ลูกแก้ว-ศรีกานต์' สาวน้อยเดินทางฝัน

สะดุดตาสะดุดใจกับรูปหน้าสวยหวาน พร้อมรอยยิ้มสดใสประหนึ่งโลกกำลังยิ้มไปด้วยกัน พ่วงด้วยดีกรีบัณฑิตจากรั้วจุฬาฯ เอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาของเธอ

ชื่อของเน็ตไอดอล ‘ลูกแก้ว-ศรีกานต์ นาคะวิสุทธิ์’ โดดเด่นขึ้นมาตามสื่อด้วยผลงานนางเอกเอ็มวี ‘พูดไม่ค่อยถูก’ ของวง AB Normal ฮอตจนกลายเป็นผู้ประกาศข่าว ถ่ายโฆษณามาแล้ว 16 ชิ้นงานและพิธีกรรายการโทรทัศน์มากมาย ฯลฯ หนึ่งในนั่นคือรายการอาริกาโตะ Go I must ทางทีวีดิจิทัลช่อง NOW26 และกำลังเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปวง Sound Cream ค่าย GMM Grammy

แต่กว่าจะถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยทักษะความสามารถรอบด้านที่อยู่ในตัว ทั้งภาษา ปฏิภาณไหวพริบ ความอดทนในการทำงาน บ่งบอกว่า เธอเกิดมาเพื่ออยู่ในวงการบันเทิงอย่างแท้จริง เคล็ดลับความสำเร็จคือ รักในงานที่ทำ สะท้อนชัดเจนจากผลงานที่ผ่านมา

๐ เข้าวงการบันเทิงได้อย่างไร?
เริ่มจากสมัยที่เข้ามหาวิทยาลัยมีพวกพี่ๆ ตากล้องที่รู้จักชวนไปถ่ายรูป พอเรามีรูปสวยๆ อัพบ้าง ก็มีคนมาติดตามในเฟซบุ๊กมากขึ้นเรื่อยๆ (หัวเราะ) บางทีก็จะมีงานถ่ายติดต่อเข้ามาบ้างประปราย ซึ่งพอแก้วเรียนจบปี 4 ก็มีพี่ที่รู้จักอีกเหมือนกันที่ส่งไปเล่นเป็นนางเอก MV หลังจากนั้นก็มีแฟนคลับเข้ามาติดตามเรามากขึ้นและได้เล่นโฆษณา ได้รับงานหลากหลายมากขึ้น

๐ แต่คุณเรียนมาทางการทูต?
เรื่องทำงานในวงการบันเทิงนี้เคยเป็นประเด็นขัดแย้งกับคุณพ่อ ท่านอยากให้ลูกสาวรับราชการ แต่เรารู้ตัวว่าชอบงานสายบันเทิงมากกว่า งานราชการไม่ใช่สไตล์ตัวเอง ที่สำคัญรู้ว่าทำงานตรงนี้แล้วมีความสุข เพราะได้ทำในสิ่งที่รัก และทำได้ดีต่อให้วันหนึ่งไม่ได้เป็นนักร้องแล้วก็ตาม แต่ที่เลือกเรียนรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะอยากเป็นผู้ประกาศข่าวภาษาอังกฤษ จึงเลือกการเรียนเพื่อช่วยเสริมมุมมอง ความรู้ในการทำงานได้มากขึ้น
นอกจากการเป็นผู้ประกาศข่าวแล้วก็อยากจะท่องเที่ยวให้ทั่วทั้งโลก โดยเริ่มที่ประเทศไทยก่อนเพราะมีสถานที่ที่สวยงามอีกมากมายที่ชาวต่างชาติมาเที่ยวกันเยอะ ก็เลยอยากจะเที่ยวให้ทั่วประเทศไทยก่อนเป็นอันดับแรก

๐ เสน่ห์ของแวดวงบันเทิงอยู่ตรงไหน?
เวลาทำแล้วมีความสุข สนุกกับงานเป็นเวลาที่มีความสุขมาก บางครั้งเจอเรื่องเครียด ได้ทำงานก็ทำให้ลืมทุกอย่าง

๐ มองวงการบันเทิงไทยว่าเป็นอย่างไร?
เป็นวงการมีอิทธิพล โดยเฉพาะเยาวชนมองว่าศิลปินดาราที่เขาชอบนั้นเป็นไอดอล โดยทั่วๆ ไปให้ความสำคัญเรื่องหน้าตาภายนอกมาก แตกต่างจากต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับทักษะความสามารถมากกว่าความสวยความหล่อ อนาคตคงมีพัฒนาการความหลากหลายมากขึ้น

๐ จุดหมายในเส้นทางนี้ตั้งไว้อย่างไร?
เป้าหมายในชีวิตจะเป็นเรื่องของความรักและครอบครัว ที่มีความสุขและอบอุ่น มากกว่าที่ตั้งเป้าว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ เป้าหมายการทำงานคือทำเท่าที่เป็นไปได้และเมื่อได้โอกาสแล้วก็จะทำให้ถึงที่สุด เวลาทำอะไรก็จะทำจริงจัง สิ่งที่ได้มาคือกำไรชีวิต แค่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่าไปคาดหวังอะไรมากมาย

๐การพัฒนาทักษะความสามารถอย่างไร?
ด้านงานเพลงไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อน แม้ว่าจะชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเรียน แต่นี่ก็เพิ่งเรียนมาได้ 1 ปี เวลาที่เรียนก็เน้นสอนการออกเสียง เทคนิคต่างๆ ให้เราจะต้องกลับมาฝึกเอง ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพื่อฝึก ฟังเพลง ต้องคิดว่าเราจะนำเสนอตัวเองแนวไหน ต้องหาคาแรคเตอร์ของตัวเอง
สิ่งเหล่านี้อาจฟังดูไม่อยากแต่ใช้ความคิดมาก ถ้าเป็นเรื่องของพิธีกร รายการทีวีจะมีสคริปท์ให้เราต้องอ่านและเข้าใจสคริปท์ล่วงหน้าว่า เขาต้องการคาแรคเตอร์แบบไหน ฝึกพูดอย่างไรให้ออกเสียงภาษาไทยฉะฉาน ชัดเจน สิ่งเหล่านี้มาจากประสบการณ์ที่สะสมมาจากการทำรายการต่างๆ
โชคดีเป็นคนที่ไม่ปิดโอกาสตนเองและเรื่องเงินไม่ใช่ประเด็นแรกในการตัดสินใจทำงาน ถ้างานมีคุณค่า สร้างประสบการณ์ให้กับเราเยอะก็จะรับทำแม้จะเป็นงานเล็กน้อยๆ เพราะอาจจะกลายเป็น สิ่งที่นำงานใหญ่มาให้ในอนาคต ดังนั้น ที่ผ่านมาจึงรับงานเยอะมากจนได้งานเป็นพิธีกรเยอะมาก ส่วนของธุรกิจอยู่ระหว่างการวางแผนให้เป็นระบบ

๐ วันนี้พัฒนาความสามารถได้ในระดับไหน?
ถ้าเต็มคะแนนเต็ม10 คิดว่าน่าจะได้ 6 คะแนน ถามว่าพอใจกับสิ่งที่ตนเองเป็นตอนนี้ไหมต้องตอบว่า พอใจมาก เมื่อเทียบช่วง2-3ปีที่ผ่านมาจนมาถึงจุดนี้ในวงการบันเทิง จากเด็กที่ไม่ได้มีพื้นฐานอะไรเป็นพิเศษทางด้านนี้มาก่อน แต่เราค่อยพัฒนา ฝึกฝนจนมาถึงจุดนี้ได้รู้สึกภูมิใจว่าตนเองทำได้ดีมากๆ แต่ถามว่าดีที่สุดแล้วไหม ตอบได้เลยว่ายัง เพราะยังมีสิ่งต้องพัฒนาต่อไปอีกเยอะในหลายด้านที่ต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

๐ คิดว่าตัวเองมีจุดเด่นอะไร?
น่าจะเป็นเรื่องของการมองโลกในแง่ดี คิดบวก มองว่าตนเองเป็นคนที่โชคดีตลอดเวลา ยกเว้นช่วงที่เครียดเราต้องเรียนรู้ที่จัดการกับความเครียดด้วยการระบายให้คนรอบข้างฟัง แต่ชีวิตส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก

