“ปชป.”ยื่นร่างพรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานเข้าสภาฯ

“ปชป.”ยื่นร่างพรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานเข้าสภาฯ

“ปชป.”ยื่นร่างพรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานเข้าสภาฯ ชี้คดี “ผกก.โจ้” ตอกย้ำเร่งออกกฎหมายให้เร็วที่สุด

นางศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย ที่จะเข้าพิจารณาร่างในสัปดาห์หน้า ใน วันที่ 1 กันยายน 2564 กรณีที่ไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะเข้าพิจารณาในสัปดาห์ถัดไปนั้น เป็นประเด็นทางกฎหมายที่สำคัญในห้วงเวลานี้ ซึ่งในขณะนี้มีร่างกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ จำนวน 4 ร่าง โดย 1 ในร่างนั้น เสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งล้วนแต่มีหลักการในทำนองเดียวกัน

 

ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ เห็นถึงความตระหนักต่อปัญหาและมุ่งหาแนวทางในการแก้ไข ตั้งแต่ก่อนจะมีกรณีเจ้าหน้าตำรวจซ้อมทรมานผู้ต้องหาเพื่อกรรโชกทรัพย์ จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ที่จังหวัดนครสวรรค์ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นในการเร่งผลักดันร่างกฎหมายนี้ให้เข้าสู่การพิจารณาตามกระบวนการนิติบัญญัติเพื่อจะออกใช้บังคับโดยเร็วที่สุด

รองโฆษก ปชป.ระบุว่า การทรมาน การกระทำความรุนแรง การอุ้มหาย นั้น ถือเป็นการกระทำ หรือเป็นการลงโทษที่มีความโหดร้ายและไร้ซึ่งมนุษยธรรม ถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากลอย่างรุนแรง โดยเฉพาะหากการกระทำเหล่านั้นเกิดขึ้นจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะยิ่งถือว่าเป็นความเสียหายและเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐอย่างมาก เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคล เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเป็นสิ่งที่ไม่ควรที่เกิดขึ้นในสังคม

 

โดยร่างพรบ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำ ให้บุคคลสูญหาย เป็นกฎหมายที่จะช่วยป้องกันการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ตลอดจนปราบปรามผู้กระทำในลักษณะข้างต้น ซึ่งเป็นเหตุให้กระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือนจนเกิดปัญหา

น.ส.ศิริภา จึงคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกพรรคการเมืองจะสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถเป็นหลักให้กับบ้านเมืองและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอีกครั้ง ตลอดจนเพื่อยืนยันในหลักสิทธิมนุษยชน และหลักนิติรัฐ คือ การปกครองโดยกฎหมาย ซึ่งเป็นหลักการที่พรรคประชาธิปัตย์ยึดถือเป็นแนวทางในการบริหารบ้านเมืองมาโดยตลอด