ล่า 'อ๊อด พยุงวงศ์' พบโยงกลุ่มการเมืองพันเหตุระเบิดกรุง

ตร.เร่งติดตามตัว "อ๊อด พยุงวงศ์" หลังพบโยงเหตุระเบิดสมานเมตตาแมนชั่นปี53-ระเบิดมีนบุรีปี57 มั่นใจหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุระเบิดราชประสงค์
รายละเอียดกรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส., พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 และ พ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฎิบัติการคณะทำงานกฎหมาย ส่วนรักษาความสงบ คสช. ร่วมกันแถลงข่าวสรุปสำนวนการสืบสวนสอบสวนคดีคนร้ายวางระเบิดท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร หลังนายอาเดม คาราดัก สารภาพเป็นชายเสื้อเหลืองที่ก่อเหตุระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาธร ซึ่งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายอาเดม และนายยูซูฟู ถูกนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้ง 19 จุด จนถึงขณะนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 17 คน ใน 7 ข้อหาฉกรรจ์
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6 ) กล่าวอธิบายสรุปแผนผังของเหตุการณ์ระเบิดทั้งหมดว่า เหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้มีความเกี่ยวพันกับ 4 สถานที่ คดีแรกเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 18.55 น. มีเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหมแยกราชประสงค์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 คน บาดเจ็บอีกกว่า100 คน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ คดีนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ชิ้นส่วนเป้ ,ชิ้นส่วนลูกเหล็กกลม และชิ้นส่วนของท่อเหล็ก ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวอีกว่า วันถัดมามีอีกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ท่าเรือสาทร เมื่อวันที่ 18ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.20 น.มีการระเบิดเกิดขึ้น 1 ครั้ง ที่เกิดเหตุมีวัตถุพยานเช่นเดียวกัน คือลูกเหล็กกลม ท่อแป๊บ และที่สำคัญคือมีการเก็บฝักแคระเบิดได้ในที่เกิดเหตุ หลังจากเกิดเหตุถือว่าเป็นเหตุการณ์ สะเทือนขวัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้กำชับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เร่งรัดติดตามคน้รายมาดำเนินคดีโดยเร็ว พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งตั้งพล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวน มีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รับผิดชอบงานด้านการสืบสวนสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งหน่วยข่าวกรองและฝ่ายความมั่นคงร่วมกันทำงาน
“จากการสืบสวนเบื้องต้นรวบรวมพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเกือบ 200 ปาก มีพยานยืนยันและกล้องวงจรปิดยืนยันภาพคนร้ายในคดีที่ 1 คือคดีระเบิดที่ศาลพระพรหม เป็นภาพชายคนร้ายใส่เสื้อสีเหลือง ต่อมาในคดีที่ 2 สะพานสาทร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 30 ราย และภาพวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกันลงพื้นที่ พบว่าคนร้ายเป็นชายเสื้อสีฟ้า” พล.ต.ต.ชยพล ระบุ
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า จากทั้ง 2 คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ร่วมกันออกสืบสวนติดตามโดยใช้เครื่องมือต่างๆและใช้การสืบสวนโดยใช้อุปกรณ์พิเศษ จนกระทั่งสามารถสืบสวนติดตามคนร้าย 1 คนได้หลบหนีมาอยู่ที่พูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์ ในวันที่ 29 ส.ค.เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ร่วมกันทำการปิดล้อมตรวจค้นห้องพักเป้าหมาย 412และ 414 เจอตัวผู้ต้องหาคนที่ 1 คือนายโบลา หรือ บิลาน มูฮัมหมัด ในครั้งแรกนั้น อ้างว่าชื่อนายอาเดม คาราดัค ซึ่งเป็นชื่อปลอมและมาสารภาพชื่อจริงในภายหลัง นายบิลานพักอยู่ในห้อง 412 ทั้งนี้ภายในห้อง414 และ421 ได้พบวัสดุของกลางจำนวนมาก ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิด ฝักแคระเบิด ท่อแปบน้ำ ลูกเหล็กกลมที่บรรจุไว้ในถุงพลาสติก สารเคมีทีเอทีพี ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการประกอบระเบิด เสื้อผ้าที่สวมใส่
พล.ต.ต.ชยพล ระบุอีกว่า ในวันเดียวกันจากการสอบสวนพยานและการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าที่ไมมูณาอพาร์ทเม้นท์ ยังมีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมาอาศัยอยู่ในห้อง 9106 ด้วย เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างรวดเร็ว จาการตรวจค้นพบหลักฐานอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบระเบิด ที่สำคัญคือพบดินเทาซึ่งถือเป็นยุทธภัณฑ์ หลังจากปิดล้อมตรวจค้นแล้วเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางทั้งหมด และจับกุมนายบิลานมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องกับพูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์ ทำให้ทราบว่า นอกจากนายบิลานแล้วยังมีกลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องร่วมกระทำความผิด ดังนี้ ชุดแรกเป็นกลุ่มบุคคลที่เริ่มเข้ามาพักอาศัยในห้อง412และ 414 ประกอบด้วย นายอาเหม็ด โบซองแลนด์ นายอาริ โจลัน ชายชาวตุรกีไม่ทราบชื่อ นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน ต่อมาได้มีการขยายผลจากการรวบรวมพยานหลักฐานทำให้ทราบว่าคนร้ายอีกคนหนึ่งยังหลบหนีอยู่ในประเทศ และสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.สระแก้วคือนายไมไรลี ยูซูฟู มาดำเนินคดี
“จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ช่วงเวลาเดินทาง และมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีลายนิ้วมือแฝงของผู้ต้องหาทั้งสองคนปรากฏอยู่บนอุปกรณ์ที่ใช้ทำระเบิด นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบสิ่งของทุกชิ้นในห้องพบถุงกระเทียมตัดจุกอยู่ในตู้เย็น จากการตรวจสอบบาร์โคดพบว่ามีคนร้ายอีกคนหนึ่งมาอาศัยอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพคนร้ายที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จากนั้นได้ดำเนินการตรวจสอบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายอีกหนึ่งคนชื่อนายอับดุล ดาวับ คนนี้มาจากการให้การรับสารภาพของนายยูซุฟู ซัดทอดว่าเป็นผู้ที่ทำวีซ่า จัดหาที่พักและมีพยานปากสำคัญอีกคนหนึ่งยืนยันว่ามีผู้ว่าจ้างให้เขาขับรถรับชายเสื้อสีฟ้าจาหน้ารามคำแหงไปส่งที่หน้าแมคโคร หลังจากนั้นก็ได้หลบหนีออกไปทางภาคใต้” พล.ต.ต.ชยพลระบุ
ผบก.น.6 กล่าวอีกว่า ในที่เกิดเหตุของพูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์ ยังพบใบเสร็จซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ประกอบเป็นวัตถุระเบิดคือท่อหรือแป๊บน้ำ จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พยายามหาที่มาของใบเสร็จนี้ เจ้าหน้าที่เจอร้านค้า ซึ่งมีกล้องวงจรปิดพบชายใส่แว่นเป็นผู้ซื้อ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับในคดีของพูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์ ในข้อหามีวัตถุระเบิดไว่ในครอบครอง ในส่วนของไมมูณาอพาร์ทเม้นท์ได้ดำเนินการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้อง พบข้อมูลในการดำเนินคดีผู้ต้องหาเพิ่มเติม ประกอบด้วย เป็นผู้ต้องหาที่เข้ามาติดต่อเช่าห้องพัก ทั้งน.ส.วรรณา สวนสัน หรือ ไมซาเราะห์ ชาวไทย และกับสามี นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ทั้งคู่มาเปิดห้องพัก 9016 ให้คนร้ายเข้าพัก มีกลุ่มคนร้ายเข้าไปพักอาศัย ประกอบไปด้วย นายยูซูฟู อีกทั้งมีพยานบุคคลและภาพวงจรปิดยืนยันว่านายยูซุฟูและนายบิลานได้เข้า-ออกในห้อง 9106 เช่นเดียวกัน
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า จากการสอบสวนนายยูซุฟูให้การว่าผู้ที่ติดต่อนายบิลาน ช่วยเหลือ จัดหาวัตถุระเบิด เครื่องมือเครื่องใช้ คือนายอาบูดูสตาร์ อาบูเลาะห์มาน หรืออิซาน และยังมีบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นคนไทย คือนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ์ พบแก้ว เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคลที่เกี่ยวข้องในคดีนั้นในส่วนของไมมูณาพาร์ทเม้นท์ในเรื่องของการมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติเพราะมีดินเทา สำหรับพูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์นั้น มีฝักแคระเบิดมีอุปกรณ์ประกอบระเบิดไว้ในครอบครอง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของผู้สนับสนุนอีกส่วนหนึ่ง มีพยานหลักฐานยืนยัน คือโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้ในคดีนี้ทั้งหมด มีบุคคล 32 คนที่ไปจดทะเบียนซื้อซิมการ์ดให้คนร้ายนำมาก่อเหตุนั้น คือ นายอาลีนู นายมูฮัมเหม็ด อิสเมล ความเชื่อมโยงของทั้ง 4 สถานที่คือ ในที่เกิดเหตุของศาลพระพรหม ทาเรือสาทร เราพบลูกเหล็กกลมขนาดใกล้เคียงกัน บางลูกเหมือนกัน เช่นเดียวกับห้อง414 พูลอนันต์อพร์าทเม้นท์ก็พบลูกเหล็กกลมด้วย และชิ้นส่วนของท่อเหล็กจะพบทั้งที่ศาลพระพรหม ท่าเรือสาทรและห้อง414 พูลอนันต์อพร์เม้นท์ และพบตัวจุดชนวนฝักแคระเบิดที่ท่าเรือสาทรและในห้อง414 ตรวจสอบแล้วองค์ประกอบตรงกัน
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้วพนักงานสอบสวนได้ยืนยันระบุว่ากลุ่มบุคคลที่ใช้จ้างวาน สั่งการให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้กระทำความผิด ประกอบไปด้วย นายอิซาน นายอับดุลเลาะห์มาล นายซูแบร์หรือชายเสื้อฟ้า นายไมไรลี ยูซูฟู และนายบิลาน มูฮำหมัด ทั้งหมดนี้เป็นชุดที่เข้ามาดำเนินการปฎิบัติการ ส่วนบุคคลอื่นๆเป็นผู้สนับสนุน ผุ้ร่วมในการกระทำความผิด จากนั้นพนักงานจึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดออกหมายจับ เนื่องจากคดีวัตถุระเบิดนั้นอยู่ในอำนาจศาลทหารตามคำสั่งคสช. ซึ่งศาลทหารได้ให้ความเห็นชอบออกหมายจับทั้งสิ้น 17 หมายจับ ผู้ต้องหา 17 คน คือ 1.นายอาเหม็ด โบซองแลนด์ ผู้เช่าห้องพักที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ห้องหมายเลข 414 2.นายอาริ โจลัน ผู้เช่าห้องพักหมายเลข 412 3.ชายชาวตุรกี ไม่ทราบชื่อตามภาพสเก็ตช์ ซึ่งพักอาศัยอยู่กับนายบิราจ ที่ห้องหมายเลข 412 4.นายไมไรลี ยูซุฟู เป็นผู้ซื้อสารเคมี ประกอบชิ้นส่วนระเบิด และนำระเบิดไปให้กับชายเสื้อเหลืองที่สถานีรถไฟหัวลำโพง 5.นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน พานายบิราลไปพักอาศัยที่ห้อง 412
6.นายอับดุล ดาวับ เป็นผู้ว่าจ้างให้ นายอิซาน ทำวีซ่าและจัดหาห้องพักให้กับนายไมไรลี ยูซุฟู 7.นางวรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์ ผู้เช่าห้องพักที่ไมมูณาการ์เด้นโฮม 8.นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามี น.ส.วรรณา 9.นายยูซุฟ ไม่ทราบนามสกุลพักอาศัยที่ห้องไมมูณา 10.นายอ๊อด พยูนวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว มีส่วนพบปะกับนางวรรณา และไมไรลี ยูซุฟู ที่บริเวณอาพาร์ทเม้นท์ไมมูณา การ์เด้น 11.นายอาบูดูสตาร์ อาบูเลาะห์มาน หรืออิซาน พักที่ห้อง 9106 ไมมูณา การ์เด้น 12.อาริ นู เป็นผู้ใช้หนังสือเดินทางของตุรกี ซื้อซิมโทรศัพท์ 13.นายมานา มาหมัด อิสเมล ใช้หนังสือเดินทางซื้อซิมโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้ 14.ชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลตามภาพสเก็ตช์ ผู้ซื้อท่อเหล็ก 15.ชายไม่ทราบชื่อและนามสกุล ตามภาพจากกล้องวงจรปิด ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาหนองจอก ซื้ออาหารและพักที่ห้อง 412 16.นายโบลา หรือ บิลาน มูฮัมหมัด ชายใส่เสื้อเหลืองนำกระเป่าเป้ไปวางไว้ที่ศาลพระพรหม 17.นายซูแบร์ ชายเสื้อสีฟ้าตามกล้องวงจรปิด พักอาศัยที่ห้องหมายเลข 412 และเป็นผู้โยนระเบิดลงที่ท่าเรือสาทร
