บิวท์ ทู บิวด์ เมินสงครามราคา สู้ด้วยคุณภาพรับดีมานด์ระยะยาว

สุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพ  เปิดเผยว่า ปัญหาสงครามราคาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกยุคในธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว  แต่หากเทียบผลลัพธ์ในระยะยาวกลับสร้างความเสียหายทั้งต่อลูกค้าและบริษัทที่ทำสงครามราคาเอง เพราะเมื่อแข่งขันกันลดราคาอย่างไม่สมเหตุสมผล บริษัทจะไม่สามารถรักษาความเสถียรของธุรกิจและคุณภาพงานก่อสร้างได้

เพราะธุรกิจรับสร้างบ้านเป็น Product Oriented ที่อยู่ได้ด้วยงานคุณภาพ ไม่ใช่แค่การตลาด เพราะบ้านเป็นการลงทุนก้อนใหญ่และระยะยาวที่เจ้าของบ้านจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไปอีก 30–50 ปี ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการลดราคาจนเกินควร คุณภาพงานย่อมลดลง และสุดท้ายลูกค้าจะเสียโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต แบรนด์ของบริษัทที่ทำสงครามราคาก็จะขาดความน่าเชื่อไปโดยปริยาย

"บ้านแพงไม่แพง ขึ้นอยู่กับคุณภาพและสิ่งที่ลูกค้าได้รับ"

เขามองว่า การแข่งขันด้วยการหั่นราคาที่ไม่สมเหตุผล ไม่เพียงแต่ทำลายโอกาสของลูกค้าในการได้บ้านที่ดี หากแต่ยังบั่นทอนความน่าเชื่อถือของบริษัทไปพร้อมกัน เพราะบ้านไม่ใช่สินค้าใช้แล้วหมดไป แต่คือ “การลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิต”

ไม่ลดสเปก ไม่ลดคุณภาพ

แม้ราคาสร้างบ้านต่อตารางเมตรของ “บิวท์ ทู บิวด์” จะสูงกว่าตลาดบางเจ้า แต่กลับยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อของลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่าจากคุณภาพงานก่อสร้างจริง มากกว่าตัวเลขราคาที่ล่อตาล่อใจ

เบื้องหลังความสำเร็จนี้ คือระบบการบริหารต้นทุนด้วยประสิทธิภาพ ไม่ใช่การบีบราคาวัสดุหรือค่าแรง แต่เป็นการเพิ่มความแม่นยำของทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบโดยสถาปนิกมืออาชีพ ทีมช่างก่อสร้างที่มีประสบการณ์ ไปจนถึงการตรวจสอบมาตรฐานโดยทีม Inspector และคณะตรวจสอบอิสระก่อนส่งมอบ

“เราตรวจบ้านแทนลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหลังคือบ้านคุณภาพ”

กลยุทธ์ “สร้างบ้าน ต้องเห็นบ้าน”

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง คือกิจกรรม “Site Seeing – สร้างบ้าน ต้องเห็นบ้าน” ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าชมไซต์งานจริง เห็นกระบวนการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมพูดคุยกับทีมผู้เชี่ยวชาญทุกสายงาน

“สร้างบ้านคือการลงทุนครั้งใหญ่ ผู้บริโภคควรได้เห็นของจริงก่อนตัดสินใจ”

แนวทางนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า แต่ยังเป็นการตอกย้ำว่า “บ้านคุณภาพ” ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็สร้างได้

ดีมานด์จริง แต่ต้องมีของจริง

ในมุมมองของผู้บริหารกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ธุรกิจรับสร้างบ้านยังเป็นเซกเมนต์ที่มีความต้องการจริงอยู่เสมอ แม้ภาวะเศรษฐกิจผันผวน แต่ “บ้าน” ยังเป็นความจำเป็นพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในอีก 3–5 ปีข้างหน้าจะทวีความเข้มข้น ทั้งจากต้นทุนที่พุ่งสูง แรงงานฝีมือที่ขาดแคลน ไปจนถึงความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงขึ้น

สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็น “ตัวกรอง” คัดแยกผู้เล่นในอุตสาหกรรม ให้เหลือเพียงรายที่มีมาตรฐานจริงเท่านั้น

“อนาคตของธุรกิจนี้จะไม่ใช่สงครามราคา แต่คือสงครามคุณภาพและความคุ้มค่า”

ในวันที่ตลาดเต็มไปด้วยเสียงแข่งขันเรื่อง “ถูกกว่า” บิวท์ ทู บิวด์ กลับยึดมั่นในแนวทาง “สร้างบ้านด้วยคุณภาพ” เพื่อให้บ้านเป็นมากกว่าสิ่งปลูกสร้าง แต่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่เจ้าของบ้านจะภาคภูมิใจในทุกวันของชีวิต