Sex นี้ พี่สอนน้อง

เพศสัมพันธ์ใกล้ตัวลูกของเรากว่าที่คิด หลากวิธีสอนให้ปลอดภัย หลบหลีกและปฏิเสธอย่างถูกต้อง เรื่องแบบนี้ไม่มีใครบอกต่อกันได้ดีกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง

ปัจจุบันปัญหาวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์กันเร็วขึ้นกลายเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจและมีความกังวลใจ จากการสำรวจล่าสุดพบว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่เริ่มมีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 15 ปี แต่อายุสำรวจน้อยที่สุดคือ 12 ปี และมีแนวโน้มว่าจะมีเพศสัมพันธ์อายุน้อยลงเรื่อยๆ ในขณะที่มีการใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 55.1 เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ซึ่งสถิติจากกระทรวงสาธารณสุขยังพบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 20 คลอดบุตรเฉลี่ยวันละ 370 คน และยังเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ตามมาด้วย

พี่สอนน้อง

จากข้อมูลน่าตกใจดังกล่าว องค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จึงจับมือกับน้องๆนักศึกษาคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เชิงลึกแก่นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นอันดับต้นๆของกลุ่มเสี่ยง โดยถ่ายทอดความรู้ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกัน และปลูกฝังจิตสำนึกในการยับยั้งชั่งใจ

“นับเป็นเรื่องดีที่ได้มีกิจกรรมที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มวัยรุ่นเอง ที่ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และรณรงค์ต่อยอดให้กับรุ่นน้อง ถือเป็นการติดอาวุธป้องกันตัวเองในเรื่องนี้ได้ ยิ่งเป็นกิจกรรมสันทนาการเพื่อให้เด็กๆสนุกสนานด้วยแล้ว การสอดแทรกสาระประโยชน์ก็จะเห็นผลได้ง่ายขึ้น” มหา คิวบาร์รูเบีย ผู้อำนวยการองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว

สำหรับกิจกรรมเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ที่น้องๆจะได้เรียนรู้ โดยไม่เน้นทฤษฎีนั้น พี่ๆจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บอกว่า ไม่ต้องกางตำรา เพราะพวกเขาได้กลั่นกรองเนื้อหาสาระและย่อยคุณค่าการเรียนรู้ผ่านเกมการเล่นที่แฝงแง่คิดแล้ว
ฐานกิจกรรมต่างๆ จะสอดแทรกสาระความรู้เข้าไประหว่างการเล่นในแต่ละฐาน ประกอบด้วย ถ้าคุณท้องตอนวัยรุ่น คุณจะทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ เพื่อหวังเรียกสติและเตือนน้องแบบเบาๆ ก่อน เช่น ถ้าเป็นคนที่ชอบกีฬาและกิจกรรมผจญภัย น้องจะไม่สามารถขี่ม้า วิ่งมาราธอน ลงเรือสปีดโบ๊ท ขึ้นรถไฟเหาะ เต้น Cover และตามดารา เป็นต้น

จากนั้นก็ส่งต่อให้ฐานต่อไป โรคติดต่อกับวัยรุ่น เพื่อสะท้อนอันตรายและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหากมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร โดยใช้สื่อน้ำสีต่างๆในแก้วเพื่อส่งสารให้น้องรู้ว่า หากเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ สีของน้ำก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โรคก็จะแพร่จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งเรื่อยไปไม่รู้จบ

แล้วก็มาถึงฐานยาคุมกำเนิด เรียกว่าป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ อีกทั้งจากการสอบถามเด็กสาว พวกเขายังใช้ไม่เป็น กินแบบผิดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันตรายจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งมีปริมาณฮอร์โมนสูงกว่ายาคุมทั่วไป ห้ามกินแทนยาคุมกำเนิด เพราะผลข้างเคียงสูง

