เช็ก! ความต่างโรคภูมิแพ้ & ติดโควิด ตรวจเบื้องต้นด้วยตนเอง

เช็ก! ความต่างโรคภูมิแพ้ & ติดโควิด ตรวจเบื้องต้นด้วยตนเอง

โรคภูมิแพ้ และหอบหืด แม้ไม่ได้ทำให้ติดไวรัสโควิด-19 ง่ายขึ้น แต่จะสามารถทำให้มีอาการแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะการเกิดโรคภูมิแพ้ หอบหืดกำเริบเมื่อมีการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้การดูแลมีความลำบากมากขึ้นและอาจนำไปสู่ผลแทรกซ้อนอื่นๆ

ดังนั้น หลายๆ คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ได้เป็น ก็ควรจะรู้ถึงความแตกต่างระหว่างโรคภูมิแพ้ กับโรคโควิด-19

เช็กอาการโรคภูมิแพ้ กับโควิด ต่างกันอย่างไร?

รศ.พญ.สุพินดา ชูสกุล แพทย์ฝ่ายนาสิกวิทยาและภูมิแพ้  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า คนไข้ภูมิแพ้ทางจมูก จะมีอาการเด่นๆ คือ คันจมูก จาม น้ำมูกไหล  คัดจมูก และมักจะเป็นๆ หายๆ มีทั้งช่วงที่ดี และไม่ดี

ขณะที่ คนไข้โควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน มีอาการทางจมูกค่อนข้างเด่นเหมือนกัน อาจจะมีคัดจมูก อาการไข้  ไอ เจ็บคอ บางคนก็มีอาการเสียงแหบ หรืออาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน  ปวดเมื่อยตามตัว และมีอาการเฉียบพลัน พอเป็นก็จะมีอาการผิดปกติ

ทั้งนี้ อีกอาการหนึ่งที่อาจจะช่วยแยกโควิด-19 กับภูมิแพ้ คือการรับกลิ่น การรับรส อาจจะมีอาการเสียไปในคนไข้ที่เป็นโควิด แต่คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาการรับกลิ่น รับรสจะลดลงได้แต่เป็นอาการหายๆ แต่คนไข้โควิดที่มีอาการรับกลิ่น รับรส ลดลง จะเป็นอาการเฉียบพลัน คือ อยู่ดีๆ เคยได้กลื่น และไม่ได้กลิ่น หรือได้กลิ่นเพี้ยนเป็นกลิ่นอื่น อาจต้องสงสัยว่าตัวเองเป็นโควิด

อย่างไรก็ตาม โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ปัญหาเรื่องการรับกลิ่นจะน้อยกว่าโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ภูมิแพ้ หรือโควิด จะสังเกตได้อย่างไร?

คนที่เป็นภูมิแพ้ จะมีอาการคันจมูก คันตา จามเป็นชุด ซึ่งอาการคันจมูก คันตา อาการเหล่านี้ คนที่เป็นโควิด-19 ไม่มีอาการ ส่วนจามอาจจามได้ แต่จามไม่มาก ไม่เหมือนคนที่เป็นภูมิแพ้

ส่วนอาการอื่นๆ เช่น มีน้ำมูก มีคัดจมูก อันนี้จะเหมือนกัน

แต่ทั้งนี้ อย่าลืมว่า คนที่ติดโควิด-19 บางคนอาจจะไม่มีอาการอะไร เพราะฉะนั้น คนไข้ภูมิแพ้ก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเอง มีอาการเหมือนเดิมแต่เมื่อไปตรวจATK แล้วอาจขึ้น 2 ขีดก็เป็นได้

 

ความเสี่ยงของคนที่เป็นภูมิแพ้ ติดโควิดง่ายกว่าคนทั่วไปหรือไม่

รศ.พญ.สุพินดา กล่าวต่อว่าคนที่เป็นโรคภูมิแพ้เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เป็นภูมิแพ้ ความเสี่ยงในแง่ของการเกิดโควิด ต้องถือว่าคนที่เป็นภูมิแพ้ มีความเสี่ยงลดลงมากกว่าคนทั่วไป ด้วยเหตุผลทางวิทยา เช่น เรื่องของตัวรับ ไวรัสน้อยกว่าคนทั่วไป รวมถึงเซลล์แพ้จะช่วยกำจัดเชื้อไวรัสออกไปได้บางส่วน

แต่อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ก็ยังเป็นโควิดได้ ซึ่งเมื่อคนที่เป็นภูมิแพ้ติดโควิด-19 จะมีความรุนแรงของโรค น้อยกว่าคนทั่วไป  แต่หากคนที่เป็นโรคภูมิแพ้และเป็นโรคหอบหืดร่วมด้วยนั้น  งานวิจัยพบว่า คนที่เป็นโรคหืดและเป็นโรคภูมิแพ้ จะมีความเสี่ยงโควิดไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป 

ผู้ป่วยภูมิแพ้ติดโควิด อัตราการนอนรพ.อาจจะสั้นกว่าคนทั่วไป

สำหรับการรักษาผู้ป่วยภูมิแพ้ที่ติดโควิดนั้น ระยะเวลาในการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โควิด ซึ่งงานวิจัยพบว่า คนที่เป็นภูมิแพ้และติดโควิด อัตราการนอนรพ.เมื่อเทียบกับคนทั่วไป ถือว่าสั้นกว่า เนื่องจากความรุนแรงของโรคน้อยกว่าคนส่วนใหญ่

คนเป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ สามารถฉีดวัคซีนโควิดได้ เหมือนกับคนทั่วไป และควรฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ ยกเว้นกรณีที่ผู้ป่วยทำการรักษา ด้วยการฉีดวัคซีนภูมิแพ้อยู่ อาจต้องขอคำแนะนำ ว่าอาจจะมีการเว้นระยะระหว่างการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ และวัคซีนโควิด ไม่ควรจะไปฉีดวันเดียวกัน หรือในช่วงที่ติดๆ กัน

 

วิธีการดูแลตัวเอง เมื่อคนภูมิแพ้ติดโควิด 

สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้และเป็นโควิด ในแง่ใช้ยา อาทิ การใช้ยาพ่นภูมิแพ้อยู่ ไม่ได้มีข้อห้าม และเป็นข้อสนับสนุนให้คุมเรื่องของภูมิแพ้ให้ดีหรือต้องพ่นยาภูมิแพ้ทุกวัน เพื่อลดโอกาสภูมิแพ้ จาม ลดการแพร่กระจายโควิดไปยังคนรอบข้าง

ถ้ามียากิน หรือล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ สามารถทำได้ปกติอย่างที่เคยทำ

ผู้ป่วยภูมิแพ้ทางเดินหายใจ อยากให้ทำการดูแลตัวเอง ป้องกันไม่ให้เจอไรฝุ่นที่เป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญของคนไทย  พยายามเลี่ยงห้องที่มีพรม ตุ๊กตา หรือม่านเป็นขนๆ  หรือหนังสือเก่าๆ พวกนี้ต้องเก็บในตู้ที่มีฝามิดชิดให้เจอไรฝุ่นน้อยที่สุด ถ้ามียาที่รักษาจากแพทย์ ก็ขอให้ใช้ยาเป็นประจำ ใช้ยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดอาการ และถ้ามียาพ่น ยากินแก้แพ้ ขอให้กินหรือพ่นยา เป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่