ลุงลุย ฝ่าเกมโหด 3 ก๊กการเมือง เข็น‘พปชร.’ แอบฝัน‘นายกฯ’

เข้าโหมดเลือกตั้งเต็มตัว หลังอนุทิน ชาญวีรกูล ตัดสินใจยุบสภา หนีเกมซักฟอก เซ่นพิษแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ยอมตามใจพรรคประชาชน ตัดอำนาจสว. 1 ใน 3 จนแท้งกลางอากาศในวาระ 2

เมื่อไม่มีสภา ความเป็น สส. ของแต่ละคนก็สิ้นสภาพ ได้ฤกษ์ย้ายพรรคกันอุตลุต สมัครเข้าสังกัดพรรคใหม่ ให้เข้าเงื่อนไขเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า30วัน ถึงจะลงเลือกตั้งได้

หลายพรรคทยอยเปิดตัว บ้านใหญ่ บิ๊กเนม กันให้ฝุ่นตลบ โดยเฉพาะภูมิใจไทย ที่เนื้อหอมอย่างขีดสุด นักการเมืองทุกสารทิศตบเท้ามากันอย่างคึกคัก

รวมถึงการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตรงนี้ถือว่ามีส่วนสำคัญในการกวาดคะแนนเสียง เพื่อไทยโชว์ 3 รายชื่ออย่างเป็นทางการเรียบร้อย ได้แก่ ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

คล้อยหลังพรรคประชาชน ที่เปิดตัว 3 รายชื่อไปเรียบร้อยก่อนหน้านี้ ได้แก่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ศิริกัญญา ตันสกุล และ วีรยุทธ กาญจน์ชูฉัตร

ส่วนภูมิใจไทย ตอนนี้มีแค่อนุทิน ส่วนเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ และศุภจี สุธรรมพันธุ์ ท่าทียังแบ่งรับแบ่งสู้ เท่ากับว่า 3 ก๊กการเมือง ส้ม-แดง พร้อมแล้ว เหลือน้ำเงิน ที่ยังตามตื๊อ ตามจีบกันต่อไป

ขณะที่พรรคกล้าธรรม แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่น่าพลิกโผ ในเมื่อนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคบอกเอง แคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ของพรรค คือ ธรรมนัส พรหมเผ่า

อีกหนึ่งพรรคที่ยังใจสู้ ต้องยกให้พลังประชารัฐ แม้ขุนพลตัวหลักจะโบกมือลาลุงป้อม ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปแทบเกลี้ยงพรรค จนหลุดวงโคจรพ้นความเป็นศูนย์กลางอำนาจมาหลายปี แต่นาทีนี้ก็ยังพยายามฮึดอีกเฮือกในสนามเลือกตั้ง ปี 69

ท่ามกลางกระแสข่าวการวางตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 แน่นอนว่า เป็นใครไปไม่ได้ ต้องลุงป้อม หัวหน้าพรรคมาเอง เบอร์ 2 มีชื่อธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรค และตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ในฐานะเลขาฯ พรรค คั่วเบอร์ 3 ที่เหลือก็ต้องรอเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่

พลังประชารัฐ ในเกมที่การเมือง 3 ขั้ว ส้ม แดง น้ำเงิน สู้กันอย่างหนัก พรรคลุง จะสอดแทรกหรือขึ้นมาได้อย่างไร ก็เป็นคำถามที่ใครก็ตอบไม่ถูก

การเปิดบ้านอ้าแขนรับเฉลิม อยู่บำรุง ที่หักกับเพื่อไทย คือนักการเมืองรายล่าสุด ที่เข้ามาอยู่กับพลังประชารัฐ แต่ระหว่างนั้น อดีตสส. หลายคนที่มาเปิดตัว ถึงตอนนี้เผ่นไปลงสมัครพรรคอื่นเพียบ พูดง่ายๆ ว่า แวะมาเอาของเสร็จ พอถึงเวลาก็ไป ทิ้งลุงไว้ข้างหลัง

ดังนั้น ขุนพลพลังประชารัฐ จึงต้องทุ่มสุดตัวไม่เม้ม อย่างน้อยต้องทำให้ได้ 25 สส. ให้ได้ก่อนเป็นสเต็ปแรก อย่างน้อยเปิดประตูบานแรกให้พร้อม ส่วนจะมีโอกาสถูกเสนอชื่อหรือไม่ เป็นอีกเรื่องที่ต้องว่ากันต่อในอนาคต ใครจะไปรู้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เหลือแค่ลุงพอถึงเวลาจะฟิตพร้อมหวดจริงหรือไม่

เลือกตั้งครั้งนี้ ถูกคาดหมายว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในทางการเมืองของลุงป้อม ว่าจะยืนระยะต่อได้อีกนานแค่ไหน หรือจะต้องเจอกับสถานการณ์บังคับให้ต้องเลิก หรือวางมือ เพราะสภาพการบริหารจัดการภายในพรรคตอนนี้ ก็พอจะเห็นทิศทางแล้วว่า อนาคตลุงบนเส้นทางอำนาจจะลงเอยอย่างไร