ผบ.ทบ.หวั่นตกหลุมพรางใช้ความรุนแรง

ผบ.ทบ.หวั่นตกหลุมพรางใช้ความรุนแรง

ผบ.ทบ.ย้ำกกล.รส. รอบคอบ-อดทน-ระมัดระวัง ดูแลกลุ่มเคลื่อนไหว หวั่นตกหลุมพรางใช้ความรุนแรง เร่งทำความเข้าใจและขอความร่วมมือ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) เมื่อเวลา8.00 น. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้กำชับเรื่องการติดตาม สั่งการดูแลความสงบเรียบร้อยของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมข้อมูลและแผนการปฏิบัติงาน การทำงานของหน่วยในเรื่องความรวดเร็ว โดยแผนรายสัปดาห์ที่จะปฏิบัติต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น รวมถึงการเข้าไปทำความเข้าใจนั้น ควรมีความปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ เช่นการทำความเข้าใจกับกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะทุกเรื่องมีความอ่อนไหว และทุกกลุ่มต่างมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองต้องการให้เกิดผลอย่างไร

ดังนั้นการเข้าไปทำความเข้าใจก่อนในเบื้องต้น จะเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดภาพที่มีผลกระทบต่อภาพรวม กรณีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ก็ควรเข้าไปทำความเข้าใจ และ ขอความร่วมมือ หากกลุ่มดังกล่าวยังยืนยันที่จัดกิจกรรมต่อเนื่อง ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่หน้างานจะดูแลการจัดกิจกรรมเหล่านั้นให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย หากสร้างความเดือดร้อน หรือ มีนัยแอบแฝงเพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง ต้องใช้ความรอบคอบ และระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ขอให้เจ้าหน้าที่ของ กกล.รส. ใช้ความอดทน ความละมุนละม่อมในการปฏิบัติหน้าที่

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ผบ.ทบ. ยังได้เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ให้ทั้งสอดส่องดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้าย หรือ มีผู้ไม่หวังดีก่อความไม่สงบในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดต้องทำงานประสานสอดคล้องกันเพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุได้ ทั้งนี้ในที่ประชุม ยังได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ข่าวทั่วไป ทั้งการจับกุมอาวุธสงครามที่วัดป่าสีวลี จ.สระบุรี

รวมถึงกรณีของการจับกุม น.ส.ณัฎฐธิดา มีวังปลา หรือแหวน ซึ่ง่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันก่อการร้าย ซึ่งกรณีที่เกิดความไม่ชัดเจนเรื่องการจับกุมในช่วงแรก เพราะคดีความมั่นคงมีคณะทำงานของเจ้าหน้าที่หลายส่วน การดำเนินการบางครั้งต้องดำเนินการไปตามหน้างาน เพื่อไม่ให้ข่าวรั่ว แต่ในระดับผู้บังคับบัญชาได้รับทราบร่วมกัน