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำระเบิดจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ แล้วร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมการพกพาอาวุธระเบิดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีนี้มีพ.อ.วิจารณ์ จดแตง นายทหารพระธรรมนูญ ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้กล่าวหา มีฝ่ายสืบสวน พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ฝ่ายสืบสวนของบช.น.ที่จะให้ข้อมูลทั้งหมด
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า ทั้งนี้คดีเหตุระเบิดสรุปแล้วผู้ต้องหาที่ได้มีการออกหมายจับทั้งสิ้น 17 หมาย มีการจับกุมได้ 2 ราย เหลืออีก 15 รายที่ยังหลบหนีอยู่ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับคนร้ายจากการตรวจสอบในรายชื่อผู้ต้องหามีคนไทย 2 คน คือน.ส.วรรณา สวนสัน หรือ ไมซาเราะห์ และนายอ๊อด พยูนวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังของทั้ง 2 คน พบข้อมูลว่านายอ๊อดมีประวัติการต้องโทษ คดีอาญา หลายคดี ในปีพ.ศ.2553 เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามพรก.ฉุกเฉิน โทษจำคุก 1 ปี ศาลรอลงอาญา ทั้งนี้ยังพบว่านายอ๊อดถูกออกหมายจับในคดีระเบิดปีพ.ศ.2557 ที่มีนบุรี และจากการตรวจสอบประวัติของกลุ่มคนร้ายดังกล่าวมีความเชื่อมโยงไปยังคดีระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น เขตบางบัวทอง ในปี พ.ศ.2553 ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนจะต้องมีการขยายผลต่อไป
นอกจากนี้การตรวจสอบว่านายบิลานกับชายเสื้อเหลืองเป็นคนเดียวกันหรือไม่ เราได้รวบรวมหลักฐาน การสอบพยานบุคคล การตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ และการตรวจสอบเทคนิคพิเศษตรวจอุปกรณ์พิเศษ ประกอบกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหานำชี้สถานที่ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจนจึงเป็นหลักฐานเชื่อได้ว่านายบิลานนั้นเป็นผู้กระทำความผิดจริงและเป็นบุคคลเดียวกันกับชายเสื้อเหลืองตามที่ปรากฎในภาพสเก็ต สำหรับนายไมไรลี ยูซุฟู ให้การรับสารภาพชัดเจน และชี้สถานที่ได้อย่างชัดเจน เรามีพยานหลักฐานยืนยันเช่นเดียวกับนายบิลาน ดังนั้นเชื่อได้ว่าคำให้การของผู้ต้องหาเป็นความจริงเพราะให้การเป็นปฎิปักษ์ต่อตนเอง อย่างไรก็ตามภาพของนายบิลาน เมื่อนำมาทำภาพเปรียบเทียบ นำวิกผมและแว่นตาออกไป และทำให้เป็นปัจจุบันค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกัน ส่วนนายซูแบร์ชายเสื้อฟ้าได้ทำการหลบหนีออกนอกประเทศไปเรียบร้อยแล้ว
ด้านพล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวกระทบต่อชาวความเชื่อมั่นต่อต่างชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้จับคนร้ายอย่างรวดเร็วและออกหมายจับคนร้ายที่หลบหนีมากกว่า 10 คน ถือว่าเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของคนไทยและเรียกความเชื่อมั่นจากคนไทยและชาวต่างชาติได้ ทั้งนี้ สาเหตุของการก่อเหตุมาจากการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำลายขบวนการและเครือข่ายการค้ามนุษย์อุยกูร์ ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อมั่นมีกลุ่มบุคคลอยู่เบื้องหลังในการจ้างวาน