๐ ภาพลักษณ์ที่ต้องการสื่อออกมาเป็นแบบไหน?
อยากเป็นคนที่ทั้งเก่งและสวย เพราะการที่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องสวยแบบมีคุณค่า สามารถช่วยเหลือคนอื่นถ้ามีโอกาสในรูปแบบต่างๆตามความเหมาะสม เป็นคนดีสไตล์ตนเองไม่ตามใคร ที่ผ่านมาพยายามฝึกฝนตนเองในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การทำอาหาร เล่นกีฬา ดนตรี ฯลฯ เพราะอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ไม่ใช่สวยใสไร้สติ เพราะจะทำให้แฟนคลับผิดหวัง

๐ ถ้าอยากจะแจ้งเกิดในวงการบันเทิงต้องทำอย่างไร?
ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงเพราะสมัยนี้คู่แข่งมาก เด็กๆ หน้าใสๆ เข้าสู่วงการฯกันทุกวัน จำเป็นต้องหาคาแรคเตอร์ของตัวเองให้เจออาจฟังดูง่ายแต่เป็นสิ่งที่ยากมากๆ ต้องค้นหาว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่โดดเด่นในตัวเราที่ทำให้ผู้ใหญ่เขาจดจำและแฟนคลับชื่นชอบ
อย่างลูกแก้ว คงเป็นสไตล์ญี่ปุ่นดูใสๆ น่ารัก ที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง มีบุคคลิกสนุกสนานมองโลกในแง่ดี ซึ่งทุกวันนี้อายุ 25 ปีแต่ทำงานกับเด็กอายุ 18 -19 ปี ที่มีความน่ารักสดใส บางครั้งมีนอยด์ เหมือนกัน (หัวเราะ) แต่เราต้องเป็นตัวของเราเองเป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องออกกำลังกายดูแลสุขภาพแต่ไม่ถึงขั้นหักโหม

๐ ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างไร?
ในช่วงที่ไม่มีงานตอนเช้า จะไปฟิตเนส 1-2 ชั่วโมง เข้าห้องสตรีม ไปเตะบอลทุกวันอังคารกับวันอาทิตย์ และทุกวันอาทิตย์จะไปตีแบต สัปดาห์หนึ่งเล่นกีฬาอย่างน้อย 3-4 ครั้ง บางครั้งที่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกายจะเปิดเพลงเต้นไปราวกับเล่นคอนเสิร์ต
ในเรื่องการกินก็เน้นข้าวกล้อง ไม่กินของทอด ทานอาหารเสริม พอกหน้า กินผลไม้ ดื่มน้ำมะพร้าว เป็นคนที่รักสุขภาพมาก ไม่ดื่มน้ำอัดลม พยายามกินอาหารคลีนทุกมื้อทำทุกอย่างเพื่อสุขภาพ เป็นคนให้ความสำคัญกับการดูแลร่างกายทั้งทรีตเมนต์หน้าใส มาสค์หน้า

๐ ได้หลักคิดจากการเรียนรัฐศาสตร์อะไรมาบ้าง?
คงเป็นเรื่องของมุมมอง ความคิดที่ไม่เหมือนคนอื่นสามารถคิดวิเคราะห์อะไรได้กว้างเพราะเรียนมากหลากหลาย ทั้งเศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ จิตวิทยา ซึ่งเป็นพื้นฐานของความคิดที่ดี รวมถึงความเป็นเฟมินิสต์ที่สนับสนุนสิทธิและความเสมอภาคของสตรี

๐ ผลงานล่าสุดมีอะไรบ้าง?
ปัจจุบันทำงานพิธีกร 4-5 รายการ เช่น มีรายการสอนภาษาอังกฤษจากเพลงฮิตอินเตอร์ สอนภาษาอังกฤษจากเพลงการ์ตูน นอกจากนั้นมีถ่ายโฆษณา รับเป็นพิธีกร สองทำธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอนตี้เอจจิ้งผ่านทางออนไลน์ แล้วก็ศิลปินฝึกหัดเกิร์ลกรุ๊ป GMM Grammy ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้

ล่าสุดได้มาร่วมงานกับรายการอาริกาโตะ Go I must ทางช่อง NOW26 เป็นรายการท่องเที่ยวกึ่งเรียลิตี้ ที่ระบุค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าตั๋วเดินทาง ค่ากิน ค่าที่พัก จะคำนวณมาให้โดยจะมีพิธีกร 4 คนทำหน้าที่สลับกันไป ออนแอร์ทุกวันเสาร์ เวลา 11.00-12.00 น.