ฝันสลาย สหายผู้กอง ปม”ฝ่ายแค้น”พ่ายศึกลำปาง

ฝันสลาย สหายผู้กอง ปม”ฝ่ายแค้น”พ่ายศึกลำปาง

"...ล็อกถล่ม “ธรรมนัส” ฝันสลาย พ่ายศึกลำปาง ทั้งที่พรรคเศรษฐกิจไทย หาเสียงไม่เอาประยุทธ์ ชูพรรคคนเมือง พร้อมสานต่อนโยบายทักษิณ ตัวแปรที่ทำให้ “ธรรมนัส” ผิดหวัง ส่วนหนึ่งมาจากเจ้าพ่อดอยเงิน พินิจ จันทรสุรินทร์ เปิดตัวลงสมัคร ส.ส.สมัยหน้า ทำเอาชาวบ้านปั่นป่วน..."

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.2565 หมอรวย หรือ วัฒนา สิทธิวัง อดีต ส.ส.ลำปาง พรรคเศรษฐกิจไทย ที่ถูกจัดให้เป็นตัวเต็งพลิกพ่าย หนานแมว หรือ เดชทวี ศรีวิชัย พรรคเสรีรวมไทย

รายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ หนานแมว-เดชทวี ศรีวิชัย ได้ 53,471 คะแนน ส่วนหมอรวย-วัฒนา สิทธิวัง ได้ 29,908 คะแนน 

ความปราชัยของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส่งผลให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทั้งที่ช่วงหาเสียงได้ประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลประยุทธ์ แถมบอกว่า พร้อมสานต่อนโยบายทักษิณ

หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 4 ลำปางใหม่ ตามที่ กกต.เสนอ ปรากฏว่า การเลือกตั้งค่อนข้างเงียบ เพราะมีคู่แข่งตัวเต็ง 2 คนคือ วัฒนา สิทธิวัง พรรคเศรษฐกิจไทย แชมป์เก่า และเดชทวี ศรีวิชัย พรรคเสรีรวมไทย อดีต ส.อบจ.ลำปาง เขต อ.เถิน

พรรคเพื่อไทย ในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดโอกาสให้พรรคเสรีรวมไทย ได้ส่งผู้สมัคร ส.ส.ในนามตัวแทนฝ่ายค้าน 
ย้อนไปเมื่อปี 2563 อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทยเสียชีวิต กกต. จัดให้มีเลือกตั้งซ่อม ซึ่งผลเลือกตั้งซ่อม 20 มิ.ย.2563 วัฒนา สิทธิวัง พรรคพลังประชารัฐ ได้ 61,824 คะแนน ตามมาด้วย ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ พรรคเสรีรวมไทย ได้ 37,781 คะแนน

ครั้งนี้ หมอรวยหรือวัฒนา ลงสนามในนามพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีหัวหน้าพรรคชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ผู้ประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามหัวหน้ารัฐบาลปัจจุบัน

ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ก็ใช้วิธีปราศรัยย่อย โดยขุดเรื่องทุจริตเลือกตั้งครั้งที่แล้วมาหาเสียง พร้อมประกาศให้ชาวลำปางเลือกฝ่ายประชาธิปไตย 

เลือกตั้งซ่อมปี 2563 “ธรรมนัส” พาหมอรวย หรือวัฒนา สิทธิวัง เข้าสภาฯ ได้เพราะ 2 ปัจจัยหลักคือ ความเป็นพรรครัฐบาล บวกพลังประชารัฐยังเป็นเอกภาพ และ พินิจ จันทรสุรินทร์ อดีต ส.ส.ลำปางหลายสมัย พรรคเพื่อไทย เปลี่ยนใจไม่ลงสนามกระทันหัน

สำหรับเลือกตั้งซ่อมปี 2565 สาเหตที่ทำให้หมอรวย แพ้เลือกตั้งชนิดหักปากกาเซียน มีอยู่ 2 ปัจจัย

ปัจจัยแรก ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์เหมือนครั้งที่แล้ว จึงหาเสียงในสไตล์พรรคฝ่ายค้าน วิจารณ์ความล้มเหลวการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์

คนลำปางเขต 4 ส่วนใหญ่ กลับมองว่า พรรคเสรีรวมไทยเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย ยังก้ำกึ่งว่า อยู่ฝั่งรัฐบาลหรือฝั่งฝ่ายค้าน

ปัจจัยที่สอง พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงสนามเหมือนปี 2563 แต่ล่าสุด แกนนำเพื่อไทยได้ประกาศว่า การเลือกตั้งสมัยหน้า เจ้าพ่อดอยเงิน-พินิจ จันทรสุรินทร์ จะกลับมาสมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 4 อีกครั้ง

บังเอิญ พินิจ จันทรสุรินทร์ อดีต ส.ส.ลำปาง 8 สมัย ประกาศคัมแบ็คในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง จึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่เปลี่ยนใจ รอเลือกพ่อพินิจสมัยหน้าดีกว่า  

ในวันที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี “ธรรมนัส” พลิกเกมขายความเป็นพรรคคนเมือง(คนภาคเหนือ) และพรรคลูกข้าวนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถล้างภาพความเป็นคนสนิท พล.อ.ประวิตรออกไปได้ 

อย่างวันที่ 7 ก.ค.2565 มีการปราศรัยใหญ่สวนสาธารณะเมืองเถิน ร.อ.ธรรมนัส ได้เปิดความในใจเป็นภาษาถิ่นว่า เดิมทีจะตั้งพรรคอีสานล้านนา แต่ก็เปลี่ยนมาสร้างพรรคของคนลำปาง ของคนพะเยา และตอนนี้ คนไทยทั้งประเทศ บอกพรรคเศรษฐกิจไทย ตั้งขึ้นมาเพื่อ “ไล่ปู้นั่น” (ไล่คนคนนั้น)ออกไป แล้วตั้งรัฐบาลใหม่ 

ร.อ.ธรรมนัส ไม่ระบุว่า วลีไล่ปู้นั่น (คนคนนั้น) หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ แต่ชาวบ้านส่วนหนึ่งกลับมองว่า เป็นแค่เกมหาเสียง

แม้ในเวทีปราศรัยย่อย ร.อ.ธรรมนัส ได้เล่าถึงเหตุผลที่แยกตัวออกจากพรรคพลังประชารัฐ มาตั้งพรรคใหม่ เพราะหัวหน้ารัฐบาลไม่พอใจ 

ร.อ.ธรรมนัส ยังพูดถึงทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขวัญใจคนเมือง “ผมเคยร่วมงานกับท่านทักษิณมาตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณ เปิ้นปิ๊กมาไทยบ่ได้ แต่ผมก็บอกเปิ้นแล้วว่า ผมนี่แหละที่จะเป็นตัวแทนลูกข้าวนึ่ง สร้างชาติบ้านเมือง”
อย่างไรก็ตาม คนลำปางก็ได้ให้บทเรียนสำคัญแก่ ร.อ.ธรรมนัส และเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงนักการเมือง และพรรคที่สนับสนุน 3 ป. สมัยหน้าคงไม่มีที่ยืนในภาคเหนือ