'สว.พิสิษฐ์' หวั่นครหายื้ออำนาจ ถอยชงต่ออายุ'สว.-องค์กรอิสระ' ครบวาระ

ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ  ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง

โดยที่ประชุมได้พิจารณาต่อเนื่องถึง มาตรา 256/26 ว่าด้วยการกำหนดกรอบการจัดทำเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งกมธ.เสียงข้างมากมีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำให้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ การตรวจสอบอำนาจรัฐ  คุ้มครองความเสมะภาคประชาชน  การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำกัดขอบเขตการใช้ดุลยพินิจของรัฐ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายนั้น พบว่า กมธ.เสียงข้างน้อยได้สงวนความเห็นให้เพิ่มเติม

โดยนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  อภิปรายว่า สิ่งที่ขอสงวนความเห็น คือ การสร้างมาตรฐานทางการเมือง และบรรทัดฐานบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งด้วยมาตรฐานจริยธรรม เพื่อให้เป็นมาตรฐานการเข้าสู่ตำแหน่งของผู้บริหารประเทศและองค์กรอิสระ

นอกจากนั้นยังได้ผลักดันให้มีการเพิ่มมาตราใหม่ได้สำเร็จ ต่อการบัญญัตติไม่ให้แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ไว้ ตนขอยืนยันในจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ คือ การสร้างสมดุล ความมั่นคงสถาบันหลัก ประชาธิปไตยสุจริตและประสิทธิภาพความรอบคอบ
 

ขณะที่กมธ.เสียงข้างน้อยในฝั่ง สว. ได้แก่ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษ์ สว.ที่สงวนความเห็นให้มีบทเฉพาะกาลรองรับสถานะของสว.ชุดปัจจุบัน และกรรมการองค์กรอิสระให้อยู่จนครบวาระ

ทั้งนี้นายพิสิษฐ์ ยืนยันว่า เจตนาดั้งเดิมของตนที่เสนอคำสงวน ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดนอกจากปราถนาดีที่จะเห็นความต่อเนื่องของสว.และองค์กรอิสระ ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้เกิดสภาวะสุญญกาศการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้กลไกตรวจสอบถ่วงดุลยังดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง

แต่อย่างไรก็ดีตั้งแต่รายงานฉบับนี้ มีการพิจารณาโดยกมธ.และถูกเผยแพร่ออกไปสว.เสียงส่วนใหญ่ทักท้วงตนในเรื่องที่ตนได้สงวนความเห็นในมาตรา256/26 ทั้ง3อนุฯ 
 

ทั้งนี้จากที่ได้ความเห็นจากสมาชิกรวมถึงประชาชน มีประเด็นดังกล่าวอาจจะถูกตีความคลาเคลื่อนจากเจตนาเดิม ซึ่งอาจเกิดข้อกังขาว่า เป็นข้อเสนอเพื่อประโยชน์ของส่วนตัวหรือเพื่อพยายามยื้ออำนาจของสมาชิกวุฒิสภาไว้

เพื่อความสง่างามของรัฐสภาแห่งนี้และเพื่อขจัดข้อสงสัยทั้งปวงต่อทั้งตนและสมาชิกวุฒิสภาเสียงส่วนใหญ่ว่ามีวาระซ่อนเร้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและให้คงไว้ซึ่งอำนาจและหน้าที่ของวุฒิสภา ตนต้องขอยืนยันในที่ประชุมแห่งนี้และด้วยเกียรติของสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยและเสียงต่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สำคัญยิ่งกว่าวาระการดำรงตำแหน่งของบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

"ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและเพื่อให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เดินหน้าต่อไปโดยปราศจากข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนและเพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังจัดทำมีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กระผมจึงขอถอนคำสงวนความเห็นของกระผมมาตรา256/26ทั้ง3อนุออกและไม่ติดใจใดๆ"