจทย์ความต้องการบริโภคของผู้บริโภคได้ดีที่สุด"

ผลลัพธ์ที่ปรากฏคือ ธุรกิจจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืชของเจียไต๋ใหญ่ติดอันดับผู้นำในเอเชีย มีสินค้าส่งไปขายกว่า 35 ประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และจีนตอนใต้

ปรับปรุง เปลี่ยนโลก

“การปรับปรุงเมล็ดพันธุ์พืชให้มีความทนต่อสภาพอากาศและโรคนั้น ตอบเทรนด์เรื่องความปลอดภัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับสุขภาพของเกษตรกร เนื่องจากโรคพืชน้อยลง การใช้ยาเคมี ที่เสี่ยงการปนเปื้อนก็น้อยลง เกษตรกรประหยัดต้นทุนการผลิต และเพิ่มความปลอดภัยให้กับสุขภาพของผู้ปลูกและผู้บริโภค” มนัสกล่าว

นอกจากนี้ เทรนด์ของการปรับปรุงพันธุ์พืชยังเพิ่มความต้องการในด้านอื่น นอกจากผลผลิตต่อไร่ที่เพิ่มขึ้น มีความต้านทานโรค ยังตามมาด้วยหน้าตาและรสชาติ เมื่อได้เมล็ดพันธุ์ที่ตอบโจทย์ดังกล่าวแล้ว ความท้าทายต่อมาคือ คุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งพืชชนิดเดียวกันแต่ต่างสายพันธุ์ก็ให้คุณค่าทางโภชนาการที่ต่างกัน อาทิ มะเขือเทศมีไลโคปีน แต่มะเขือเทศต่างสายพันธุ์ก็มีปริมาณไลโคปีนต่างกัน เจียไต๋ก็พยายามปรับปรุงสายพันธุ์ให้มะเขือเทศมีไลโคปีนมากพอกับที่ร่างกายต้องการ พืชอื่นๆ ก็พัฒนาให้มีปริมารสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยทำมานานกว่า 10 ปี แต่ไม่ได้ชูเป็นจุดขาย

"เกษตรกรต้องการชีวิตที่ดีขึ้น ผมมีโอกาสเห็นเกษตรกรในต่างประเทศมีกินมีใช้ ด้วยศักยภาพด้านเกษตรกรรมในประเทศนั้นๆ จึงต้องการที่จะผลักดันให้เกษตรกรไทยลืมตาอ้าปาก และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงพยายามพัฒนาพันธุ์พืชให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปลูกและตลาด” มนัสย้ำ