น้องผู้หญิงหลายคนยังไม่รู้ว่า ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบ่งออกเป็น 2ประเภทคือ แบบแผงละ 21 เม็ด ซึ่งต้องเว้นไป 7 วัน แล้วค่อยเริ่มแผงใหม่ กับประเภท 28 เม็ดที่กินต่อเนื่อง ไม่มีเว้นวัน และการเริ่มกิน ให้เริ่มกินยาเม็ดแรกในวันแรกของประจำเดือน หรือไม่เกิน 5 วันของการมีรอบเดือนนั้นๆ

“ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้น ผู้ใหญ่เองก็ยังไม่เข้าใจ อย่างกรณีลืมกินยาคุมกำเนิดไปหนึ่งวันจะทำอย่างไร ทางแก้คือ กินทันทีที่นึกได้ หรือกินพร้อมกันเลย 2 เม็ดก็ได้ แต่ถ้าลืมกิน 2 วัน วันที่ 3 ให้กินยาเช้า 2 เม็ด เย็น 2 เม็ดควบคู่กับการสวมถุงยางอนามัยไปด้วย แต่ถ้าเลยเถิดลืมเป็นวันที่ 3 ก็ให้หยุดยาแผงนั้นทันที แล้วรอกินแผงใหม่ โดยใช้วิธีอื่นๆคุมกำเนิดไปก่อน” ตัวแทนน้องๆจากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน กล่าว

สุดท้ายเป็นภาคของผู้ชายที่ผู้หญิงก็ควรรู้ อย่าง ถุงยางอนามัย เพื่อสอนการใช้ที่ถูกวิธี เช่น ถ้าใส่ถูกต้องตรงติ่ง ต้องแบนไม่มีลมอยู่ข้างใน โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบติ่งตรงปลาย เพื่อไล่ลมออกก่อนครอบปลายอวัยวะเพศ แล้วใช้อีกมือรูดถุงยางขึ้นไปจนถึงโคน ขณะที่อีกมือยังคงบีบปลายติ่งอยู่ เป็นต้น

ปิดท้ายด้วยฐานประโยคไม่ตายของผู้ชาย เพื่อให้น้องๆสาวๆเลือกหยิบใช้คำที่จะปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างนุ่มนวล ไม่ทำร้ายจิตใจกันทั้งสองฝ่าย

วิธีปฏิเสธ 3 รูปแบบ แบบแรกอาจดูหักหานน้ำใจสักหน่อย คือ ไม่ยอมเสียตัวและไม่กลัวเสียแฟน เช่น “อย่ามายุ่งกับฉัน” หรือจะเลือกแบบที่สอง คือ ไม่ยอมเสียตัว แต่กลัวเสียแฟน ได้แก่ “ไม่ได้นะ กำลังมีเมนส์” หรือ “ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะทำไง”

และแบบสุดท้าย คือ ตอนนี้ไม่ยอม ตอนพร้อมค่อยมี อย่าง “ ถ้ารักฉันจริง อย่าบังคับใจฉัน ฉันไม่อยากให้เธอทำอย่างนี้” หรือ “ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก ถ้าฉันทำ ฉันจะหมดความศรัทธาในตนเองทันที” เป็นต้น
ทั้งนี้ หลักในการปฏิเสธ จะต้องปฏิเสธอย่างชัดเจน ไม่ให้ความหวัง ขณะเดียวกันก็อย่าแต่งกายที่เปิดให้เห็นส่วนของร่างกายมากนัก และควรเลือกสถานที่ ไม่อยู่ในที่ส่วนตัว ลับหูลับตา หรืออยู่สองต่อสอง ซึ่งจะทำให้การปฏิเสธไม่ประสบผลสำเร็จ แล้วถ้าปฏิเสธแล้วให้เดินเลี่ยงออกมาอยู่ในที่ที่มีคนอยู่เยอะๆทันที

หลายวิธีที่พี่สอนน้อง แต่พ่อแม่ก็สามารถอ้างอิงเอาไปใช้ได้ทันที