"ทหารเสือราชินี" ในสายเลือด ต้นกำเนิด "ประยุทธ์"

"ทหารเสือราชินี" ในสายเลือด ต้นกำเนิด "ประยุทธ์"

"ร.21 รอ." ใน "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ทรงดำรงตำแหน่งเป็น "องค์ผู้บังคับการพิเศษ" และทรงจัดตั้ง "หน่วยทหารเสริมกำลังพิเศษ" หรือ "ทหารเสือ" รวบรวมทหารนักรบ นักพัฒนา มาถ่ายทอดให้ทหารรุ่นต่อไป โดย "พล.อ.ประยุทธ์" ถือเป็นหนึ่งในนั้น

นับเป็นเกียรติประวัติสูงสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้เป็นหนึ่งใน “ทหารเสือราชินี” หน่วยในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในรัชกาลที่ 9 ถือเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตรับราชการที่หล่อหลอมให้ร่างกาย และจิตใจแข็งแกร่ง พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) “พล.อ.ประยุทธ์” สะดุดตากับภาพ "หัวเสือ" หรือ Tiger ของบริษัทประเทศฝรั่งเศส ที่มีราคาเพียงหลักร้อยบาท ซึ่งเป็นนวัตกรรมการพิมพ์ผ้าแบบประหยัดน้ำ ที่ให้สีคมชัดกว่าการพิมพ์แบบปกติ และสามารถพิมพ์ได้บนผ้าทุกชนิด จึงเดินปรี่เข้าไปถ่ายภาพคู่และขอซื้อภาพดังกล่าวเป็นที่ระลึก

ภาพ "หัวเสือ" ทำให้ "พล.อ.ประยุทธ์" ระลึกถึงสมัยรับราชการ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์(ร.21 รอ.)ในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "ทหารเสือราชินี" มีภาระหน้าที่ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท และได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย

“ร.21 รอ.” เป็นหน่วยหนึ่งในกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ขึ้นตรง “กองทัพบก” โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เคยทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์ผู้บังคับการพิเศษ และดำรงพระอิสริยยศทางทหารเป็นจอมพลหญิง มีที่ตั้งหน่วย ณ ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

กองทัพบกได้มอบหมายภารกิจของ “ร.21 รอ.” ไว้หลายประการ เช่น งานป้องกันชายแดน งานรักษาความสงบเรียบร้อยมั่นคงภายใน งานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริในพื้นที่ทุรกันดาร งานรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานถวายอารักขาองค์พระประมุข และพระราชวงศ์

ในปี 2524 “พระพันปีหลวง” องค์ผู้บังคับการพิเศษ ได้มีพระราชเสาวนีย์ให้มีการฝึกหลักสูตรพิเศษทหารเสือ เพื่อให้กำลังพลสามารถปฏิบัติภารกิจได้ทุกรูปแบบ ทั้งภาคพื้นดิน ภาคทะเล การรบในป่า-ภูเขา การปฏิบัติการในเมือง การกระโดดร่ม การขี่บังคับม้า การใช้รถจักรยานยนต์ทางยุทธวิธีฯลฯ จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ทรงจัดตั้งหน่วยทหารหน่วยหนึ่งขึ้นมาเป็นการส่วนพระองค์ มีภารกิจคือ ถวายอารักขาในขณะเสด็จแปรพระราชฐาน มีนามหน่วยที่เรียกกันว่า "หน่วยทหารเสริมกำลังพิเศษ" หรืออีกนามคือ “ทหารเสือ” ซึ่งได้ทรงรวบรวมนายทหารที่มีประสบการณ์จากการรบ การพัฒนามาเป็นพี่เลี้ยง ในอันที่จะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในทุกๆ ด้านให้กับนายทหารรุ่นต่อไป

"พล.อ.ประยุทธ์" ถือเป็นหนึ่งในทหารเสริมกำลังพิเศษ หรือ “ทหารเสือ” ที่ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ถวายอารักขาเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือหน่วยงานของพระองค์ในกรณีที่เวลาน้อย หรือมีราษฎรมาเข้าเฝ้าฯ เป็นจำนวนมาก เช่น การตรวจสอบประวัติ จัดระเบียบ เพื่อให้มีความคุ้นเคยกับราษฎร และทราบปัญหาอย่างแท้จริง หรืองานอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็จะจัดส่วนหนึ่งไปปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชประสงค์

หลายต่อหลายครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยตามเสด็จฯ ไปในพื้นที่ทุรกันดาร ห่างไกลความเจริญ และได้เห็นถึงความตั้งพระทัยอันแน่วแน่ และไม่ย่อท้อต่อความลำบากของ “พระพันปีหลวง” เพื่อทรงเยี่ยมเยียนราษฎร พร้อมให้ความช่วยเหลือเท่าเทียมกัน ทั้งพระราชทานกำลังใจ และทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ราษฎรเลี้ยงตัวเองได้ เช่น งานศิลปาชีพ การรักษาพยาบาลฯ

ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยชายแดน ป้องกันพื้นที่บนเขาพนมปะ ต่อสู้กับทหารเวียดนามที่พยายามรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย เมื่อปี 2526 พระพันปีหลวงในฐานะองค์ผู้บังคับการพิเศษ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงสมรภูมิที่มีการสู้รบ

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ได้เห็นถึงพระเมตตาของ “พระพันปีหลวง” ที่ทรงมีต่อกำลังพล และครอบครัวทหารในค่ายนวมินทราชินี ผ่านโครงการต่างๆ เช่น ทรงรับสั่งให้ทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ พระราชทานงานศิลปาชีพ เพื่อให้สามารถเลี้ยงตนเองได้ ไม่ฟุ้งเฟ้อ และมีศักดิ์ศรี

ดังนั้นทุกครั้งที่ได้เห็นรูป “เสือ” จึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ หวนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในรัชกาลที่ 9 และภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งใน “ทหารเสือราชินี” ที่สร้างความภาคภูมิใจในชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์