ซิโนแวค 2 เข็ม บูสด้วยไฟเซอร์ยับยั้งโอมิครอน สูงกว่าบูสด้วยแอสตร้าฯ3 เท่า

ซิโนแวค 2 เข็ม บูสด้วยไฟเซอร์ยับยั้งโอมิครอน สูงกว่าบูสด้วยแอสตร้าฯ3 เท่า

"ดร.อนันต์"นักไวรัสวิทยา เปิดผลทดสอบการยับยั้งโอมิครอน เบื้องต้นฉีดวัคซีนซิโนแวค 2เข็ม บูสเตอร์โดสด้วยไฟเซอร์ ยับยั้งสูงกว่าบูสเตอร์ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ถึง 3 เท่า เตรียมศึกษาต่อหลังปีใหม่

วันนี้ (31 ธ.ค.2564) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค Anan Jongkaewwattana ว่า ผลการทดสอบการยับยั้งไวรัสตัวแทนสายพันธุ์โอมิครอน โดย ทีมวิจัยไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยี ของ ไบโอเทค สวทช ได้พัฒนาระบบไวรัสตัวแทนที่มีการแสดงออกของโปรตีนหนามสไปค์ของ SARS-CoV-2 สายพันธุ์โอมิครอน และ ใช้ระบบไวรัสดังกล่าวทดสอบกับตัวอย่างซีรั่มที่ได้รับจากอาสาสมัครที่ฉีดวัคซีนในรูปแบบต่างๆในประเทศไทย ดังนี้

S-S : ได้รับ CoronVac ของ Sinovac 2 เข็ม และ เก็บซีรั่มที่ 1 เดือน หลังเข็มสอง

S-A: ได้รับ CornaVac และตามด้วย AstraZeneca และ เก็บซีรั่มที่ 2 สัปดาห์หลังเข็มสอง

 

S-S-A: ได้รับ AstraZeneca เป็นเข็มที่ 3 กระตุ้นหลังจากได้ CoronaVac 2 เข็ม เก็บซีรั่มหลังเข็มสาม 2 สัปดาห์

S-S-P: ได้รับ Pfizer เป็นเข็มที่ 3 กระตุ้นหลังจากได้ CoronaVac 2 เข็ม เก็บซีรั่มหลังเข็มสาม 2 สัปดาห์

 

 

  • ซิโนแวค 2 เข็ม+ไฟเซอร์ VS ซิโนแวค2เข็ม+แอสตร้าฯ

ผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่า สูตรวัคซีน 2 เข็มให้ค่า Neutralization antibody ที่ยับยั้งไวรัสตัวแทนโอมิครอนได้ต่ำกว่าค่า Limit of Detection (LOD) คือ 40 เป็นส่วนใหญ่ โดย ทั้งสองสูตรไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ

สูตร S-S-A ให้ค่า Neutralizing antibody เฉลี่ยสูงกว่าค่า LOD แต่เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างที่นำมาศึกษามีความหลากหลายของภูมิคุ้มกันค่อนข้างสูง ทำให้ค่าความต่างทางสถิติยังไม่มีนัยสำคัญ มีตัวอย่างบางคนใน S-S-A ที่ได้ค่าที่สูงมากเช่นกัน

ซิโนแวค 2 เข็ม บูสด้วยไฟเซอร์ยับยั้งโอมิครอน สูงกว่าบูสด้วยแอสตร้าฯ3 เท่า

สูตร S-S-P ให้ค่า Neutralizing antibody ต่อ โอมิครอนสูงสุดในการทดสอบครั้งนี้ โดยมีค่าสูงกว่า LOD อย่างชัดเจน และ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับทุกสูตร โดย S-S-P สูงกว่า S-S-A ประมาณ 3 เท่า

 

  • ต้องมีการศึกษาต่อเนื่องหลังปีใหม่

เนื่องจากระดับแอนติบอดีที่วัดคือ 2-4 สัปดาห์หลังกระตุ้น ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่า ความสามารถในการยับยั้งไวรัสจะลดลงหรือไม่ ซึ่งต้องทดสอบต่อไปในอนาคตเมื่อมีตัวอย่างเพิ่มขึ้นครับ

ปล: หลังปีใหม่ทีม AVCT มีซีรั่มรอให้ทดสอบอีกเป็นพันครับ คงได้ข้อมูลมากขึ้นอีกในไม่ช้า