สิงห์ เอสเตท ลุย Green Collaboration ดึงผู้เช่าร่วมลดคาร์บอน

เมื่ออสังหาฯ ไม่ได้แค่สร้างตึก แต่ต้องชวนทุกคนในตึก “เปลี่ยนโลกไปพร้อมกัน” สิงห์ เอสเตท ลุย Green Collaboration ดึงผู้เช่าร่วมลดคาร์บอน
ถ้าพูดถึง “การลดคาร์บอน” ภาพที่หลายคนนึกถึง อาจเป็นโรงงาน พลังงาน หรือยานยนต์แต่วันนี้ เกมความยั่งยืนกำลังขยับเข้าสู่ “อาคารสำนักงาน” อย่างจริงจังและหนึ่งในผู้เล่นที่ขยับหมากก่อนใคร คือ
สิงห์ เอสเตท ที่ ไม่ได้มองบทบาทตัวเองแค่ในฐานะ “เจ้าของพื้นที่” แต่เลือกขยับไปเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ผ่านกลยุทธ์ Green Collaboration ที่เชื่อว่า… การจะไปถึง Carbon Neutrality ได้
ไม่ใช่แค่บริษัทใดบริษัทหนึ่งทำ แต่ต้อง “ไปพร้อมกันทั้งอาคาร”
อรณีย์ พูลขวัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและการพาณิชย์ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะผู้พัฒนาและบริหารอาคารสำนักงาน ตระหนักถึงความสำคัญของการลดการปล่อยคาร์บอนและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จึงได้ผลักดันแนวคิดดังกล่าวผ่านโครงการ 'Go Green Together, Change Tomorrow' ควบคู่กับแคมเปญ 'Green Synergy, Green Tenant of The Year 2025 Award' เพื่อสร้างความร่วมมือกับผู้เช่าในอาคารสำนักงานของสิงห์ เอสเตทให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนมีเป้าหมายร่วมกันในการลดคาร์บอนและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและยั่งยืนในระยะยาว
แนวคิดนี้ถูกขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้โครงการ “Go Green Together, Change Tomorrow”ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2562 และเดินหน้าต่อเนื่องภายใต้กรอบ ESG ล่าสุด สิงห์ เอสเตท ยกระดับโครงการ ด้วยแคมเปญ
“Green Synergy, Green Tenant of The Year 2025 Award”เพื่อเชื่อมพลังผู้เช่าในอาคารสำนักงานให้กลายเป็นพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
ไม่ใช่แค่รณรงค์ แต่ “วัดผลได้”
ผู้เช่าที่เข้าร่วมโครงการ จะถูกประเมินจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการขยะอย่างยั่งยืน การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาวะและทุก ๆ การลดคาร์บอน 1 ตันสิงห์ เอสเตท จะชดเชยด้วยการปลูกต้นไม้ 10 ต้น ที่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงรายเปลี่ยนตัวเลขบนรายงาน ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง
อาคารที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ครอบคลุมทั้งS-OASIS, SINGHA COMPLEX, SUNTOWERS และ S-METRO สะท้อนว่า “ความยั่งยืน” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตึกใดตึกหนึ่งแต่กำลังถูกยกระดับเป็นมาตรฐานร่วมของพอร์ตอาคารสำนักงานทั้งหมด
อรณีย์ มองว่า การลดคาร์บอนจะเกิดขึ้นได้จริงเมื่อทุกฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกัน และลงมือทำไปในทิศทางเดียวกันปลายทางของเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ใบประกาศนียบัตรแต่คือเป้าหมายใหญ่ของสิงห์ เอสเตทในการมุ่งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2573
ในวันที่โลกธุรกิจถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่องสิ่งแวดล้อมการเติบโตอย่างยั่งยืน อาจไม่ใช่การวิ่งเร็วที่สุดแต่คือการ “ชวนคนรอบข้างวิ่งไปพร้อมกัน”และนี่คือเกมที่สิงห์ เอสเตท เลือกเล่น…เกมที่ตึก ผู้เช่า และโลก ได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน







