กำชับจัด"สงกรานต์2565" เข้มมาตรการป้องกันควบคุมโรค

กำชับจัด"สงกรานต์2565" เข้มมาตรการป้องกันควบคุมโรค

ย้ำสงกรานต์2565จัดได้ตามประเพณี เหตุประชาชนได้รับวัคซีนครอบคลุมมากขึ้น เชื้อไวรัสลดระดับความรุนแรง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กำชับเน้นมาตรการป้องกันควบคุมโรค

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการแถลงสถานการณ์โควิด19 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า 3 สัปดาห์จากนี้จะเข้าสู่ช่วงสงกรานต์ และด้วยสถานการณ์โควิดขณะนี้ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 2 หมื่นรายต่อวัน หลายคนจึงวิตกกังวล ซึ่งผลสำรวจ Anamai Event Poll ระหว่างวันที่13-24 มี.ค.65 ในประเด็นความกังวลต่อสถานการณ์พบ77% กังวล เหตุผลที่กังวลมากสุดคือ อาจติดเชื้อจากการรวมกลุ่มในสถานที่ต่างๆ ตามด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศยังสูงอยู่ และอาจติดเชื้อจาการรวมกลุ่มสังสรรค์ในครอบครัว/บ้าน ส่วน 23% ไม่กังวล เพราะมั่นใจป้องกันตนเองได้ดี ไม่ได้ไปสถานที่เสี่ยง และอยากใช้ชีวิตตามปกติ เมื่อถามถึงสถานที่ที่ประชาชนกังวลจะมีความเสี่ยงสูงที่สุดคือ ร้านอาหาร 61% ตามด้วยสถานที่ท่องเที่ยว 55% ห้างสรรพสินค้า 54% สถานที่จัดกิจกรรมอีเว้นต์งานสงกรานต์ 53% ขนส่งสาธารณะ 53% ห้องน้ำสาธารณะ 52% ส่วนแผนกิจกรรมที่จะทำช่วงสงกรานต์ ส่วนใหญ่ 50 % อยู่บ้าน 34% ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระที่วัด 31 % รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และ 22% สังสรรค์กินข้าวกับครอบครัว/เพื่อน 

นพ.สุวรรณชัย กล่าวด้วยว่า หากพิจารณาสถานการณ์โควิดขณะนี้คาดว่ายังคงมีการระบาดต่อเนื่อง และจะอยู่ในระดับสูงคงตัวช่วงเทศกาล เนื่องจากมีการเคลื่อนผู้คนจำนวนมาก มีกิจกรรมทั้งในครอบครัวและนอกบ้าน และมีกิจกรรมเสี่ยง จะพบผู้ติดเชื้อทั้งรายบุคคลและเป็นกลุ่มก้อนจากผลพวงสงกรานต์ หากดำเนินมาตรการได้ดีทั้งโควิดฟรีเซ็ตติ้ง และมาตรการป้องกันตนเองสูงสุด ไม่ย่อหย่อนในมาตรการ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ตามฉากทัศน์ที่คาดการณ์จะอยู่ระหว่างเส้นสีเขียวถึงเส้นสีเหลืองระหว่างกว่า20,000-50,000รายต่อวัน แต่หากไม่ดำเนินมาตรการต่างๆ ผ่อนคลายการป้องกันโรค ก็จะพุ่งเป็นเส้นแดงถึงแสนได้ แต่เชื่อมั่นในมาตรการต่างๆ ที่เราดำเนินการอย่างเคร่งครัดจะสามารถรับมือได้ อย่างไรก็ตามยังเน้นย้ำการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด หลีกเลี่ยงไปสถานที่เสี่ยงหรือทำกิจกรรมเสี่ยง และตรวจ ATK เมื่อสงสัย โดยเฉพาะกลุ่มที่น่าเป็นห่วงสุดคือผู้สูงอายุที่มีลูกหลานกลับมาเยี่ยม และกลุ่มที่มีโรคเรื้อรัง ขอให้รับวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ 

นายสมชาย ตู้แก้ว ผู้อำนวยการกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจัยที่เอื้อต่อการจัดงานสงกรานต์ในปีนี้เนื่องจากประชาชนได้รับวัคซีนครอบคลุมมากขึ้น เชื้อไวรัสลดระดับความรุนแรง มีการผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเตรียมพร้อมปรับวิถีชีวิตเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น กิจกรรมรวมกลุ่มที่จัดได้ในครอบครัว คือ สรงน้ำพระ รดน้ำขอพร รับประทานอาหารร่วมกันแต่ให้จัดในพื้นที่โล่งระบายอากาศที่ดี ผู้ร่วมกิจกรรมสวมหน้ากาก งดกิจกรรมสัมผัสใกล้ชิด งดใช้สิ่งของร่วม ใช้เวลาจัดกิกรรมให้น้อยสุด ส่วนกิจกรรมที่สามารถจัดได้ภายในชุมชนต้องแจ้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต.) หรือศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) รับทราบเพื่อกำกับติดตามอย่างเหมาะสม กิจกรรมที่ทำได้เช่น สรงน้ำพระ โดยขอให้นำอุปกรณ์ส่วนตัวไปเองงดนำน้ำที่สรงแล้วไปใช้ต่อ ทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัว สำหรับกิจกรรมรวมกลุ่มขนาดใหญ่จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเช่น ประเพณีหรือการละเล่นท้องถิ่น ขบวนแห่ เล่นน้ำ การแสดงดนตรีและการแสดงทางวัฒนธรรม ทั้งนี้กิจกรรมที่ห้ามทำคือ ปาร์ตี้โฟม ประแป้ง ดื่มหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การร่วมกิจกรรมต่างๆให้ยึดหลักโควิดฟรีเซ็ตติ้งและมาตรการ DMHTA อย่างเคร่งครัด หลังกลับจากเทศกาลให้สังเกตอาการตนเอง 7-10 วัน ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTA หากพบมีอาการมีความเสี่ยงให้ตรวน ATK ผลเป็นลบให้ตรวจซ้ำเมื่อครบ 7 วันหรือมีอาการ เลี่ยงพบปะผู้คนโดยไม่จำเป็น และทำงานที่บ้าน

นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมที่ถนนข้าวสาร ถนนข้าวเหนียว จัดได้หรือไม่ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกทม.กระทรวงวัฒธรรมไม่ได้เป็นผู้อนุมัติ เพียงกำกับรณรงค์การจัดกิจกรรมภายใต้วิถีประเพณีวัฒนธรรมไทย