โชคชะตาและความสำเร็จ

โชคชะตาและความสำเร็จ

การมีจังหวะชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นต้องอาศัยความมุมานะ ขยัน อดทน รักการเรียนรู้ ช่วยเหลือตนเองโดยไม่รอคอยแต่โชคชะตาฟ้าดินแต่เพียงอย่างเดียว

หากถามเคล็ดลับในการประสบความสำเร็จจากหลายๆ คน คำตอบหนึ่งที่มักได้ยินเสมอคือ “ความโชคดี” ซึ่งอาจฟังดูถ่อมตัวเกินจริง เพราะเราเห็นได้ชัดว่าคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่แล้วล้วนมาจากความมุ่งมั่น ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่บ่มเพาะมานาน ฯลฯ มากกว่าจะเป็นเพียงแค่โชคช่วยเท่านั้น

แต่สำนวนจีนโบราณยังกล่าวเอาไว้ว่า เป้าหมายสู่ความสำเร็จนั้นยังมีเรื่องของการ “อยู่ถูกที่ถูกเวลา” ซึ่งอาจมีความหมายใกล้เคียงกับโชคช่วยอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น คนเก่งที่ความสามารถมากมายหากเกิดและอาศัยอยู่ในประเทศที่มีภัยสงครามยาวนานไม่หยุดหย่อน ก็ยากที่จะมีชีวิตที่มั่นคงได้

แต่ถ้าหากถือกำเนิดในประเทศที่ดีพร้อม แต่เป็นจังหวะเวลาที่ประเทศนั้นต้องพบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ก็อาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางไม่ให้ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน

การเกิดในที่ๆ ดีมีความอุดมสมบูรณ์ และเกิดในจังหวะเวลาที่เหมาะสมจึงเอื้อให้คนแต่ละคนมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ไม่เท่ากัน

ทั้งสองตัวแปรนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์เดินดินอย่างเราไม่สามารถควบคุมให้เกิดขึ้นไปตามที่เราต้องการได้ หากจะว่าโชคช่วยก็อาจเป็นไปได้ แต่ในโลกของความเป็นจริงเราก็จะพบคนจำนวนมากที่เกิดมาถูกที่ถูกเวลาแต่กลับไม่มีความสำเร็จใดๆ เป็นชิ้นเป็นอัน

ตรงกันข้ามกับคนที่เกิดมา “ผิดที่ผิดเวลา” เช่นเกิดในสถานที่ๆ แร้นแค้น หรือเกิดในเวลาที่มีภัยพิบัติครั้งใหญ่ แต่กลับแสวงหาความสำเร็จเป็นของตัวเองได้ ซึ่งสำนวนจีนโบราณก็กล่าวไว้ว่าลิขิตฟ้าจะเปิดโอกาสให้คนที่ช่วยเหลือตัวเองเท่านั้น

การมีจังหวะชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นจึงต้องอาศัยความมุมานะ ขยัน อดทน รักการเรียนรู้ ฯลฯ ซึ่งก็คือการช่วยเหลือตนเองโดยไม่รอคอยแต่โชคชะตาฟ้าดินแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

การพร่ำบ่นว่าทำไมจึงไม่มีโอกาสดีเท่ากับผู้อื่น หรือทำไมความโชคดีถึงไม่เกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง ก็คงต้องพิจารณาก่อนด้วยว่าเรามีความเพียรพยายามสร้างความสำเร็จด้วยตัวเองขึ้นมาหรือยัง

การเฝ้ามองความสำเร็จของชีวิตคนอาจสั้นเกินกว่าจะวิเคราะห์ได้อย่างลึกซึ้ง เพราะช่วงชีวิตของคนเรานั้นแสนสั้น แต่หากมองในองค์กร ในธุรกิจ ในหน่วยงานที่มีความเป็นมายาวนานนับสิบนับร้อยปีเราจะเห็นความเด่นชัดมากขึ้น

เพราะบริษัทที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนมีอายุหลาบสิบปีหรือเกินหนึ่งร้อยปีนั้นล้วนต้องผ่านช่วงเวลาที่ “ผิดที่ผิดเวลา” อยู่ไม่น้อยเพราะไม่มีใครที่จะโชคดีได้ตลอดเวลา บางครั้งจึงต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และรอคอยให้ทุกอย่างคลี่คลายแล้วเติบโตต่อไป

องค์กรธุรกิจชั้นนำของโลกจึงปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น GE ที่เริ่มจากธุรกิจด้านหลอดไฟฟ้า ปรับตัวจนกลายเป็นสถาบันอุตสาหกรรมครบวงจร 

เช่น อุตสาหกรรมสถาบันการเงิน อุตสาหกรรมเอ็นจิเนียริ่ง อุตสาหกรรมเครื่องยนต์การบิน อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ อุตสาหกรรมด้านพลังงาน เป็นต้น ในทุกวันนี้ หรือในบ้านเราเองก็จะเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เริ่มต้นจากธุรกิจด้านการเกษตร แต่ทุกวันนี้ขยายตัวไปยังธุรกิจโทรคมนาคม การขนส่งและค้าปลีกได้สำเร็จ

ถ้าเราเห็นคุณค่าของการที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา และไขว่คว้าพยายามหาโอกาสให้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกล