“ก้าวไกล” ผิดหวัง ส.ว.ยื้อประชามติ รธน. จับตา กมธ.ศึกษาฯ อย่าเตะถ่วง

“ก้าวไกล” ผิดหวัง ส.ว.ยื้อประชามติ รธน. จับตา กมธ.ศึกษาฯ อย่าเตะถ่วง

“ณัฐพงศ์ ก้าวไกล” ผิดหวังที่ประชุม ส.ว.ยื้อทำประชามติแก้ รธน.ตั้ง กมธ.ศึกษาฯก่อน ชวนจับตา 30 วัน หนทางสู่ประชามติ หวังพิจารณาบนข้อเท็จจริง ไม่ตุกติก อย่าเตะถ่วง

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.เขตบางแค พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอญัตติขอให้สภาฯพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามที่สภาฯมีมติในการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เปิดเผยว่า เป็นที่น่าเสียดายที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ไม่อนุญาตให้มีตัวแทนจากฝั่ง ส.ส. เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงในฐานะผู้เสนอญัตติ จึงไม่สามารถตอบข้อสงสัยในหลาย ๆ เรื่องที่วุฒิสภามีข้อกังวลจากวุฒิสมาชิกบางท่านได้ อาทิ เรื่องเนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับญัตตินี้ รวมไปถึงประเด็นด้านการประหยัดงบประมาณ ที่คณะรัฐมนตรีสามารถดำเนินการได้ผ่านการตราเป็นพระราชกำหนด เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประชามติในบางมาตรา ก็เป็นช่องทางที่ทำให้การจัดทำประชามติ สามารถจัดพร้อมกับการเลือกตั้งเพื่อประหยัดงบประมาณได้ เป็นต้น

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า เชื่อว่าหากในที่ประชุมวุฒิสภา ได้รับทราบเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ ผลการลงมติก็อาจมีทิศทางต่างออกไป เพราะเหตุผลที่ให้ไว้สำหรับการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาก่อน 30 วัน ก็ด้วยเหตุผลที่ให้ไว้ข้างต้นทั้งสิ้น น้อยคนมาก ที่จะอภิปรายไปในทิศทางไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ มีแต่บอกว่าเห็นด้วย แต่อยากให้พิจารณาศึกษาให้รอบคอบอย่างมีวุฒิภาวะ ให้สมกับเป็นวุฒิสภา ตามคำอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภาบางท่าน

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษานี้ จะดำเนินไปด้วยความตรงไปตรงมา พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันตามที่ได้เสนอไว้ อย่าได้ขอเวลาขยายกรอบการพิจารณาออกไป ลากเกมเตะถ่วง ตามที่หลาย ๆ คนได้ตั้งข้อสังเกตไว้ในที่ประชุม และได้แต่หวังว่า กรรมาธิการของวุฒิสภาที่ตั้งขึ้นมาศึกษาพิจารณาญัตตินี้ จะเปิดโอกาสให้ ส.ส. เข้าชี้แจงในฐานะผู้เสนอญัตติ เพื่อให้ทราบถึงเจตนารมย์ของผู้เสนอญัตติ มากกว่าการอ่านและตีความเอาเองจากลายลักษณ์อักษร เพื่อให้การพิจารณาศึกษาในกรณีดังกล่าว มีความถูกต้อง รอบคอบ ครบถ้วน และเป็นการพิจารณาศึกษาอย่างมีวุฒิภาวะ ตามที่วุฒิสมาชิกได้อภิปรายไว้ ในห้องประชุมจันทราแห่งนี้” นายณัฐพงศ์ กล่าว