คณะแพทย์มช.เผยสาวอ้วน300กก.ลดเหลือ140กก.แล้ว

คณะแพทย์มช.เผยสาวอ้วน300กก.ลดเหลือ140กก.แล้ว

คณะแพทย์ มช. เผย "นกแก้ว" สาวอ้วนหนัก 300 กก. หลังเข้าการรักษา-ผ่ากระเพาะ ลดเหลือ 140 กก. ตั้งเป้าลดลงให้เหลือ 60-70 กก.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณี น.ส.นกแก้ว แสนสมปาน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/3 ถนนสุริยวงค์ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีสภาพร่างกายอ้วนผิดปกติ มีน้ำหนักตัวสูงถึง 300 กิโลกรัม ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่โดยคณะแพทย์ของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ด้วยการคุมอาหาร กายภาพบำบัด และออกกำลังกายต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับการผ่าตัดกระเพาะ เพื่อลดความอ้วน กระทั่งปัจจุบัน น้ำหนักลดเหลือ 140 กิโลกรัมสามารถออกกำลังกายเบาๆ และกระโดดได้แล้ว

รศ.ดร.พญ.สิริกาญจน์ ลิมปกาญจน์ หัวหน้าหน่วยศัลยศาสตร์ทางเดินอาหารและส่องกล้องคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการรักษา น.ส.นกแก้ว อย่างต่อเนื่อง ด้วยการคุมอาหาร กายภาพบำบัด และออกกำลังกายต่อเนื่อง ขณะที่เมื่อน้ำหนักตัวเหลือ 157 กิโลกรัม แม้ว่าแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน แต่ยังคงต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกายและนัดพบแพทย์ต่อเนื่องเพื่อรับการรักษา

ทั้งนี้ เดิมจากน้ำหนัก 300 กิโลกรัม สามารถลดลงมากว่าครึ่งได้จากการควบคุมอาหาร ขณะที่เมื่อน้ำหนักมาอยู่ที่ 157 กิโลกรัม พบว่าการลดน้ำหนักลงอีกเป็นไปได้ยาก จึงวางแผนที่จะใช้การผ่าตัดกระเพาะช่วยในการลดความอ้วน ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้มีการผ่าตัดในระบบสืบพันธุ์ เนื่องจากพบก้อนเนื้อในรังไข่ทำให้น้ำหนักลดลงมาประมาณ 150 กิโลกรัม และมีการประเมินสภาพร่างกายหลายด้านก่อนจะมีการผ่าตัดกระเพาะ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

"หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้นได้ผลเป็นที่น่าพอใจโดยผู้ป่วยขณะนี้ได้พักฟื้นจากการผ่าตัดและทำกายภาพยู่ที่แผนกศัลยกรรมหญิง โดยปัจจุบัน น.ส.นกแก้วสามารถลุกขึ้นเดินออกกำลังกายเบาๆ และกระโดด ได้แล้ว โดยทีมแพทย์ได้ตั้งเป้าลดน้ำหนัก น.ส.นกแก้วให้เหลือ 60-70 กิโลกรัม”รศ.ดร.พญ.สิริกาญจน์ กล่าว

รศ.ดร.พญ.สิริกาญจน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การผ่าตัดกระเพาะดังกล่าว เป็นการทำให้เกิดความพิการทางเดินอาหารอย่างหนึ่ง ทำให้กระเพาะอาหารหายไปส่วนใหญ่ ร้อยละ 70-80 ซึ่งความพิการที่เกิดขึ้นจะทำให้ผู้ป่วย มีความสามารถในการรับประทานอาหารลดลง และมีความอยากอาหารลดลง จึงคิดว่าเป็นวิธีหนึ่ง ที่จะช่วยรักษาโรคอ้วน ที่ทำให้เกิดโรคอื่นตามมา อาทิ โรคเบาหวานความดัน และโรคที่ควบคุมไม่ได้ด้วยยา

ผศ.นพ.นิสิต วรรธนัจฉริยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวว่า การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารของผู้ป่วยลง เมื่อขนาดกระเพาะเล็กลงแล้วก็จะทำให้ผู้ป่วย สามารถรับประทานอาหารได้น้อยลงซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยอิ่มเร็วขึ้นก็จะทำให้ปริมาณสารอาหารที่ได้รับลดลงแล้วก็จะทำให้น้ำหนักสามารถลดลงได้ทั้งนี้ผู้ป่วยเองก็จะต้องมีการควบคุมปริมาณอาหารและชนิดอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างเช่นอาหารประเภทแป้งไขมันและน้ำตาล ซึ่งต่อจากนี้ไปก็ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นระยะในการติดตามผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด ในส่วนของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่มีกรณีการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ เพื่อรักษาโรคอ้วนในเด็กแล้วกว่า 10 รายด้วยกัน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเด็กที่ป่วยโรคอ้วนเกินขนาดจนต้องใช้วิธีนี้ช่วย

ก่อนหน้านี้ น.ส.นกแก้วมีกำหนดผ่าตัดวันที่ 13 ม.ค.2558 แต่เนื่องจากพบซีสในรังไข่ เป็นถุงน้ำขนาดใหญ่ และเริ่มมีการเน่า จึงต้องผ่าตัดออก และในวันดังกล่าวก็ไม่สามารถผ่าตัดลดขนาดกระเพาะได้พร้อมกัน เพราะต้องรอให้ร่างกายของน้องนกแก้วฟื้นตัวเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อน เนื่องจากคนที่มีน้ำหนักมาก จะมีหลายโรคแทรกซ้อนได้ ทั้งความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ ดังนั้นทางทีมแพทย์จึงเลื่อนกำหนดวันผ่าตัดออกมา เป็นวันที่ 19 พฤษภาคม ดังกล่าว

ขณะที่ น.ส. นกแก้ว กล่าวว่า ขอขอบคุณทีมแพทย์พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำให้ตนเองได้รับการรักษาในครั้งนี้ รวมทั้งมีความพยายามในการรักษาตนตลอดเวลาที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาตนต้องเตรียมความพร้อม และกำลังใจอย่างมาก ในการลดน้ำหนักจาก 300 กิโลกรัมลงมาจนมาถึง 140 กิโลกรัม เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อม ทั้งความแข็งแรง และพยายามที่จะลดให้ได้มากกว่านี้

“ปัจจุบันรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น รู้สึกดี และมีความสุขมากขึ้น แม้จะต้องลดอาหารจากเดิมมาก โดยเฉพาะอาหารโปรดประเภทของหวานและน้ำหวาน แต่ก็สามารถปรับตัวได้แล้ว และพร้อมจะลดน้ำหนักเพื่อให้สามารถไปใช้ชีวิตได้ตามปกติในสังคม ต่อไป” น.ส.นกแก้ว กล่าว