‘เศรษฐา’ เมิน หยอดน้ำข้าวต้ม แจก1-2พัน ไม่เวิร์ค ชู ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ สู้ตปท.

‘เศรษฐา’ เมิน หยอดน้ำข้าวต้ม แจก1-2พัน ไม่เวิร์ค ชู ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ สู้ตปท.

“เศรษฐา” ลั่น วันนี้เศรษฐกิจวิกฤติ เพื่อนบ้านโตกว่าเรา2-3เท่าตัว ย้ำต้องกระตุ้นครั้งใหญ่ ด้วย ”ดิจิทัลวอลเล็ต“ 1หมื่นบาท ชี้ รัฐบาลในอดีต แค่หยอดน้ำข้าวต้ม แจกเงิน 500-1,000-2,000 ไม่เวิร์ค ไม่ไปไหน

ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งในงานสัมมนา “The Better Future Forward 2024”  หัวข้อ  "Reinventing Thailand : Toward Becoming a Key Global Player ทำประเทศไทยให้ดีกว่าเดิม : สู่พลังขับเคลื่อนหลักในเวทีโลก" ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ ว่า ตนคงไม่ต้องพูดหรอกว่าปัจจุบันเศรษฐกิจวิกฤติหรือไม่วิกฤติ แต่ละคนก็มีข้อคิดเห็นแตกต่างกันไป 

"จุดยืนของรัฐบาลนี้ชัดเจนครับ เศรษฐกิจวิกฤติครับ ดูจากตัวเลขการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ บ่งบอกชัดเจนเราไม่สามารถสู้คู่แข่งต่างประเทศได้ เราไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวในโลก เราอยู่บนโลกแห่งการแข่งขันสูง ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา ประเทศเหล่านี้มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่3สูงกว่าเรามาก บางประเทศดับเบิ้ลหรือทริปเปิ้ลเลยก็ว่าได้ ถ้าเรายืนอยู่คนเดียวบนโลก โต1.5%ก็คงอาจจะไม่เป็นอะไรมั้ง แต่วันนี้คุณแพ้คู่แข่ง2-3เท่าตัว ผมเชื่อว่าอนาคตที่ดี โอกาสที่สดใสของเรา ก็จะมืดมนลงไป ถ้าเราไม่มีการทำอะไรเกิดขึ้น" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายที่หลายท่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ประเทศไทยเป็นกระจกสะท้อนของเลขาคณิตได้อย่างชัดเจนคือพีระมิด คนมีเงินมากอยู่ฐานบน คนมีเงินน้อยอยู่ฐานล่าง ฐานล่างก็ขยาย มีคนต้องการความช่วยเหลืออยู่มากมาย 

"ผ่านมาหลายๆรัฐบาล มีการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหยอดน้ำข้าวต้ม แจกเงินทีละ 500 ทีละ1,000 ทีละ 2,000 ไปถึงไหนไหมครับ 10 ปีหลัง เศรษฐกิจขยายตัว 1.8% โดยเฉลี่ย ไม่ไปไปถึงไหนเลย วิธีการนี้ไม่เวิร์ค เราต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่" นายกฯ กล่าว 

นายกฯ กล่าอีกว่า ส่วนการฟังความคิด วิธีการ เรื่องของงบประมาณ หรือมาตรการป้องกันคอร์รัปชั่น เหล่านี้รัฐบาลให้ความสำคัญ ทั้งนี้ ถ้าดิจิทัลวอลเล็ตเกิดขึ้นอะไรจะเกิดขึ้น สมมติถ้าตนบอกว่าวันที่ 1 มิ.ย. ดิจิทัลวอลเล็ตจะเกิดขึ้น สมาชิกสภาอุตสาหกรรมทั้งหลายคงตีปีก ทุกคนต้องพร้อมผลิตสินค้ามากขึ้น อยู่ดีๆ จะมีเม็ดเงินใหม่เข้าไปในระบบประมาณ 5 แสนล้านบาท เยอะมาก ถ้าผลิตสินค้าอะไรจะเกิดขึ้น การจ้างงาน การสั่งของ การทำงานล่วงเวลา เงินในกระเป๋าของพี่น้องจะขึ้นมาเท่าไหร่ มโหฬารมากน้อยขนาดไหนอย่างไร นอกจากนั้น เรามีมาตรการควบคุมการใช้เงิน บัตรประชาชนอยู่อำเภอไหน ก็ใช้อำเภอนั้น ไม่ใช่แห่เข้ามาใช้ในกรุงเทพฯ หาดใหญ่ เชียงใหม่ ภูเก็ต อย่างเดียว เราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของทุกอำเภอ ทุกจังหวัดในประเทศประเทศไทย