'จีน' ประกาศซ้อมรบรอบไต้หวันครั้งใหญ่ รวม 4 เหล่าทัพ เล็งใช้กระสุนจริง

'จีน' ประกาศซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันครั้งใหญ่ รวมทหาร 4 เหล่าทัพ ตอบโต้ไต้หวันบรรลุดีซื้ออาวุธสหรัฐ 11,000 ล้านดอลลาร์ ชี้เล็งใช้กระสุนจริงซ้อมรบด้วย
กองทัพจีน ประกาศเคลื่อนกำลังพลทั้งทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ และกองกำลังขีปนาวุธ ซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันตั้งแต่วันจันทร์นี้ (29 ธ.ค.) เป็นต้นไป ซึ่งยิ่งเพิ่มสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสองฝั่งช่องแคบให้รุนแรงขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออก ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน เผยแพร่ประกาศพร้อมแผนที่การซ้อมรบ ซึ่งจะรวมถึงการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริงในพื้นที่ใกล้กับเกาะไต้หวันในวันอังคาร
กองทัพจีน ระบุว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้ใช้รหัส “ภารกิจยุติธรรม 2025” (Justice Mission 2025) เพื่อ “เตือนอย่างเข้มงวด” ต่อกลุ่มที่พยายามแยกตัวเป็นเอกราชและกองกำลังภายนอก พร้อมยืนยันว่าการซ้อมรบครั้งนี้ “ชอบธรรมและจำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและความเป็นปึกแผ่นของชาติจีน”
แผนที่การซ้อมรบแสดงพื้นที่ปฏิบัติการ 5 แห่งล้อมรอบเกาะไต้หวัน พร้อมสั่งห้ามเรือและเครื่องบินเข้าเขตน่านน้ำและน่านฟ้ารอบเกาะ โดยกองทัพเน้นย้ำว่าการฝึกจะเน้นการลาดตระเวนเตรียมพร้อมรบทางเรือและอากาศ รวมถึงการปิดล้อมท่าเรือสำคัญและจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ
เมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา จีนเคยซ้อมรบใหญ่ใกล้เกาะไต้หวันมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยครั้งนั้นได้ระดมกองเรือบรรทุกเครื่องบินซานตงและฝึกซ้อมยิงอาวุธจริงระยะไกล
พรรคคอมมิวนิสต์จีนถือว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งที่แยกตัวออกไป และต้องนำกลับมารวมกับจีนแผ่นดินใหญ่ให้ได้ แม้จะต้องใช้กำลังก็ตาม ทั้งนี้ ไต้หวันซึ่งปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยได้แยกตัวจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 2492
ฟู่ เจิ้งหนาน ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์การทหารของจีน ชี้ให้เห็นถึงขนาดของแพ็จเกจอาวุธล่าสุด และสิ่งที่เขามองว่าเป็นการเปลี่ยนจากอาวุธป้องกันไปเป็นอาวุธโจมตี
ซึ่งฟู่น่าจะหมายถึงระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่เร็ว หรือ HIMARS ที่ยูเครนใช้ในการต่อสู้กับรัสเซีย อาวุธนี้สามารถโจมตีได้ไกลถึงชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ไต้หวันได้รับอาวุธเหล่านี้เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว และเริ่มทดสอบในเดือนพ.ค. 2025
ด้านคาเรน กัว โฆษกสำนักประธานาธิบดี ประณามการซ้อมรบทางทหารครั้งล่าสุดของจีนว่า ไม่ได้แค่บ่อนทำลายความมั่นคงและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกอย่างโจ่งแจ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นการท้าทายกฎหมายระหว่างประเทศและระเบียบระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้งอีกด้วย
กระทรวงกลาโหมไต้หวันยังได้วิพากษ์วิจารณ์จีนที่กระทำการยั่วยุไร้เหตุผล พร้อมเสริมว่าไต้หวันสั่งกองทัพฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมรบทุกสถานการณ์
รัสเซียคัดค้านเอกราชไต้หวันทุกรูปแบบ
เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในวันอาทิตย์ (28 ธ.ค.) ว่า รัสเซียคัดค้านเอกราชของไต้หวันทุกรูปแบบ และถือว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของจีนที่มิอาจแยกออกจากกันได้
ลาฟรอฟแสดงจุดยืนดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย พร้อมกับเรียกร้องให้ญี่ปุ่น “คิดอย่างรอบคอบ” เกี่ยวกับแนวทางที่เขาระบุว่าเป็น “การเสริมกำลังทางทหาร”
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ธ.ค.) หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า แผนงบประมาณด้านกลาโหมฉบับใหม่ของญี่ปุ่นเผยให้เห็นเจตนาร้ายของกลุ่มขวาจัดในญี่ปุ่นที่ต้องการผลักดันให้ประเทศกลับมาเสริมกำลังทางทหารและฟื้นฟูลัทธิทหารขึ้นมาอีกครั้ง
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งงบประมาณด้านกลาโหมสำหรับปีงบประมาณ 2569 ไว้ที่ 9.04 ล้านล้านเยน (ราว 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเสื่อมถอยลง หลังจากที่ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่า หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นในไต้หวัน อาจถือเป็น “สถานการณ์คุกคามความอยู่รอด” ของญี่ปุ่น ซึ่งคำกล่าวของทาคาอิจิถูกตีความว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจอนุญาตให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นดำเนินการสนับสนุนไต้หวัน หากจีนใช้มาตรการปิดล้อมทางทะเล หรือใช้รูปแบบการบีบบังคับอื่นๆ ต่อไต้หวัน ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับจีนเป็นอย่างมาก เนื่องจากจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และปัญหานี้เป็นกิจการภายในของจีน







