กกต.ตีตกคำร้องสอบ "ธรรมนัส" ปมมติ พปชร.ขับพ้นพรรค เหตุยื่นชื่อไม่ครบตาม กม.

กกต.ตีตกคำร้องสอบ "ธรรมนัส" ปมมติ พปชร.ขับพ้นพรรค เหตุยื่นชื่อไม่ครบตาม กม.

กกต.ตีตกคำร้องสอบ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ปมมติ พปชร.ขับ 21 ส.ส. พ้นพรรค เหตุมีผู้ร้องไม่ครบถ้วนตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ

เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2565 มีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามที่สำนักงาน กกต.เสนอไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในกรณีที่นายสมัย รามัญอุดม พร้อมพวกรวม 156 คน และนายถนอม แม่นสอน กับพวกรวม 130 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นขอให้ตรวจสอบมติพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 ที่ขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พร้อมพวกรวม 21 ราย ออกจากพรรคว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

กรณีนี้ สำนักงาน กกต.เสนอความเห็น พร้อมรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงความเป็นสมาชิกและเจตจำนงค์ในการยื่นคำร้องของผู้เข้าชื่อทั้งหมด พบว่าแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ

  1. เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และลงลายมือชื่อให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแต่มีจำนวนไม่ถึง 100 คน
  2. เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐและลงลายมือชื่อ แต่ให้ถ้อยคำว่าไม่ได้เพื่อให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว 
  3. เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ลงลายมือชื่อ แต่ถูกนำชื่อไปใช้

รวมทั้งไม่พบว่าในจำนวนสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่เข้าชื่อมีบุคคลที่เป็น ส.ส. คำร้องดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องครบถ้วนตามมาตรา 42 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่ กกต.จะสามารถพิจารณาวินิจฉัยได้

ทั้งนี้ตาม พ.ร.ป.ด้วยพรรคการเมืองฯ มาตรา 42 บัญญัติว่า ในกรณีสมาชิกซึ่งเป็น ส.ส.คนหนึ่งคนใด หรือ สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 100 คน เห็นว่ามติของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ขัดต่อ พ.ร.ป.ฉบับนี้ หรือกฎหมายอื่นให้ร้องขอต่อ กกต.เพื่อพิจารณาวินิจฉัย ถ้า กกต.วินิจฉัยว่า มติใดของพรรคการเมืองขัดต่อ พ.ร.ป.ฉบับนี้ หรือกฎหมายอื่นให้ กกต. มีอำนาจสั่งเพิกถอนมติดังกล่าวได้มีอำนาจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้ง 2 คำร้องดังกล่าวมีการยื่นให้ กกต.ตรวจสอบช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยสำนักงาน กกต.ได้ตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าชื่อยื่นคำร้องทั้งหมดกับระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรค และเสนอต่อที่ประชุม กกต.พิจารณาไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2565 แต่ที่ประชุม กกต.ขณะนั้นเห็นว่า ยังมีปัญหาเรื่องจำนวนสมาชิกที่เป็นผู้ยื่นคำร้อง โดยควรมีการตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิกที่เป็นผู้ยื่นทั้งหมด ให้ถูกต้องครบถ้วนก่อน

สำนักงาน กกต.จึงได้มีการถอนเรื่องดังกล่าวกลับมาดำเนินการตรวจสอบใหม่ โดยได้ตรวจสอบความเป็นสมาชิกพรรค และสอบถามไปยังผู้มีชื่อยื่นคำร้องทุกคนว่าได้ลงชื่อโดยประสงค์ที่จะให้ กกต.ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ก่อนสรุปข้อมูลและเสนอรายงานผลการตรวจสอบให้ กกต.พิจารณา