และมีบุคคลหลายกลุ่มมีวัตถุประสงค์และความต้องการเดียวกัน ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่พนักงานสืบสวนขยายผลต่อไป พร้อมกันนี้ ก็ยังไม่สามารถตัดประเด็นการก่อเหตุที่อาจจะมาจากการเมืองได้ เนื่องจากมี นายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ ยงยุทธ พบแก้ว ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับการวางระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่นปี2553 และระเบิดมีนบุรี ปี 2557 เนื่องจากเหตุระเบิดที่นายอ๊อด มีส่วนเกี่ยวข้องมีความเชื่อมโยงการเมือง จึงไม่สามารถตัดประเด็นการเมืองทิ้งได้ เพราะอาจเป็นการร่วมลงมือก่อเหตุระเบิดของผู้เสียผลประโยชน์ 2 กลุ่ม ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าสำหรับการที่ประเทศไทยส่งตัวชาวอุยกูร์จำนวน 109 คนไปที่ประเทศจีนก่อหน้านี้ เป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวนายอ๊อด และผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่ รวมถึงนายซูแบร์ ชายเสื้อฟ้าหากหลบหนีไปยังประเทศใด ก็จะต้องประสานไปยังประเทศนั้น ขณะเดียวกัน สำหรับพยานหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ ตนและเจ้าหน้าที่ก็ทำอย่างตรงไปตรงมาจนทำให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายต้องยอมจำนนในภายหลังได้ และยืนยันว่าการสืบสวนสอบสวนในขณะนี้เดินมาถูกทางแล้ว ส่วนจำนวนเงินค่าจ้างในการก่อเหตุครั้งนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงคำรับสารภาพของนายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาน โมฮัมเหม็ด ที่ถูกจับกุมได้ให้การรับสารภาพว่ามีผู้ร่วมขบวนการนำระเบิดไปวางที่ท่าเรือเจ้าพระยาปริ้นเซส ย่านเจริญนคร 61 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมนั้น ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน แต่ไม่ได้นำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน สำหรับการตรวจสอบด้านสัญชาติในหนังสือเดินทางกับทางสถานฑูตประเทศตุรกีนั้น ก็กำลังดำเนินการประสานอยู่ ซึ่งก็ติดปัญหาตรงที่ไม่สามารถที่จะส่งหนังสือเดินทางฉบับจริงไปยังประเทศต้นทางได้ ขณะเดียวกันก็ได้ประสานได้ยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำการถอดถอนหนังสือเดินทางของนางสาววรรณา สวนสันแล้ว ส่วนกรณีพบภาพชายชาวต่างชาติ รูปพรรณเหมือนแขกขาว เข้าไปเดินภายในศาลทหาร ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า กระบวนการในการจับกุมตัวนายอ๊อด พยุงวงศ์ หลังจากนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งบุคคลดังกล่าวยังคงเป็นบุคคลที่ลึกลับและยังไม่มีเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายอ๊อด เคยถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อปี 2553 และศาลลงโทษจำคุก 1 ปี แต่ให้รอลงอาญา และถูกจับกุมในคดีอื่นๆรวม 9 ครั้งด้วย และพบว่าฝักแคระเบิดซึ่งเป็นหลักฐานในคดีระเบิดราชประสงค์ และท่าเรือสาทร เป็นชนิดเดียวกับที่คนร้ายเคยใช้ก่อเหตุในจังหวัดนราธิวาส รวมถึงยังพบว่ามีความเกี่ยวกับหลายเหตุการณ์ด้วย ส่วนรายชื่อผู้ต้องหา 17 คนนั้นยังทราบรายชื่อเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และสัญชาติก็พิสูจน์ได้เพียง 2 คน เนื่องจากยังไม่ทราบใบหน้าและหนังสือเดินทางที่ชัดเจน พร้อมทั้งระบุว่าหากเจอนายอ๊อดที่ไหนก็จะจับ และขณะนี้ยังอยู่ในเรื่องของการสืบสวนสอบสวน
นอกจากนี้ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ทางพล.ต.อ.สมยศ ยังได้มอบเงินกว่า 3 ล้านบาทให้กับพล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นรางวัลให้ทีมชุดสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานครั้งนี้







