เปิดตำนานบทใหม่'สุริยน-จิตรดี พูลวรลักษณ์'ปั้นบ้านหรูอัลติเมต ลักชัวรี

สุริยน พูลวรลักษณ์ เป็นบุตรคนรองในจำนวนทายาท 3 คนของคุณจำเริญและคุณประทิน พูลวรลักษณ์ ดีกรีปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 ด้านวิศวกรรมโยธา จุฬาฯ ปริญญาโท 2 ใบ คือสาขาธุรกิจระหว่างประเทศจาก De Paul University และสาขาวิศวกรรมโยธาจาก MIT

หลังหอบความรู้จาสหรัฐกลับมาเมืองไทย ร่วมก่อตั้งบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)จนประสบความสำเร็จ บ่มเพาะประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 20 ปี

ล่าสุดจัดตั้ง บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 120 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการบ้านหรูระดับ อัลติเมต ลักชัวรี  บนทำเลใจกลางเอกมัย สำหรับเอกสิทธิ์เพียง 7 ครอบครัว ระดับราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาทสูงสุดอยู่ที่ 105 ล้านบาท

"เมื่อโตถึงจุดหนึ่งจำเป็นต้องแตก โดยเลือกโฟกัสบ้านหรูระดับอัลติเมต ลักชัวรี ( Ultimate Luxury)เพราะมองเห็นโอกาส ทางการตลาดลักชัวรีที่ยังมีช่องว่างในการที่เข้าไปเติมเต็มพื้นที่นั้นๆ"

สุริยน  พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด กล่าวว่า ได้นำร่องด้วยการพัฒนาโครงการ ลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10 เป็นโครงการแรก มูลค่า 500 ล้านบาท โดยดีมานด์หลักจะมาจากลูกค้าที่ชอบอยู่เพนท์เฮ้าส์ ราคา 100 ล้านบาทต่อยูนิต ที่เปลี่ยนใจอยากมาอยู่ “บ้านในเมือง” ไม่อยากอยู่บ้านนอกเมือง เพราะไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

ดังนั้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจึงหาที่ดินมาพัฒนาจนกระทั้งเจอบ้านเก่าในซอยเอกมัย 10 ขนาด 400 ตร.วา ประมาณไร่กว่า ที่สามารถออกแบบบ่านเดี่ยว 7 หลัง ที่ดินแต่ละหลังจะมีพื้นที่ 40-50 ตารางวา จำนวน 4ชั้น มีลิฟท์ส่วนตัวภายในบ้าน โดยชั้น 1 เน้นการออกแบบที่ล้ำสมัยและฟังก์ชันที่จอด 4-6 คัน รองรับระบบ EV Charger สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%
 

ที่จอดรถถือเป็น"จุดขาย" สำหรับบ้านในเมืองที่ส่วนใหญ่มีแค่ 2-3คันเท่านั้น แต่โครงการลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ จอดได้ 4-6 คัน ยิ่งคนที่อยู่เพนท์ เฮ้าส์ ที่จอดรถ สำคัญที่สุด เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มีรถหลายคัน หลังใหญ่สุดสามารถจอดรถได้ถึง6 คัน

"หลังจากเปิดตัวมาได้ 2 สัปดาห์ มีลูกค้าสนใจจำนวนมาก ปิดการขายไปแล้ว 1 ยูนิต และอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 2 ยูนิตคาดว่า จะปิดโครงการได้ภายในปีนี้"

ธุรกิจบ้านหรูระดับลักชัวรีส่วนใหญ่จะอยู่นอกเมือง ขนาด 60-100 ตารางวา  พื้นที่ใช้สอย 400-500 ตารางเมตร.ราคา 50-80 ล้านบาท ซึ่งจำนวนคู่แข่งที่เข้าเปิดตัวโครงการใหม่ในปีมีจำนวนมาก ดังนั้น บริษัทต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน

โดยไม่ได้แบ่งตลาดอายุแต่แบ่งตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กลุ่มลูกค้าเราจะเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตในเมือง มีครอบครัว ต้องการสเปซ ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีคู่แข่งน้อย! เพราะหาที่ดินในการพัฒนาโครงการยาก โดยเฉพาะที่ดินเปล่าแทบไม่มีแล้ว มีแต่บ้านเก่า ขนาดตลาดไม่ใหญ่มากราคาแพง แต่มีเท่าไรก็ขายหมด

  "พฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง จึงไม่ต้องการพื้นที่ส่วนการแชร์การใช้งาน ดังนั้นการพัฒนาโครงการขนาด 7 ยูนิตถือว่าตอบโจทย์ และเป็นคอมมูนิตี้ที่กลุ่มผู้อยู่อาศัยมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคล้ายกัน"

กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นนักธุรกิจ คนรุ่นใหม่ที่ชอบไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมือง ต้องการสเปซ ที่มากกว่า คอนโด สามารถทำงาน ไปเรียนได้สะดวกไม่ต้องเดินทางไกล ส่วนหนึ่งต้องการซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สิน ทำให้ที่ผ่านมาบ้านหรูระดับลักชัวรีขายดี

อย่างไรก็ตามด้วยจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ทำให้เชื่อมั่นว่าโครงการของเอสพีเจ แลนด์ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า โดยมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการปีละ2 โครงการขนาดไม่เกิน 10 ยูนิต เนื่องจากการหาพื้นที่ในเมืองขนาดใหญ่ยาก และไม่ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าที่ชอบความเป็นส่วนตัวส่วนระดับราคาไม่ต่ำกว่า 80ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดียวหรือ คอนโดโลว์ไรส์ แต่ขนาดของยูนิตจะต้องมีขนาดใหญ่พอที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของลูกค้ากลุ่มนี้ และหากมีโอกาสอาจร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในอนาคตแต่ยังคงเป็นเซกเมนต์ระดับลักชัวรี

จิตรดี พูลวรลักษณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเสริมว่า “ทำเล” ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ แต่ขณะเดียวกันต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้า เฉพาะกลุ่ม (Niche Market)พร้อมกับสร้าง Prestige Lifestyle ความภูมิใจในการเป็นเจ้าของและส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้อย่างล้ำค่าเพื่อยกระดับมาตรฐานการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี

เสมือนการคัดสรรเพื่อนบ้านให้สังคมภายในโครงการด้วยคอนเซ็ปต์ Prestige Community ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าตลาดบนเฉพาะกลุ่ม ทำเลสุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัยยังคงเป็นทำเลทำเลทองที่นับวันมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี